ถืออยู่ในมือท่านฉบับนี้คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com ทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...nn “มือปราบ” ขอขอบคุณบรรดามิตรรักนักอ่าน ทั้งทางหนังสือพิมพ์ และออนไลน์ ที่มาอวยพรในเทศกาลปีใหม่ ทั้งเรื่องการงาน สุขภาพ รวมทั้ง ในปีมะเส็งซึ่งมีงูเป็นสัญลักษณ์นั้น ก็มีคนมาอวยพรว่า“ขอให้งูเต็มเติ้น ซึ่งผวนกลับได้ว่า “ขอให้เงินเต็มตู้”...

nn ซึ่งการที่จะให้งูเต็มเติ้น-เงินเต็มตู้ สมกับคำอวยพรในปี 2568 นั้น ก็ต้องลองฟังทิศทางและทัศนะถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทย จากบรรดาผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ และนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางสำหรับคนทำมาหากินทั้งในระดับรากหญ้าจนไปถึงมหาเศรษฐี...

nn เริ่มจาก ศุภวุฒิ สายเชื้อประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า แม้เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรก 2568 จะฟื้นตัวได้ดี ต่อเนื่องจากปลายปี 2567จากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ผลจากภาคการท่องเที่ยว การส่งออกที่ยังมีโมเมนตัมของการฟื้นตัวต่อเนื่อง...

nn แต่ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทย อาจหมดแรงจากภาคการเงินที่ตึงตัวมาก ภาคการคลังหมดแรงกระตุ้น จากเครื่องมือเศรษฐกิจที่เริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านงบประมาณในการใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังอาจผ่อนแรงลง...

nn บุรินทร์อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 เหมือน “คนป่วยพายเรือในมรสุม” เศรษฐกิจไทยจะเหมือนคนป่วย ที่มีปัญหาทั้งภายใน และปัญหาโครงสร้างมานานเกินกว่าที่จะแก้ไข บนความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เข้ามาเพิ่มขึ้น ดังนั้นปี 2568 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยเผชิญกับปัญหารุมเร้าทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดโทรม แม้ยังไปได้ต่อ แต่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปได้ช้าลง บนความไม่แข็งแรงมากนัก...

nn อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า หากนิยามเศรษฐกิจไทยปี 2568 เหมือน “ปีงู เลื้อยคดโค้งไปบนถนนเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน” ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องปรับตัวและรับมือกับความท้าทาย โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ การใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว การแจกเงินจากภาครัฐ และการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน เป็นปัจจัยหลักขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทำให้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ที่ 2.7%...

nn ผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย (TBA) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า 2568 ยังเป็นปีที่เหนื่อยต่อเนื่อง แต่เป็นปีที่มีความหวัง เพราะเศรษฐกิจพลิกฟื้น และในช่วงที่มีความผันผวนและมีแรงกระเพื่อมของมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกย่อมมีโอกาสแฝงอยู่ ทั้งการปรับเปลี่ยนของ Global Supply Chain ในเรื่องของฐานการผลิตย่อมมาพร้อมโอกาส และเราจะมีความพร้อมขนาดไหน และรัฐบาลก็มีนโยบายที่สอดรับกับโอกาสเหล่านี้อยู่...

nn ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ มองว่าเศรษฐกิจในปี 2568 ว่า น่าจะปรับดีขึ้นกว่าในปี 2567 โดยมีโอกาสเติบโตในระดับ 3% จากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการค้าขายในต่างประเทศและจากปัจจัยบวกในประเทศ รวมถึงมาตรการแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย”จะเป็นการแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการที่ยังประสบปัญหาให้สามารถกลับเข้ามาสู่ระบบ...

nn และสร้างความแข็งแรงให้กับเศรษฐกิจไทยในภาพรวมต่อไป มองแนวโน้มสินเชื่อปี 2568 มั่นใจเติบโตในระดับสูงเมื่อเทียบกับปี 2567 ตามปัจจัยบวกจากการกลับมาเติบโตทางเศรษฐกิจ...

nn รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 จะยังไม่สามารถก้าวข้ามพ้นการฟื้นตัวแบบรูปตัวเค K-Shape (แต่ละกลุ่มธุรกิจฟื้นตัวไม่เท่ากัน) ที่ยิ่งทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นอีก ไทยเป็นประเทศที่มีระดับการเลื่อนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ (Social andEconomic Mobility Index) ต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน...

nn โดยโอกาสของคนยากจนและครัวเรือนรายได้น้อยจะสามารถเลื่อนฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมของตัวเองได้ไม่ถึง 40% อีกทั้งคนเหล่านี้ก็จะอยู่ในกับดักของความเป็นหนี้และความยากจนข้ามรุ่น หากไม่สามารถทำให้จีดีพีขยายตัวได้เต็มศักยภาพ...

nn นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีปัญหาการบังคับใช้กฎหมายหลายมาตรฐานทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงความยุติธรรมและโอกาสทางเศรษฐกิจอีกด้วย...

nn อธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ก็ยังมีความท้าทายอยู่นะ เนื่องจากยังมีปัจจัยไม่แน่ไม่นอนอยู่มาก จึงยังค่อนข้างน่าห่วง โดยเฉพาะภาคการส่งออก ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่จะประกาศออกมา เช่น การปรับขึ้นภาษีต่างๆ คาดว่าจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะเหนื่อยหนักมากขึ้น รวมถึงประเทศไทยด้วย...

nn แม้ว่าหลายคนมองว่าจะส่งผลดีต่อประเทศไทยก็ตาม จากการที่มีนักลงทุนย้ายฐานมายังประเทศไทย แต่อาจจะไม่ใช่อย่างที่คาดการณ์ไว้ก็ได้ เพราะความไม่แน่ไม่นอนยังมีอยู่สูง...

nn “มือปราบ”เห็นว่า ความปรารถนาที่อยากให้“งูเต็มเติ้น-เงินเต็มตู้” ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความผันผวนและไม่แน่นอนแบบนี้ ซึ่งที่จะสามารถยึดเหนี่ยวให้สามารถเดินได้ตามเป้าหมาย นั่นก็คือ “สติ” และการวางแผนทางการเงินที่ดีและรอบคอบ ซึ่งถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้...

nn ส่วนคนที่ยังมีหนี้สินและต้องการอยากจะมีเงินเต็มตู้แล้ว ก็ต้องศึกษาและฟังข้อแนะนำจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และปฏิบัติตามแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือ ก็น่าจะมีเงินเต็มตู้กันอย่างทั่วหน้า ตลอดปี 2568 และตลอดไปด้วย...nn สวัสดีครับ

มือปราบ