เมื่อวันที่ 9 มกราคมเมื่อวานนี้ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยกำลัง“จมฝุ่น PM 2.5” รวมทั้งจังหวัดปริมณฑล ในสภาผู้แทนราษฎรก็มีการประชุม ก็อีหรอบเดิมนายกรัฐมนตรี“แพทองโพย”หนีตอบกระทู้สดโดยเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต
หมายกำหนดทริปนี้ของ“แพทองธาร ชินวัตร”นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในโลก และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยติดระดับท็อปเทนในบรรดาผู้นำรัฐบาลของโลก ซึ่งร่ำรวยเพราะบิดา คือ อดีตนักโทษเด็ดดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ให้โดยเสน่หาหรืออะไรก็แล้วแต่ในฐานะลูกสาวคนเล็กนั้น เธอเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานการประชุมบูรณาการการแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สำหรับการรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว
ฟังดูเป็นเรื่องเป็นราวดี แต่ถามว่าในขณะที่ปัญหาต่างๆ เฉพาะหน้ากำลังสุมรุมอยู่นี้ ลำดับความสำคัญก่อนหลัง อะไรควรจะให้ความสำคัญมากกว่า และภาพที่เห็น นายกรัฐมนตรีแต่งชุดลำลองแบบไม่รู้จักกาลเทศะ ด้วยแบรนด์หรูราคาแพงจากต่างประเทศ แต่ไม่ลงตัว เสื้อไปทาง กางเกงไปทาง ดูหลวมโพรกรุ่มร่าม และสะพายกระเป๋าถือ“Christian Dior” ของใช้ฟุ่มเฟือยจากประเทศฝรั่งเศส ราคา 1.45 แสนบาท
เรื่องนี้ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า “มาดามแพทองโพย”เธอมีชุดแต่งกายและกระเป๋าถือแบรนด์เนมเป็นจำนวนมาก จึงต้องหาโอกาสนำออกมาใช้และโชว์รวย
ดังนั้น การเป็นนายกรัฐมนตรีของ“มาดามแพทองโพย”..เธอคงคิดว่า ก็เหมือนอาชีพนางแบบที่เดินอยู่บนแคทวอล์ก และเป็นนางแบบไทยที่ผ่าน“มีด”มาแล้ว...ไม่ใช่สาวแอฟริกาอย่างที่“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็นบิดาของเธอด้อยค่าและเหยียดศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ว่า“ดำก็ดำ จมูกก็แหมบ หายใจก็ยาก”
อย่างกระเป๋าตามที่แจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.นั้น “มาดามแพทองโพย”มีถึง 217 ใบ มูลค่า 76.6 ล้านบาท ส่วนชุดแต่งกายมี 167 ชุด มูลค่า 26.7 ล้านบาท และนับตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีมาถึงวันนี้ 145 วัน หลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567..ตามภาพที่ปรากฏเป็นข่าว ชาวบ้านร้านถิ่นยังไม่เคยเห็นว่า “มาดามแพทองโพย”สวมชุดหรือถือกระเป๋าซ้ำแม้แต่วันเดียว รวมถึงการใส่นาฬิกาที่มีอยู่ 75 เรือน มูลค่า 162 ล้านบาท, แหวน 108 วง 31.7 ล้านบาท, กำไลข้อมือ 69 เส้น มูลค่า 28.5 ล้านบาท และต่างหู 205 คู่ มูลค่า 49.3 ล้านบาท
หมายกำหนดการของ“มาดามแพทองโพย”ที่ไปจังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ หลังจากเป็นประธานการประชุมบูรณาการเรื่องการท่องเที่ยวเสร็จ..ก็ไปต่ออีกสองงาน คือ เป็นประธานพิธีเปิดงานแสดงเรือนานาชาติแห่งประเทศไทย และลักซ์ชูรี่ไลฟ์สไตล์ ที่ท่าเทียบเรือยอร์ช เฮเว่น มารีน่า ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง และงานสุดท้ายในช่วงบ่ายก่อนบินกลับกรุงเทพฯ ได้ไปตรวจติดตามการป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง
สรุปก็คือ ที่“มาดามแพทองโพย”ไปงานราชการที่จังหวัดภูเก็ต อันหาใช่ปัญหาเร่งด่วนที่เป็นวาระแห่งชาติแต่อย่างใดไม่นั้น..คงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ คือ การหนีตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนัดนี้เป็นนัดแรกของปี 2568 เพราะถ้าขืนทะเล่อทะล่าเข้าไปตอบ ก็คงจะชี้แจงได้แต่เพียงคำว่า“อ๋อค่ะ”..แล้วทำหน้าเลิ่กลั่ก เนื่องจากไร้สติปัญญาที่จะตอบสด..ต่างจากการทำ“ข้อสอบ”ที่ยังมีเอกสารรั่วล่วงหน้าให้ลอกได้
อันที่จริงเรื่องตอบกระทู้สดในสภาฯ ที่“มาดามแพทองโพย”หนีมาตลอดนั้น เมื่อเร็วๆ นี้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เพิ่งจะให้สัมภาษณ์กรณีที่สมาชิกรัฐสภาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบกระทู้ถาม หลังจากในปี 2567 ที่ผ่านมาเธอ“หนี”ตลอด..ว่าเรื่องนี้ได้รับปากกันแล้ว โดยคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาลจะนำเสียงของสมาชิกรัฐสภาที่มีการตำหนิในเรื่องนี้ไปแจ้งต่อนายกรัฐมนตรี
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา วัย 80 ปี ในฐานะผู้อาวุโสทางการเมืองที่อยู่บนเส้นทางสายนี้มายาวนาน เคยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2, เป็น สส.11 สมัย และเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการมาแล้วหลายกระทรวง กล่าวถึงเรื่องการตอบกระทู้ถามว่า
“โดยส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่ ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตั้งกระทู้ต่างๆ ทั้งกระทู้ถามสด กระทู้ถามทั่วไป และญัตติ ให้รัฐบาลชี้แจง ทางรัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องมาตอบกระทู้ ตอบญัตติของสมาชิก ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะไม่มา แล้วให้สภาฯ ทำอย่างเดียว เพราะต่างคนต่างมาจากการเลือกตั้งด้วยกัน ต้องทำงานเพื่อประชาชน หากรัฐบาลไม่มาชี้แจงจะเป็นความเสียหาย เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน จึงควรเดินทางมาสภาฯ โดยเฉพาะวันที่มีกระทู้ถาม คือวันพฤหัสบดี ส่วนวันพุธก็ควรต้องมา เพราะมีญัตติที่แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่ากระทรวงไหนต้องมาชี้แจง ส่วนกระทู้สดแม้ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า แต่ก็ควรเป็นความพร้อมของรัฐบาล”
ลองฟังอีกหนึ่งย่อหน้าจากการให้สัมภาษณ์สื่อของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 เกี่ยวกับการตอบกระทู้ถามซึ่งเป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาและรัฐบาล ตามมาตรา 150 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ว่า
“ผมเองก็เคยเป็นรัฐบาล ส่วนตัวรู้สึกชอบและดีใจมาก หากฝ่ายค้านยื่นกระทู้ถามผม หรือกระทรวงที่ผมรับผิดชอบ จะได้ชี้แจง ตอบข้อสงสัยของฝ่ายค้าน ส่วนชี้แจงแล้วจะเป็นที่พอใจหรือไม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะให้คะแนนใคร จริงๆ แล้ว รัฐมนตรีไม่ต้องกลัวการตอบกระทู้หรือญัตติ เพราะเราตอบไปตามความสามารถที่จะชี้แจงได้”
“อ๋อ !” ท่านประธานที่เคารพ สำหรับนายกรัฐมนตรีเจ้าของฉายา“แพทองโพย”ผู้นี้..เธอไร้ความสามารถที่จะตอบกระทู้ นอกจากเก่งเฉพาะในเรื่องการแต่งตัวที่ไร้รสนิยม และใช้ของฟุ่มเฟือยราคาแพงแบรนด์หรูจากต่างประเทศเท่านั้นครับ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี