นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 12 มกราคมวานนี้ว่า ช่วงนี้ประชาชนจำนวนไม่น้อย คงใจจดใจจ่อว่า โรงพยาบาลตำรวจ และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จะส่งเวชระเบียน และรายละเอียดการรักษาพยาบาลของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ตามที่แพทยสภาขอหรือไม่ ซึ่งมีกำหนดไว้วันที่ 15 มกราคม 2568 นี้
ขณะที่“จตุพร พรหมพันธุ์” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน วิเคราะห์วิจารณ์ว่า จากการอ่านภาษากายของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ที่เวลานี้ออกเดินสายช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยหาเสียงทั้งภาคเหนือและอีสาน ได้แสดงตนใหญ่คับฟ้าพูดจาวางโตทำกร่างข่มขู่ผู้คนไปทั่ว ว่าเป็นการแสดงถึงความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ของทักษิณ
อดีตผู้นำ นปช.มวลชนเสื้อแดงให้เหตุผลว่า เพราะ“ทักษิณ ชินวัตร”ห่วงกังวลกับผลการไต่สวนของแพทยสภาและ ป.ป.ช. กรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”โรงพยาบาลตำรวจ โดยเชื่อว่า เมื่อถึงวันครบกำหนดที่โรงพยายาบาลตำรวจจะต้องส่งเอกสารชี้แจงต่อแพทยสภาในวันที่ 15 มกราคมมะรืนนี้นั้น ความจริงจะปรากฏ อันส่งผลทำให้ทักษิณต้อง“สร้างความมั่นใจปลอม” เพื่อกลบซ่อนความไม่มั่นใจในการตรวจสอบเอาไว้
ทั้งนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลกรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”ของอดีตนักโทษเด็ดชาดชายทักษิณ ชินวัตร ยิ่งกว่าพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรอย่างพรรคประชาชนเสียอีก ได้เขียนย้ำไว้ในเฟซบุ๊กว่า “อย่าลืมนะ ว่าการดำเนินการของแพทยสภา ในฐานะเจ้าพนักงาน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีอำนาจตามกฏหมาย เพื่อการสอบสวนด้านจริยธรรม ของแพทย์ที่ทำการรักษา และเป็นไปตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540”
ประธานพรรคไทยภักดี ระบุว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับการ“ป่วยทิพย์”ของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นั้น มีการถูกตั้งข้อสังเกตโดยกลุ่มแพทย์ ว่าคนไข้วิกฤติจะไม่ทำ MRI แต่สำหรับอดีตนักโทษรายนี้ทำ รวมทั้งคนไข้วิกฤติจะไม่ส่องกล้องผ่าเอ็นที่ไหล่ โดยจะต้องรอให้อาการไม่วิกฤติ แต่ปรากฏว่าอดีตนักโทษโกงบ้านกินเมืองรายนี้ก็ทำอีกเช่นกัน อีกทั้ง คนไข้วิกฤติต้องติดเตียง จะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อที่แขนและขา แขนขาต้องลีบลง แต่รายนี้ไม่มีร่องรอย
และจากข้อเท็จจริงดังกล่าว, มือปราบคดีทุจริตโกงกินโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นามว่า“นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีต สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ วัย 63 ปีผู้นี้ ได้ระบุไว้ในเฟซบุ๊กว่า “จึงมีคำถามจากกลุ่มแพทย์ว่า ผู้ป่วยรายนี้วิกฤติจริงหรือ หรือเป็นการช่วยไม่ต้องอยู่เรือนจำ สิ่งที่ต้องติดตาม ถ้ามีการส่งเอกสารให้แพทยสภา ต้องติดตามว่า เอกสารดังกล่าวครบถ้วนหรือไม่ หรือมีการแต่งเรื่องขึ้นมา ซึ่งไม่น่าจะง่าย เพราะระบบของการรักษาพยาบาลในทุกๆ มิติ รวมทั้งแล็บ ต้องสอดคล้องกันหมด และต้องตอบข้อสงสัยต่างไปได้หมด”
อย่างไรก็ตาม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ชี้เตือนว่า “แต่ถ้าไม่มีการส่ง เท่ากับว่ามีนัย (นัยยะ)ที่ไม่ปกติเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องย้ำโรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ขอให้ทำอะไรตรงไปตรงมา เคารพกฏหมาย รักษาเกียรติศักดิ์ศรีของแพทย์ อย่าดื้อแพ่งเหมือนกับที่นักการเมืองบางคนทำ ถ้าท่านดื้อแพ่งไม่ยอมส่ง ทำตัวเหนือกฏหมาย ท่านอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การล่มสลายของรัฐบาลชุดนี้ก็ได้”
ย้อนไปดูหนังสือที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ แพทยสภา ซึ่งมี นพ.อมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ส่งไปให้“พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์” แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานวัตถุพยาน สำหรับใช้ประกอบการพิจารณาจริยธรรมแพทย์-พยาบาล ที่เกี่ยวข้องกรณี“ทักษิณ ชินวัตร”เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566 จนกระทั่งถูกจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลตำรวจ และให้ส่งเอกสารชี้แจงกลับภายในวันที่ 15 มกราคม 2568 นั้น มีดังนี้
อาทิเช่น คำชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาพยาบาลของ“ทักษิณ ชินวัตร”ทั้งหมดโดยละเอียด, ขอทราบ ชื่อ สกุลแพทย์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมถึงเลขใบประกอบวิชาชีพ, ขอความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างที่แพทย์ทำรายงานสามครั้ง ถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์-ปลัดกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ทำให้ไม่ต้องส่งทักษิณกลับเข้าเรือนจำในช่วงครบ 30 วัน 60 วันและ 120 วันตามลำดับ
นอกจากนั้น ก็ยังขอสำเนาเวชระเบียน, สำเนาบันทึกการผ่าตัด, สำเนาบันทึกการให้ยาระงับความรู้สึก, สำเนาบันทึกการพยาบาล, สำเนารายงานทางการแพทย์ และเอกสารหรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล เช่นภาพถ่ายทางรังสีวินิจฉัย ผลการตรวจทางรังสี ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือเอกสารใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษา“ทักษิณ ชินวัตร โดยให้ระบุหมายเลขหน้าเอกสาร และให้เจ้าหน้าที่ลงนามรับรองเอกสารทุกหน้าด้วย
จากนี้ไปอีกไม่นานก็คงจะได้รู้กันว่า สวรรค์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจะกลายเป็น“ขุมนรก”หรือไม่ เพราะชาวบ้านร้านตลาดเขารู้กันดีว่าอาการป่วยทิพย์ของ“ทักษิณ ชินวัตร”คือการ“โกหกโรงใหญ่” ขนาดว่าเมื่อวันที่ 12 มกราคมวานนี้ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ที่ตกอยู่ตกอยู่ใน“บ่วงกรรม”นี้ด้วย ยังปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เรื่องการส่งเอกสารกลับไปให้แพทยสภาหรือยัง โดยกล่าวว่า “ขอปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ และทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นคนให้ข่าว”
ทางด้านการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนนั้น วันที่ 13 มกราคมวันนี้ คปท.ได้เชิญชวนประชาชนให้ไปรวมตัวกันที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยระบุไว้ในเพจของ คปท.ว่า “วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2568 เวลา 10.30 น. พบกันหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร.ต้องมีคำตอบ !! กรณี แพทยสภาขอเวชระเบียนนายทักษิณ ที่พักรักษาตัว รพ.ตำรวจ 180 วัน”
บรรทัดนี้ต้องบอกว่า “กรรม”นั้นเกิดจากการกระทำ ทำดีก็ได้ดี-ทำชั่วก็ได้ชั่ว ดังนั้นถ้าใครโกหกแล้ว คิดจะโกหกต่อ ก็เห็นจะไม่พ้นบ่วงกรรม
ผมว่าใครทำอะไรไว้ก็รีบสารภาพไปเถิดครับ โทษจะได้เบาลง !
รุ่งเรือง ปรีขากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี