วาทกรรมคำว่า “ท้องแตกตาย” นั้น ปกติเป็นแค่คำ “เตือน” และวจี “ขัดขวาง”ด้วยการ “เหยียบเบรก” ไม่ให้เด็กๆ ในโอวาท “กินมูมมามและกินสุดมันเกินเส้นแดง”
แท้จริงแล้ว แทบไม่เคยมีมนุษย์คนใด กินอย่างพายุบุแคมจน “ท้องแตกตาย”เพราะมนุษย์ทุกคนกินจนอิ่มท้องเมื่อใด ท้องของผู้นั้นจะ “ไม่ออกใบอนุญาตให้กินต่อ”
ขืนกินต่อแบบ “ฝ่าไฟแดง” รายการ “อ้วก” แบบฟ้าแลบ ฟ้าผ่าจะตามมาทันที
แต่ใน “นิทานอีสป” ทาสนักเล่านิทานเชื่อ “อีสป” ได้เล่าเรื่อง “อึ่งอ่างท้องแตกตาย” ไว้เมื่อกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ดังนี้
“ณ หนองน้ำใหญ่แห่งหนึ่งในป่าทึบ นอกจากมีมัจฉามากมาย ยังมีสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอย่าง กบ เขียด คางคกและอึ่งอ่างอย่างยั้วเยี้ย”
วันหนึ่งสัตว์น้ำและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั้งปวงได้มา “ชุมนุม” กันเพื่อเลือก “ผู้นำ” โดยมีกติกา “สัตว์ตัวใดมีร่างกายใหญ่กว่าตัวอื่น” ก็จะ “ได้เป็นผู้นำอย่างสุดเท่”
“คางคกตัวใหญ่” ประกาศทันใด “ตนคือผู้นำ”
แต่ “อึ่งอ่างตัวจิ๋ว” ออกมาคัดค้าน โดยระบุว่า “ตนต่างหากจะต้องเป็นผู้นำ” ทำให้สัตว์ทั้งหลายต่าง “ขำกลิ้ง”
โดย “คางคก” ออกมาหยามหมิ่นอึ่งอ่างว่า “เอ็งเป็นสัตว์ไซส์เล็กเท่านั้น จะเป็นผู้นำได้อย่างไร?”
ทันทีทันใด “อึ่งอ่างก็เบ่งตัวจนเป็นอึ่งอ่างตัวใหญ่” แต่คางคกก็ยังค้านว่า “ใหญ่ไม่พอ”
อึ่งอ่างไม่ยอมแพ้ จึงอ้าปากสูดเอาอากาศเข้าท้องอย่างไม่หยุดหย่อน จนร่างขยายใหญ่กว่าคางคกแบบ “กินขาด”
อย่างไม่คาดฝัน อึ่งอ่างที่เบ่งตัวจนสุดกำลัง ก็ถึงแก่ “ท้องแตกตาย” หมดโอกาสเป็นผู้นำฝูงสัตว์ในหนองน้ำดังกล่าว
“จบนิทานอีสป เหลียวมาดูนิทานชาดกบ้าง”
“เฒ่าชูชก” นักขอบันลือโลก ได้เดินทางไปพบพระเวสสันดรแล้วขอกัณหาและชาลีมาเป็นทาส เพื่อนำไปรับใช้ “เมียเด็ก” ของชูชกที่กระท่อม ระหว่างเดินทางกลับบ้าน “ชูชกพากัณหาและชาลีผ่านกรุงอุชเชนี ที่มีพระเจ้าสัญชัย ปู่ของกุมารทั้งสองเป็นเจ้าเมือง”
“พระเจ้าสัญชัย ทนดูชูชกเฆี่ยนตีสองกุมารไม่ได้ จึงขอไถ่ตัวหลานทั้งสองโดยยกครึ่งเมืองให้ชูชกและเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ให้ชูชก เป็นอาหารรสเด็ด 200 จานจากแม่ครัวฝีมือสุดยอดของกรุงอุชเชนี 200 คน”
ปรากฏว่า “เฒ่าชูชกขอทานจัญไร” ไม่เคยเจอะรสเด็ดเช่นนี้มาก่อนในชีวิต “จึงกินอาหารทั้ง 200 จานอย่างกระหื่นกระหาย” แล้วในที่สุด “ชูชกท้องแตกตาย”โดยถือว่า “เป็นมนุษย์คนแรกและคนเดียวในโลกที่กินจนท้องแตกตาย”
ไม่น่าเชื่อว่า “นักเล่านิทานในยุคปัจจุบัน” ต่างออกมาเถียงฉอด ฉอด ว่า “มนุษย์จอมสวาปามและงาบทั้งหลาย ที่เหนือกว่าชูชก เก่งกว่า อึ่งอ่าง คือมนุษย์สายพันธุ์นักการเมือง”
“เหนือกว่า และเก่งกว่า” ตรงที่ “อวดเบ่งในอำนาจจนพองก๋าแค่ไหน? ก็ไม่ท้องแตกตาย” และ “กินอย่างดุดันตลอดเวลาที่มีลมหายใจเข้า-ออก
จนประเทศชาติล่มจม ก็ไม่ท้องแตกตายเช่นกัน”
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ” ว่า “มนุษย์สายพันธุ์นักการเมือง เป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์พิเศษที่ไม่มีวันท้องแตกตาย”
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี