เป็นที่ฮือฮา...
เมื่อป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินนายกฯ แพทองธาร ชินวัตรกรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567
พบว่า นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ แจ้งกับ ป.ป.ช. ว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท
เกือบๆ 1.4 หมื่นล้านบาท!
เรียกว่า นายกฯอายุน้อยหมื่นล้าน!
ความร่ำรวยหมื่นล้าน ได้มาจากไหน?
ไปรวยตอนไหน?
ที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏความสำเร็จในการทำธุรกิจด้วยตนเอง
ได้รับความมั่งคั่งสืบต่อมาจากบิดามารดา ใช่หรือไม่?
ได้เข้ามาเป็นนายกฯ สมัยแรกที่เข้าสู่การเมืองทันที ก็โดยอาศัยอิทธิพลบารมีบิดา
น่าจะเรียกได้ว่า “นายกฯคุณหนู เกิดบนกองเงิน-กองทอง”
ช่างขัดแย้ง แตกต่างกับคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศ ราวหน้ามือ-หลังตีน
1. ส่องดูความมั่งคั่งของนายกฯคุณหนูหมื่นล้าน เกิดบนกองเงินกองทอง
1.1 แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท
แบ่งเป็นของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ 13,846,208,451 บาท
(เป็นของนายปิฎก 147,118,452 บาท เป็นของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500,000 บาท)
1.2 นายกฯอุ๊งอิ๊งค์แจ้งว่ามีหนี้สิน 4,439,980,600 บาท
เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 5,458,262 บาท และเป็นหนี้สินอื่น 4,434,522,338 บาท
หนี้สินส่วนใหญ่ เป็นเงินยืมกันในหมู่ญาติพี่น้องนั่นเอง
1.3 แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 265,567,322 บาท
แบ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส 3,409,682 บาท
เงินปันผล 259,267,639 บาท
ดอกเบี้ย 2,000,000 บาท
ค่าเช่า 890,000 บาท
เรียกว่า ส่วนใหญ่กินเงินปันผล ปีละ 200 กว่าล้านบาท
1.4 แจ้งว่า มีรายจ่ายต่อปี 57,720,000 บาท
เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 45,000,000 บาท
ค่าเบี้ยประกันภัย 1,200,000 บาท
ค่าใช้จ่ายครัวเรือน 7,000,000 บาท
ค่าเล่าเรียนบุตร 1,000,000 บาท
ค่าท่องเที่ยว 2,000,000 บาท
เรียกว่า ได้กินหรู อยู่สบาย ท่องเที่ยวต่างประเทศชิลๆ
ย้ำว่า ค่าใช้จ่ายส่วนตัวถึง 45 ล้านบาท!
1.5 รายการทรัพย์สินที่นายกฯอุ๊งอิ๊งค์แจ้งไว้ น่าสนใจ เช่น
เป็นเงินสด 7,272,743 บาท
เป็นเงินฝาก 1,081,187,216 บาท
เป็นเงินลงทุน 11,007,772,574 บาท อาทิ หุ้นบริษัทเอสซี เอสเสท คอร์เปอเรชั่น จำกัด มหาชน หุ้นบริษัทโรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด หุ้นบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทรจำกัด (มหาชน) ฯลฯ แถมแจ้งว่ามีการโอนให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเกียรตินาคินภัทร จำกัด ดำเนินการตามสัญญาจัดการหุ้นส่วนของรัฐมนตรีลงวันที่ 19 และ 20 พ.ย 67
ทรัพย์สินอื่นๆ เช่น
แจ้งว่า มีที่ดินในเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (AZA-TOKIWA AKAIGAWAMURA YOICHI-GUN) ซื้อมาเมื่อ 15 ธันวาคม 2562 มูลค่า 30,000,000 บาท
แจ้งว่า มีรถยนต์ 23 คัน อาทิ ยี่ห้อ BENTLEY รุ่น FLYING SPUR HYBRIDมูลค่า 10,600,000 บาท ยี่ห้อ ROLLS-ROYCE รุ่น PHANTOM มูลค่า 6,700,000 บาทและ ยี่ห้อ TESLA แบบ MODEL X LONG RANGE มูลค่า 3,190,000 บาท
แจ้งว่ามีสิทธิและสัมปทาน เช่น มีการเช่าบ้านที่ Flat 11 Knaresborongh house, 7 Knaresborongh Place, London มูลค่า 111,612,250 บาท และที่ Flat 6 14 Montpelier street, London มูลค่า 208,342,867 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการจ้างก่อสร้างบ้าน มูลค่า 38,034,227 บาท
แจ้งว่า มีทองคำแท่งจำนวน 75 บาท มูลค่า 3,000,000 บาท
นาฬิกา 75 เรือน มูลค่ารวม 162,000,000 บาท
ของสะสม (ตุ๊กตาแบร์บริค) 9 ตัว มูลค่า 1,900,000 บาท
กระเป๋า 217 ใบ มูลค่า 76,650,000 บาท
แหวน 108 วง มูลค่า 31,773,900 บาท
เครื่องประดับกำไลข้อมือ 69 เส้น มูลค่า 28,559,700 บาท
เครื่องประดับสร้อยคอ 67 เส้น มูลค่า 35,675,400 บาท
ต่างหู 205 คู่ มูลค่า 49,330,500 บาท
เครื่องแต่งกาย 167 ชุด มูลค่า 26,750,000 บาท
ฯลฯ
เรียกว่า ละลานตาไปหมด
ชีวิตเลิศหรู คุณหนูหมื่นล้าน อลังการดาวล้านดวง
2. เปรียบเทียบกับสภาพชีวิตคนไทยส่วนใหญ่
ผลจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2566 (ล่าสุด)
ฉายให้เห็นภาพสำคัญ คือ คนไทยส่วนใหญ่ มีรายได้ ค่าใช้จ่าย หนี้สินของครัวเรือน ตลอดจนการได้รับสวัสดิการ/ความช่วยเหลือจากภาครัฐ และการกระจายรายได้ของครัวเรือน อย่างไร
พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศ มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 29,030 บาท
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 23,695 บาท
หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้นอยู่ที่ครัวเรือนละ 197,255 บาท
คิดเป็น 6.8 เท่าของรายได้
2.1 ในส่วนของความเหลื่อมล้ำ เมื่อเปรียบเทียบรายได้ระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานราก และกลุ่มครัวเรือนที่มีมากที่สุด เรียกง่ายๆ ว่า กลุ่มคนจนสุดกับคนรวยสุด พบข้อมูลดังนี้ (ข้อมูลปี’65)
กลุ่มคนจนสุด มีรายได้เพียงแค่ 11,135 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน
กลุ่มคนรวยสุดมีรายได้ 57,461 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน
รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของกล่มคนจนสุด เมื่อเทียบกับคนรวยสุด ห่างกันมากถึง 5.2 เท่า
ส่วนใหญ่ครัวเรือนยากจนสุดกว่า 70% อยู่ในภาคเกษตร
2.2 กลุ่มจนสุด มีรายได้ 11,135 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน มีค่าใช้จ่าย 12,536 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน
กลุ่มรวยสุด มีรายได้ 57,461 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน มีค่าใช้จ่าย 37,383 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน
ส่วนนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ มีรายได้ต่อปี 265 ล้านบาท (กินเงินปันผล)
มีรายจ่ายต่อปี 57 ล้านบาท (ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 45 ล้านบาท ค่าท่องเที่ยว 2 ล้านบาท)
โอ้ววววว
เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินของครัวเรือน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
3. เมื่อเป็นดังนี้
จะคาดหวังว่า นายกฯ คุณหนู ต้องเข้าใจหัวจิตหัวใจของคนไทยส่วนใหญ่ ตระหนักลึกซึ้งถึงความทุกข์ยากลำบากของคนไทย ความเหนื่อยยากในการสร้างเนื้อสร้างตัวของคนไทย
กว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยไม่มีตัวช่วยใดๆ
กว่าจะทำงานหาเงินยืนบนลำแข้งตัวเอง ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน เพราะไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด
กว่าจะดูแลผลผลิต ลุ้นภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ฝนแล้ง ราคาตกต่ำ ไม่ได้นอนกินเงินปันผลบริษัท ฯลฯ
จะหวังว่า นายกฯคุณหนู เกิดบนกองเงินกองทอง จะเข้าถึง เข้าใจ และร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนไทย ก็คงได้เท่าที่ปรากฏอยู่เท่านั้นเอง
น่าสงสารคนไทย
น่าสงสารประเทศไทย
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี