คนมีฐานะร่ำรวยที่ได้เงินมาโดยสุจริต และสามารถเปิดเผยที่มาของเงินทองที่ตนเองครอบครองได้อย่างขาวสะอาดโปร่งใส เป็นคนที่น่ายกย่องสรรเสริญแต่คนที่มีเงินทองมากมายมหาศาล แล้วไม่สามารถระบุที่มาของเงินทองได้ เป็นคนที่น่าสงสัย สมควรถูกสาธารณชนตั้งคำถาม และสมควรจะถูกสังคมตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทองอย่างเป็นจริงเป็นจังเพื่อให้รู้ว่าได้เงินได้ทองมาจากไหน ได้มาอย่างไร และได้มาโดยสุจริตหรือไม่
คำถามว่าเมื่อพ่อมีฐานะร่ำรวยแล้ว จะส่งทอดเงินทองมรดกมหาศาลให้ลูกได้หรือไม่ ตอบว่าได้ แต่ต้องเสียภาษีให้ถูกต้อง ไม่ใช่หมกเม็ดซ่อนเร้น เหมือนกับการที่พ่อลูกบางรายกระทำ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครห้ามหรือขัดขวางความร่ำรวยของใครได้ หากแต่ทุกคนมีสิทธิ์ตั้งคำถามกับคนที่มีฐานะร่ำรวยแบบผิดปกติได้ แล้วยิ่งเป็นนักการเมือง เป็นข้าราชการ และเป็นบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง ก็ยิ่งต้องถูกจับตามองโดยสังคมว่าคนเหล่านั้นร่ำรวยมากล้นมหาศาลมาด้วยกลวิธีใด ร่ำรวยอย่างขาวสะอาด หรือได้ทรัพย์มหาศาลมาโดยไม่ชอบธรรมหรือไม่
จากข่าวที่ปรากฏล่าสุดคือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีออกมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 แต่มีรายชื่อของบุคคลหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากสาธารณะมากเป็นพิเศษคือ แพทองธาร ชินวัตร ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทย สาเหตุที่สาธารณชนสนใจแพทองธาร เพราะว่าเธอมีทรัพย์สินที่รายงานต่อ ป.ป.ช. มากถึง 1.3 หมื่นล้านบาท (ทรัพย์สินทั้งสิ้นคือ 13,993,826,903 บาท) มีหนี้สินจำนวน 4,441,159,711 บาท ทั้งนี้ แพทองธารเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อ 6 กันยายน 2567
ตามข้อเท็จจริงที่แพทองธารระบุคือ มีสามีชื่อปิฎก สุขสวัสดิ์ และมีลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 2 คน
รายละเอียดทรัพย์สินที่แพทองธารแจ้งต่อ ป.ป.ช. มีดังนี้
ทรัพย์สิน 13,846,208,451 บาท ประกอบด้วย เงินสด 7,272,743 บาท เงินฝากในธนาคารต่าง ๆ รวม 29 บัญชี รวมเป็นเงิน 1,081,187,216 บาท เงินลงทุน 11,007,772,574 บาท เงินให้กู้ยืม โดยให้นายพานทองแท้ชินวัตร กู้ยืม 15,238,714 บาท
แพทองธารมีที่ดิน 12 แปลง ที่ดินอยู่ในเขตจังหวัดกรุงเทพฯ เพชรบุรี และในประเทศญี่ปุ่นที่เมือง Yoichi-gun รวมมูลค่า 724,922,982 บาท
มีทรัพย์สินเป็นโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง คือห้องชุด 5 หน่วย บ้าน 2 หลัง ทาวน์เฮ้าส์ 1 หลัง ตึกแถว 1 หลัง อยู่ในจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรีและเพชรบุรี รวมมูลค่า 168,615,386 บาท
มียานพาหนะคือ รถยนต์ทั้งหมด 23 คัน รวมมูลค่า 66,770,000 บาท และยังมีสิทธิและสัมปทาน ได้แก่ สิทธิการให้เช่าแฟลตใน กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร
มีกรมธรรม์ประกันภัย และเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมราชกรีฑาสโมสร รวมมูลค่า 358,789,334 บาท และยังมีทรัพย์สินอื่น เช่น ทองคำแท่ง นาฬิกา ต่างหู เป็นต้น รวมมูลค่า 415,639,500 บาท
ส่วนหนี้สินที่แจ้งไว้ มีจำนวน 4,439,980,600 บาท ประกอบด้วย เงินเบิกเกินบัญชี 5,458,262 บาท และหนี้สินอื่น ได้แก่ สัญญากู้ยืมเงินจากพินทองทา
ชินวัตร คุณากรวงศ์, พานทองแท้ ชินวัตร,บรรณพจน์ ดามาพงศ์, บุษบา ดามาพงศ์ และพจมาน ดามาพงศ์ รวมเป็นเงิน 4,434,522,338 บาท
ด้านสามีของแพทองธารคือปิฎก สุขสวัสดิ์ แจ้ง ป.ป.ช. ว่ามีทรัพย์สิน 147,118,452 บาท ประกอบด้วย เงินสด 4,436,236 บาท เงินฝากในบัญชีธนาคารตา่ง ๆ รวม 10 บัญชี มูลค่า 4,899,580 บาท เงินลงทุน 14,096,874 บาท เงินให้กู้ยืมแก่บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด รวม 8 สัญญา มูลค่า 12,770,000 บาท
มีที่ดิน 4 แปลง อยู่ในจังหวัดกรุงเทพฯและที่ประเทศญี่ปุ่น เมือง Yoichi-gun รวมมูลค่า 32,198,216 บาท
มีทรัพย์สินเป็นโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างคือ บ้าน 1 หลัง ตึกแถว 1 หลัง ห้องชุด 1 หน่วย อยู่ในจังหวัดกรุงเทพฯ รวมมูลค่า 8,273,784 บาท
มีสิทธิและสัมปทาน รวมเป็นเงิน 1,143,760 บาท และมีทรัพย์สินอื่นๆ ได้แก่ นาฬิกาและแหวนรวมมูลค่า 69,300,000 บาท
สำหรับส่วนของหนี้สิน แจ้งว่ามีหนี้สิน 1,179,110 บาท โดยหนี้สินทั้งหมดคือเงินเบิกเกินบัญชี
ส่วนบุตรสองคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 500,000 บาท โดยทั้งหมดเป็นสิทธิและสัมปทาน
เมื่อดูรายได้ของแพทองธาร พบว่ามีรายได้ต่อปี (ประมาณ) 265,567,322 บาท ซึ่งประกอบด้วย เงินเดือน ค่าจ้าง และเงินได้พิเศษ หรือโบนัส รวม 3,409,682 บาท เงินปันผล 259,267,639 บาท ดอกเบี้ย 2,000,000 บาท เงินจากค่าเช่า 890,000 บาท สรุปว่ามีรายจ่ายต่อปี (ประมาณ) 57,720,000 บาท
ส่วนสามีแพทองธารคือปิฎก แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี (ประมาณ) 5,129,100 บาท ประกอบด้วย เงินเดือน ค่าจ้าง และเงินได้พิเศษ หรือโบนัส รวม 3,746,000 บาท เงินปันผล 600,000 บาท ดอกเบี้ย 383,100 บาท มีเงินผลประโยชน์อื่นๆ /และจากการขายโทเคน 400,000 บาท สรุปคือแจ้งว่ามีรายจ่ายต่อปี (ประมาณ) 3,668,846 บาท
มีการตั้งข้อสังเกตว่าแพทองธารกู้เงินจากพี่น้องและแม่ของตนเอง รวมถึงจากบรรดาญาติๆ ของตัวเองมากมาย จนถูกตั้งคำถามว่ากู้ไปเพื่อทำธุรกิจอะไร
ขอย้ำรายชื่อเจ้าหนี้ของแพทองธารคือ พินทองทา ให้กู้เงิน 4 รายการ เป็นเงินดังนี้ 681,300,000 บาท 670,375,906.17 บาท 361,205,111.52 บาท และ 495,843,077.73 บาท
เจ้าหนี้รายต่อมาคือ บรรณพจน์ ดามาพงศ์ ให้กู้สองรายการ คือ 798,660,000 บาท และ 516,800,000 บาท
เจ้าหนี้รายต่อมาคือ พานทองแท้ เป็นเงิน 335,420,541 บาท
รายต่อมาคือ บุษบา ดามาพงศ์ เป็นเงิน 258,400,000 บาท
และเจ้าหนี้รายสุดท้ายคือ คุณหญิงพจมานดามาพงศ์ 136,517,701.60 บาท
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าแพทองธารใช้การกู้เงินจากแม่ พี่สาว พี่ชาย ลุง (พี่ของแม่) และเมียของลุงเท่านั้น เพราะไม่มีเจ้าหนี้เป็นบุคคลอื่นใดและน่าสนใจที่แพทองธารไม่กู้เงินจากธนาคาร และไม่กู้เงินจากพ่อ ทั้งๆ ที่พ่อของแพทองธารรวยล้นฟ้า
ไม่มีใครอิจฉาริษยาความร่ำรวยล้นฟ้าท่วมดินของแพทองธาร แต่มีคำถามมากมายว่าเธอได้ทรัพย์สินมหาศาลมาได้อย่างไร ได้มาเพราะพ่อให้ หรือได้มาเพราะทำการทำงานด้วยตนเอง แต่ก็มีคำถามเหมือนเดิมว่าแล้วแพทองธารทำมาหากินอะไรมาก่อนหรือ เหตุใดจึงร่ำรวยมหาศาลจนน่าสงสัยเช่นนี้
มีคำถามทิ้งท้ายว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของไทยจึงร่ำรวยมหาศาล ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ต่างมีหนี้มีสินมากมายมหาศาล และประเทศไทยก็มีหนี้สินมากมายไม่ต่างไปจากคนไทย แต่ต้องถามย้ำว่าแพทองธารทำมาหากินอะไรมาหรือ เหตุใดจึงร่ำรวยได้แสนมหัศจรรย์เช่นนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี