ทุกสังคมประเทศต่างก็มีประเด็นปัญหามากน้อยแตกต่างกันไป และสังคมนั้นจะต้องร่วมกันปรับปรุงแก้ไข จะมัวท้อแท้หมดอาลัยตายอยากไม่ได้ เพราะมันเป็นความรับผิดชอบ อีกทั้งมนุษย์เองล้วนมีสติปัญญาความสามารถ ก็สมควรจะใช้สติปัญญาความสามารถนั้นให้เต็มที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
พื้นฐานสังคมไทยโดยรวมนั้นถือว่าเรามีความโชคดี มีความโดดเด่นกว่าสังคมประเทศอื่นๆ มากมาย ไม่จะด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ความผสมผสานของประเพณีวัฒนธรรมที่หลากหลาย และหลั่งไหลเข้ามาแต่อดีต จิตใจที่มีมิตรไมตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำบุญทำทาน พร้อมด้วยสติความนึกคิดที่เป็นสายกลางระหว่างความสุดโต่งที่ไม่สุดโต่ง มีความสมดุลและพอเพียง
สังคมไทยมีความทะนงและภูมิอกภูมิใจในเรื่องความเป็นอิสรเสรี อันเนื่องมาจากไม่เคยตกอยู่ในอาณัติหรืออิทธิพลของผู้ใด สังคมไทยยังเป็นสังคมของผู้คนที่มีความขยันหมั่นเพียร ที่มีฝีไม้ลายมือ สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลามาได้โดยตลอด
แต่ ณ วันนี้สังคมไทยกลับตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งที่มาจากอุดมการณ์และความคิดอ่าน และการปฏิบัติการเชิงการเป็นคู่อริ ประหัตประหาร เพื่อเอาแพ้เอาชนะกันให้ถึงที่สุด ในขณะเดียวกันสังคมไทยก็ถูกกัดกร่อนโดยการขาดดุลทางศีลธรรม ด้วยความเห็นแก่ตัว และความเอาแต่ได้ กลุ่มผู้ปกครองมิได้ทำตัวเป็นผู้ปกครองเพื่อรับใช้สังคม แต่กลับกลายเป็นผู้เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหง และหลอกลวง เสริมสร้างความไม่พึงพอใจและความแค้นเคือง และความคิดอ่านที่จะต่อต้านล้มล้าง
ในขณะเดียวกัน สังคมไทยก็มีขีดความสามารถในการทำมาหากินที่ลดน้อยลงความนับหน้าถือตาจากประชาคมโลก ความน่าเชื่อถือก็เสื่อมคลายลงไปด้วย ความรู้ความสามารถอ่อนด้อย เพราะขาดการพัฒนาระบบการศึกษา การค้นคว้าวิจัย และการเพิ่มทักษะและองค์ความรู้ของบุคลากร เพื่อทำงานทำการต่างๆ อย่างจริงจังและเป็นระบบ ส่งผลให้สังคมไทยดูไม่ทันโลก แม้กระทั่งในเรื่องความชำนิชำนาญการในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ผู้ปกครองผู้บริหารประเทศขาดวิสัยทัศน์และองค์ความรู้เชิงเปรียบเทียบระหว่างสังคมไทยกับสังคมอื่นๆ ความคิดอ่านจึงดูคับแคบ การทำงานทำการก็เป็นไปแบบผิวเผิน มุ่งเพียงเพื่อรักษาตัว รักษาฐานคะแนนนิยมไปวันๆ หนึ่งโดยเฉพาะโครงการที่ไม่ต้องใช้ความคิดอ่านและการเตรียมการอย่างลึกซึ้ง เช่น โครงการประชานิยมต่างๆ และเช่นการจัดงานแสดง งานเฉลิมฉลอง และงานประชุมสัมมนา ที่มักจะไร้เป้าหมาย และขาดความต่อเนื่อง
แต่การที่สังคมไทยจะก้าวข้ามประเด็นปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมานั้น หากเอาจริงเอาจังแล้ว ก็มิใช่เรื่องที่จะเกินความสามารถเพราะสังคมไทยก็มีความพร้อมในระดับหนึ่งที่ไม่เป็นรองสังคมอื่นๆ ทั้งทางด้านกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ทั้งทางด้านงบประมาณ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค
แต่ก่อนอื่น สังคมไทยจะต้องหันมาร่วมกันคิด ตัดสินใจ และดำเนินการ ซึ่งสังคมไทยก็จะต้องมีองค์กรและเวทีที่จะให้มีการปรึกษาหารือ ร่วมคิดร่วมทำกันอย่างกว้างขวาง ในระดับราชการประจำก็น่าจะเป็นสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนกลางของประเทศ
ส่วนในระดับการเมืองนั้นก็ควรจะเป็นที่ระดับพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น2 ส่วน คือฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ซึ่งต่างจะจัดเวทีสาธารณะด้วยการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่างๆ และทั้ง 2 ฝ่าย ก็สามารถไปอภิปรายถกเถียงเพื่อหาข้อยุติร่วมกันในกรอบรัฐสภาได้
ทั้งนี้ทุกหมู่เหล่าก็ต้องมีจิตสำนึกต่อการเอาผลประโยชน์ของชาติโดยรวมเป็นที่ตั้งและดำเนินงานการเมืองในกรอบของการแข่งขันแพ้ชนะตามกติกา และภายใต้หลักของการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน กันตามโอกาส ทั้งนี้ก็คงจะต้องมีการปรับปรุงระบบการให้ความรู้ การเข้าถึงซึ่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยภาครัฐต่อประชาชนให้ทั่วถึง โปร่งใส เพื่ออำนวยให้มีความตื่นตัว
ทั้งในองค์ความรู้ และการเข้าร่วมเพื่อการตัดสินใจในที่สุด
ความสมัครสมานสามัคคีเท่านั้นที่จะช่วยอำนวยให้สังคมไทยเคลื่อนหน้าต่อไปได้ ซึ่งหากทุกหมู่เหล่าต่างยังมีจิตใจความเชื่อว่าความต่างมิใช่การเป็นศัตรูคู่อริที่จะต้องขจัด ขับไล่กัน หากแต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ และมนุษย์ผู้ประเสริฐนั้นสามารถสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ และหาความออมชอมและข้อยุติร่วมกันได้
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี