ร้อนฉ่าส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่มากๆ เมื่อ “นายชวน หลีกภัย” อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา ออกมาแสดงความเห็นถึงการกระทำของ “นายทักษิณ ชินวัตร”
กับรัฐบาล ที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ และนำบ้านเมืองไปสู่ปัญหา จน “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ลากหน้าขาวเผือดออกมาตอบโต้ พร้อม “พายัพ ปั้นเกตุ”
แต่ก็ถึงกับโดน “ส้นตีนเช็ดหน้า” และตามมาด้วยการตอบโต้แบบ “ไฟแลบ” มาก
1) นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองเป็นคนเดียวที่จะทำบ้านเมืองปั่นป่วนว่า ก็ต้องยอมรับว่า เราต้องถามรัฐบาลที่มีอำนาจในการจัดการ ทำอะไรให้ถูกต้องตรงไปตรงมาโดยไม่มีข้อยกเว้นได้ ทำไมไม่ทำ ทำไมปล่อยให้คนที่ทำให้เสียหายต่อส่วนร่วมลอยนวลอยู่ได้
ความจริงกรณีของนายทักษิณต้องถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่ จะมีสักกี่คนที่ได้ลดโทษจาก8 ปี เหลือ 1 ปี มีใครบ้างต้องเอ่ยมา เราไม่เคยได้ยินเลยฉะนั้น เมื่อได้รับสิ่งนี้แล้วน่าจะสนองตอบพระมหากรุณาธิคุณโดยปฏิบัติไปตามที่ได้รับพระราชทานมาอย่างเคร่งครัด เมื่อได้รับลดโทษเหลือ 1 ปี ก็ต้องติดคุก 1 ปี ไม่ใช่หาทางเลี่ยงออกไปอย่างนี้ แต่ต้องไปดูที่องค์กรทั้งหลายที่ทำให้คำวินิจฉัยนั้นปฏิบัติได้หรือไม่ นายทักษิณเป็นส่วนประกอบตัวเสริมสนับสนุน แต่องค์กรคือผู้ปฏิบัติ
เมื่อถามว่า จะคาดหวังได้อย่างไรในเมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ และยังคงออกมายืนยันว่าจำเป็นต้องใช้นายทักษิณเป็นที่ปรึกษา นายชวน กล่าวว่า นั่นเป็นเรื่องของเขา แต่หน้าที่ของรัฐบาลต้องยึดหลักที่ถูกต้องโดยไม่มีข้อแม้ต้องซื่อสัตย์ สมมุติว่าตัวบุคคลไม่ใช่นายทักษิณก็ต้องเอาหลักนี้ ถูกก็ถูก ผิดก็ผิด
ไม่ใช่เป็นการเหลื่อมล้ำหรือยกเว้น กับคนนี้ไม่ต้องปฏิบัติหรือปล่อยปละละเลยให้มีการละเมิดหลักความถูกต้องชอบธรรมก็เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปทั้งประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รัฐบาลจะไปประมาทด้วยเชื่อว่าเขาสามารถคุมได้หมด ก็ต้องระวัง
2) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายชวนวิจารณ์นายทักษิณ ว่า ทำตัวปั่นป่วนบ้านเมือง คงไม่เป็นความจริง นายทักษิณพยายามช่วยเหลือประชาชน ประเทศชาติ นำความรู้ความสามารถประสบการณ์มาทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง นายชวนต่างหากเป็นคนที่อวดอ้างว่ามีหลักการประชาธิปไตย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วนายชวน ไม่อยู่ในหลักการเลย มีแต่หลักลอยดีแต่พูด หลงยุคไม่ปรับตัว ยังวิพากษ์วิจารณ์ด้วยอคติเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ยังจมปลักกับอดีตของความขัดแย้ง ผ่านมา20 ปี ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เคยวิจารณ์อย่างไร มีอคติกับอดีตนายกฯทักษิณ มาตลอดเวลา 20 ปี ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงปล่อยวาง จมงมงายอยู่กับอดีตมืดดำวังวนความแค้นถือเป็นทัศนคติที่อันตราย ส่งต่อสืบทอดความชิงชัง
ทั้งที่คนรุ่นใหม่ในประชาธิปัตย์มีมากมาย หัวหน้าพรรคอย่างนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และกรรมการบริหารประชาธิปัตย์ยุคใหม่ เขากล้าคิด กล้าทำ กล้าข้ามความขัดแย้ง
คิดนอกกรอบ สลายความขัดแย้งที่มีมาเกือบ 20 ปีทำการเมืองเพื่อบ้านเมือง เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และตั้งรัฐบาลสมานฉันท์โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ นี่คือเส้นแบ่งความคิดที่ก้าวข้ามและแยกส่วนนายชวน จึงต้องเป็นฝ่ายค้านในฝั่งรัฐบาล ถึงจะมีเอกสิทธิ์สส. แต่ก็ขอบอกว่าควรมีมารยาทในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ระวังจะเสียผู้ใหญ่ โดนไล่ถอนหงอก การพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น อย่างเรื่อง “MOU44” ก็อ้างว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เคยคิดจะยกเลิก ตนอยากถามว่า แล้วทำไมไม่เลิกดีแต่พูดตามเคย ถ้าวันนั้นเลิกไปบ้านเมืองอาจเสียหายคามือประชาธิปัตย์ไปแล้วก็ได้ ถึงบอกว่าอย่าคิดแต่ตัวเองดีคนอื่นทำอะไรก็ชั่ว ก็เลวไปหมด ทำไมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่เป็นนายกฯมาเกือบ 10 ปี ทำไมไม่ออกมาคัดค้าน ทำไมพอรัฐบาลเพื่อไทยเป็นแกนนำ ก็ออกมาค้านออกมาติง ความรู้สึกรักชาติมันเว้นวรรคได้ด้วยหรืองงมาก ประหลาดใจจัง
พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลก็ค้านแหลกร้อยแปดเรื่อง ออกมาค้านยันรูขุมขน อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ด้อยค่าอดีตนายกฯทักษิณ ตีกระทบเพื่อไทย เอาชั่วให้คนอื่นแล้วเอาดีใส่ตัว ถูกกล่าวหาว่าตั้งรัฐบาลในค่ายทหารบอยคอตต์การเลือกตั้งก็เคยทำมาแล้ว หรือการยอมร่วมรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ แล้วนายชวนได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็เคยทำอย่างหน้าชื่นตาบาน มาแล้ว รวมถึงญาติพี่น้องของนายชวนก็มีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ก็มีให้เห็น
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การกล่าวหาว่าอดีตนายกฯทักษิณทำตัวปั่นป่วนไม่อยู่ในหลักการนั้น นายชวนส่องกระจกดูตัวเองและทบทวนอดีตมาก จะได้เห็นสัจธรรมความจริง ปล่อยวาง อย่าจับผิดทุกเรื่อง ที่ดินเขากระโดง อัลไพน์ ก็คงว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีใครช่วยได้เป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม ยังไงก็คงเทียบไม่ได้กับความเสียหายจากวีรกรรมฉาวโฉ่ ส.ป.ก. 4-01 โจ๋งครึ่มไร้ยางอายถ้ามาเกิดยุคสมัยนี้คงไม่ได้ลอยนวล
“มาทำตัวเป็นฤๅษี ขึ้นธรรมาสน์ไม่ล้างเท้า อย่าดีแต่พูดมือถือสากปากถือศีล นายชวนและเหล่าผู้อาวุโสในประชาธิปัตย์ควรเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองเป็นตัวอย่างให้นักการเมืองรุ่นหลังเอาเป็นแบบอย่าง เข้าวัดไปทำบุญฟังเทศน์ฟังธรรมบ้าง จิตใจจะสงบจะดีขึ้น ปีใหม่ ประชาชนอยากฟังแต่เรื่องดีๆ เรื่องความสุข ความหวัง ของประชาชนเค้าจะพูดสิ่งใหม่ๆ อนาคตใหม่ๆ ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ ปีใหม่ประชาชนเบื่อที่จะฟังเรื่องเก่าๆ สร้างความขัดแย้ง ถ้าปรับไม่ได้ก็ปล่อยวางได้แล้ว”
3) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส. โพสต์เฟซบุ๊ก โต้ “เด็จพี่” สั้นๆ ว่า “จะล้างเท้าทำไม ก็จะเช็ดกับหน้ามึงนั่นแหละ”
4) นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจาร์อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ออกมาทำการเมืองปั่นป่วนทั้งที่ไม่มีหน้าที่ พร้อมเชิญชวนคนใต้ไม่ให้เลือกพรรคเพื่อไทยเเม้แต่คนเดียวว่า นิสัยนายชวนเป็นแบบนี้ถาวรไม่เคยเปลี่ยน เป็นมานานหลายสิบปี คิดว่าตัวเองดีอยู่คนเดียวคนอื่นเลวหมดใช้วาทกรรมแบบเดิมๆ เหยียดหยันคู่ต่อสู้ทางการเมืองโดยไม่เคยคิดจะพัฒนาตัวเอง ไม่เคยส่องกระจกดูสภาพตัวเองและพรรคประชาธิปัตย์ของตัวเองที่นายชวนคุยนักคุยหนาว่าปั้นมากับมือ สาละวันเตี้ยลง เลือกตั้งทุกครั้งคนเลือกน้อยลงทุกครั้ง ชนะเลือกตั้งน้อยลงทุกครั้ง จนกำลังจะกลายเป็นพรรคต่ำสิบอยู่แล้ว
“วันนี้คนของพรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งที่เห็นแก่ประเทศชาติต้องตัดสินใจมาเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชน มาอยู่ชายคาเดียวกับพรรคเพื่อไทย ที่จริง
ผมไม่อยากพูดคำนี้ แต่ท่านชวนท่านยกตัวเองดีเหลือเกินแล้วเหยียบย่ำคนอื่นมาตลอดแบบนี้ ผมขอพูดแทนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หน่อยเถอะว่า ท่านชวนควรไปเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านตัวเองบ้าง เพราะถ้าท่านชวนเป็นคนดีที่สุดกว่าคนอื่นในประเทศนี้แล้ว ปล่อยให้พรรคของท่านตกต่ำอย่างนี้ได้อย่างไร ท่านชวนดีจัดดีจนพูดได้ว่าคนไทยเกือบทุกภาคทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอิสาน โดยเฉพาะคน กทม. ไม่เลือก สส.พรรคประชาธิปัตย์สักคนแล้วยังไงครับ” นายพายัพ กล่าว
นายพายัพ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ทำกิจกรรมการเมืองลงพื้นที่ก็เป็นไปตามกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ที่ใช้กำกับอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีอะไร อะไรที่นอกเหนือกฎหมายกำหนด คนมีความรู้ความสามารถห่วงใยบ้านเมือง อะไรที่ ดร.ทักษิณ สามารถทำให้ประเทศชาติและประชาชนได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกฝ่ายช่วยกันทำ ไม่ใช่นิ่งดูดาย หรือนั่งพูดแต่ว่าตัวเองดีแล้วคนอื่นแย่ เหมือนที่นายชวนกำลังทำ ดังนั้น นายชวน ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ทางการเมืองจึงควรเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมืองบ้าง ทำใจให้กว้างกว่าอคติส่วนตัว เลิกร้อนตัวหวาดระแวงว่า ดร.ทักษิณ จะทำประโยชน์ให้ประชาชนได้มากกว่า และทำได้ดีกว่าจนคนลืมชื่อ ชวน หลีกภัย เสียที
5) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งว่า“สันดานเดียวกัน คบกันได้” ความว่า
• ผมอ่านข่าว นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และนายพายัพ ปั้นเกตุ ออกมาวิจารณ์ท่านชวน หลีกภัย และชื่นชมทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตต่อบ้านเมือง ผมไม่ให้ราคา บุคคล 2 คนนี้ และผมไม่แปลกใจที่คนเคยติดคุกชื่นชมคนเคยติดคุกด้วยกัน เปรียบเหมือนโจรจะให้ยกย่องอริยสงฆ์ย่อมยากที่จะเกิดขึ้น
• นายพร้อมพงศ์ เคยติดคุก 9 เดือน 11 วัน กรณีหมิ่นประมาท นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
• ส่วนนายพายัพ ปั้นเกตุ เคยติดคุกคดีขัดขวางการประชุมอาเซียนปี 2552 เป็นเวลา 4 ปี
• ทั้ง 2 คน จึงเป็นโมฆะบุรุษ ไม่มีแม้ความชอบธรรมจะมาต่อล้อต่อเถียงกับท่านชวน หลีกภัย ผู้ได้รับการยกย่องว่ามีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
• การจะคบค้าสมาคมกับใคร ในทางศาสนากล่าวว่าบุคคลนั้น “ต้องมีศีลเสมอกัน” ใครคบบุคคลทั้ง 2 จึงถือว่า บุคคลนั้นต้องมีศีลเสมอกัน หรือ พูดภาษาชาวบ้านว่า “ต้องมีสันดานเดียวกัน” จึงคบกันได้
• พายัพ ปั้นเกตุ และ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ออกมาตำหนิท่านชวน แต่กลับยกย่อง ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อดีตนักโทษคดีทุจริต ชนิดไม่ลืมหูลืมตา
• ประกอบทั้งพายัพ และพร้อมพงศ์ เป็นมือทำงานให้กับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผมถือว่าแพทองธาร, พร้อมพงศ์ และ พายัพ มีศีลเสมอกัน จึงทำงานร่วมกันได้ พูดตามภาษาชาวบ้านคือ ทั้งพร้อมพงศ์,พายัพ และ แพทองธาร “มีสันดานเดียวกัน”
6) นายราเมศ รัตนะเชวง อดีตเลขานุการประธานรัฐสภา ในฐานะเลขานุการ นายชวน หลีกภัย กล่าวถึงกรณีที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิงนายชวน กรณีที่นายชวนได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2568 ว่า ความจริงตนไม่อยากออกมาพูดถึงนายพร้อมพงศ์ เพราะคำพูดนายพร้อมพงศ์ ไม่มีสาระที่พอจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเลย ลิเกโสโครกรับปีใหม่ แต่มีการให้ร้ายนายชวนหลายเรื่อง ถ้าไม่ออกมาพูดนายชวนจะเกิดความเสียหายได้
“นักการเมืองที่ดีควรเปิดใจรับฟังความเห็นต่างถ้าจะปกป้องนายควรตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาว่าเจ้านายมีจิตวิญญาณและพฤติกรรมเป็นอย่างไร ก็จะเห็นความจริงเว้นเสียแต่มีแต่กะโหลกแต่ไม่มีสมองก็จะออกมาใช้สำนวนโวหารทำตัวเหมือนคนสะอาด”
นายราเมศกล่าวต่อว่า การเหลื่อมล้ำ ละเมิดหลักความถูกต้องชอบธรรม กรณีชั้น 14 ที่นายชวนได้ออกมากล่าวคือเรื่องจริงที่สังคมรับรู้ดีว่าเป็นอย่างไร สุดท้ายเรื่องนี้
ขอให้ติดตามจะมีคนติดคุกอีกหลายคน และรัฐบาลทั้งนายกฯตัวจริงและตัวปลอมก็จะพังไปพร้อมๆ กัน นายชวนเป็นนักการเมืองที่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย ในภาคปฏิบัติของการทำงานการเมืองไม่มีเรื่องทุจริต ส่วนเจ้านายของนายพร้อมพงศ์อ้างประชาธิปไตยเพื่อเข้าสู่อำนาจเท่านั้น เพราะชัดเจนว่าเข้ามาเพื่อทุจริตกอบโกยผลประโยชน์
นายราเมศกล่าวอีกว่า นายชวนไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่ขัดแย้งกับความไม่ถูกต้อง ขัดแย้งในแนวทางการทำการเมืองที่ยึดประโยชน์ของตนและครอบครัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมมีการทุจริต การเลือกปฏิบัติกับประชาชน การใช้นโยบายที่ก่อให้เกิดความรุนแรงต่อประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ปรากฏชัดด้วยหลักฐาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ยากที่จะถูกลบเลือนไปด้วยกาลเวลา นายชวนทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศมากมาย ที่บอกว่ารัฐบาลสมานฉันท์ ก็ขออวยพรให้รัฐบาลของนายพร้อมพงศ์โชคดี ส่วนเรื่อง MOU44 เชื่อว่าสักวันความจริงก็จะปรากฏว่าใครที่คิดถึงประโยชน์ของตนเองมากกว่าประเทศ
นายราเมศกล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่าสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา อดีตนายกฯ นายชวนไม่เคยค้านเรื่องอะไรเลยนั้น ก็ไม่เป็นความจริง นายชวนได้ท้วงติง
ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเสมอ นายพร้อมพงศ์น่าจะติดคุกอยู่ จึงไม่ได้ติดตามข่าวสาร และที่บอกว่านายชวนพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นนั้น ต้องบอกว่าความชั่วพูดเอาใส่คนอื่นไม่ได้ เพราะความชั่ว ความโกงเป็นโดยกำเนิด ความชั่วปรากฏให้เห็นในคำพิพากษาว่าทุจริตก็มี ไม่มีใครพูดใส่เลย แต่เกิดจากการทำของตัวเองทั้งสิ้น
“ที่นายพร้อมพงศ์กล่าวหานายชวนทำตัวเป็นฤๅษี ขึ้นธรรมาสน์ไม่ล้างเท้า กระจกไม่มี ดีแต่พูดนั้น นายชวนไม่ได้เป็นฤๅษี ไม่ได้เป็นพระ ไม่ต้องขึ้นธรรมาสน์ แต่มือสะอาดซื่อสัตย์ไม่โกงกินชาติบ้านเมืองแน่นอน เท้าที่ไม่สะอาดคือเท้าที่ไปพยายามวิ่งเต้นศาล ข่มขู่ ทำลายศาล ทำตัวสกปรกให้แปดเปื้อนกระบวนการยุติธรรม เท้าที่พยายามวิ่งเต้นข่มขู่ตุลาการสกปรกยากที่จะล้างออก นั่นถึงจะต้องเรียกว่าไร้ยางอายของแท้ ความจริงถ้าไม่พาดพิงกล่าวหานายชวน ผมก็ไม่อยากออกมาตอบโต้ในช่วงปีใหม่เพราะถือเป็นวันที่ดี และไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเลย แต่เมื่อกล่าวหาด่าทอกัน ผมในฐานะเลขาก็จำเป็นต้องออกมา” นายราเมศกล่าว
เป็นไงล่ะ มาเต็มทั้งสาระและความแซ่บ
ใครพูดถูกต้อง ไม่สอพลอ มีหลักการและเหตุผลเพียงใด
อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ คงจะเห็นเป็นที่ประจักษ์กันแล้วนะครับ!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี