ในนครสารขัณฑ์ ผู้ที่จะมีฉายาเป็น “มนุษย์ปากมรณะ” ได้นั้น ล้วนต้องมีคุณสมบัติเป็น“โฮโมซาเปี้ยนชิวหาสุดอัศจรรย์” ระดับ “ลิ้นปีศาจปากซาตานและน้ำลายดุดันกว่ามัจจุราช” ทั้งสิ้น
“ยุคอดีต” ชาวสารขัณฑ์พุ่งเป้าไปที่ “แม่ค้าขายปลาในตลาดสด” ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการ “ใช้คำเดือดด่ายุคพ่อขุน” ได้อย่าง “สุดมัน” จนตลาดสด “แทบพัง” เพราะกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต่าง “ตีหม้อเคาะกระทะ” เสียงดังแบบ “ม็อบกาเซโรลาโซ” ของสเปนได้อย่าง “สุดเฮฮา”
“ยุคต่อมา” ชาวสารขัณฑ์ต่างมอบความ “ดุเดือด ดุดัน และดุฉกรรจ์” ของ “สงครามปาก” ให้แก่ละครดังหลังข่าวภาคค่ำทางทีวี ที่มี “นางอิจฉาและนางมารร้าย” จับมือกันสร้าง “วาทกรรมสุดหยาบคาย” ใส่นางเอกแสนสวยและแสนเซ่อ จนสร้างเรตติ้งให้แก่ละครเรื่องดังกล่าวจนทะลุจอ
“ยุคปัจจุบัน” ชาวสารขัณฑ์ต่างลงมติว่า “มนุษย์ปากมรณะ” นั้น ต้องยกให้“นางการเมือง” ที่ขยันไล่ล่าขุมทรัพย์แห่งอำนาจคือ “คนปากมรณะ”
“เห็นได้ชัดชัด” จาก 92 ปี ที่สารขัณฑ์ “มีการเลือกตั้ง” อย่าง “ถี่บ่อย”ได้เกิดสงครามชิวหา จากนักเลือกตั้งทั้งหลายอย่าง “ถี่ยิบ” จนเป็นที่ประจักษ์แจ้งว่า“นักการเมืองคือมนุษย์ปากมรณะตัวจริง”
ล่าสุด “สงครามชิวหา” ระหว่าง “ฝ่ายโยคีศานติศีล และสาวก” กับ “ฝ่ายฤๅษีไม่ล้างเท้าและสาวก” ก็เกิดขึ้นอย่าง “ดุเด็ดเผ็ดจี๊ด” ถึงขั้นสื่อต่างตั้งชื่อให้สงครามครั้งนี้เป็น “ศึกสู้ไฟแลบ แซบไฟลุกไหม้”
ก็จะไม่ “สู้ไฟแลบ แซบไฟลุก” ได้อย่างไร? ในเมื่อเป็น “สงครามชิวหา” ระหว่าง “อสูรไตตันปะทะกับอสูรไตตัน” จึงเป็นรายการ “มันยกสามร่อง” ที่กองเชียร์และกองแช่งทั้งสองฝ่ายต่างออกมา “ตีหม้อเคาะกระทะ” แบบ “ม็อบกาเซโรลาโซ” ของสเปนอย่างสนุกสนาน
“ฝ่ายโยคีศานติศีล” จอมปากจัด ผู้เป็นเจ้าของวาทกรรม “คนอยู่ส่วนคนหมาอยู่ส่วนหมา” ออกมา “สวดกงเต๊ก” ใส่ฝ่ายฤๅษีและสาวก ราวกับภูเขาไฟระเบิดที่พ่นทั้งแมกม่าและลาวา ว่า
“จอมอิจฉาที่ขยันด่ารัฐบาลทุกเช้า สาย บ่าย เย็นนั้น คงบอกไม่ได้ว่า ด่าหาพ่อหาแม่เพื่ออะไรกัน?”
จากนั้น โยคีเฒ่าปากไวได้กล่าวต่อไปว่า “จะต้องหาเชือกให้กระบือเหล่านี้ ไปผูกคอตายตามที่พวกมันต้องการ”
ในขณะที่สาวกของโยคีต่างเฮโลออกมาเป็นโขยง ถล่มฝ่ายฤๅษีเพื่อเชลียร์โยคีอย่าง “สุดมัน” ว่า “ฤๅษีขึ้นธรรมมาสโดยไม่ล้างเท้า แถมเป็นฤๅษีที่ไม่มีหลักการมีแต่หลักลอยและจมปลักอยู่กับอดีตความขัดแย้งชนิดไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลง”
“ฝ่ายฤๅษีไม่ล้างเท้า” ออกมา “สวดกงเต๊ก” ใส่โยคีเฒ่าว่า “สารขัณฑ์ปั่นป่วนและวุ่นวายไม่รู้เลิก ตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ เพราะโยคีศานติศีลคนเดียวเท่านั้น ที่ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนต่ำเตี้ยไม่รู้จักจบสิ้น”
ในขณะที่สาวกของฤๅษีก็ได้ออกมาถล่มฝ่ายโยคีและสาวกอย่างถึงพริกถึงขิงว่า“เหตุที่ฤๅษีไม่ล้างตีน เพื่อจะใช้หน้าของสาวกโยคีเป็นที่เช็ดเท้า”
จากนั้นได้ปล่อยวาทกรรมเจ็บจี๊ดเป็นการปิดท้ายว่า “โยคีและสาวกตัวเอ้ๆ ต่างเคยเป็นนักโทษด้วยกันมาก่อน จึงเป็นคนศีลเสมอกันและมีสันดานเดียวกันเป๊ะ เป๊ะ”
น่าเชื่อว่า ชาวสารขัณฑ์ยังคงตัดสินไม่ได้ว่า ฝ่ายโยคีหรือฝ่ายฤๅษี “ฝ่ายไหนจะเป็นแชมป์ปากมรณะตัวจริง?”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี