บาปกรรมนั้นมีจริง ใครไม่เชื่อก็อย่าได้ลบหลู่เป็นอันขาด ดูได้จากที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ จะว่าเป็นที่ดินอาถรรพ์ก็ไม่ผิดนัก เพราะเป็น“ธรณีสงฆ์”ที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ทำพินัยกรรมยกที่ดินเกือบพันไร่ในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ให้แก่วัดธรรมมิการามวรวิหาร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2512
ที่ดินอาถรรพ์ผืนนี้ ถึงกับทำให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยรัฐบาล“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ติดคุกมาแล้ว โดยในปี 2563 ศาลได้พิพากษาจำคุกนายยงยุทธ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ฐาน“เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตทุจริตต่อหน้าที่” ตามความผิดมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ซึ่งต้องถือว่ารับใช้ใกล้ชิดอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร มาตั้งแต่ครั้งที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2544-2549 อันเป็นที่มาแห่งคดีจนทำให้นายยงยุทธต้องติดคุก นั่นก็เนื่องจากในปี 2544 สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย นายยงยุทธขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของนายประวิทย์ สีห์โสภณ อธิบดีกรมที่ดิน โดยมีเจตนาช่วยเหลือบริษัทอัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด, บริษัท กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับจำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในเวลาต่อมา ให้ได้รับประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
พูดง่ายๆ ก็คือ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ สั่งเพิกถอนที่ธรณีสงฆ์จำนวน 2 แปลง ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา มอบให้แก่วัดธรรมามิการาม จำนวน 924 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา เพื่อ“เล่นแร่แปรธาตุ” ทำให้ที่ดินมาตกอยู่ในมือนักการเมืองใหญ่ คือ“เสนาะ เทียนทอง”บ้านใหญ่แห่งจังหวัดสระแก้ว บิดาของนายสวรงค์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯในรัฐบาลชุดนี้..สุดท้ายที่ดินอัลไพน์อันเป็นมหากาพย์ก็ตกมาอยู่ในมือของ“ทักษิณ ชินวัตร” และ“ตระกูลชินวัตร”
ข้อเท็จจริงคดีนี้ตามคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ชั้นต้น) สรุปได้ว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้เบื้องต้นว่า ก่อนนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ถึงแก่ความตาย ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดิน 2 แปลง ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร ต่อมาเมื่อนางเนื่อมถึงแก่ความตาย มูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ได้โอนที่ดิน 2 แปลงนี้ให้กับมูลนิธิมหามงกุฎฯ
ต่อมามูลนิธิมหามงกุฎฯ ได้ขายที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวให้กับบริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด กับบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ในราคา 142 ล้านบาท และวันเดียวกันบริษัททั้ง 2 ได้นำที่ดินทั้ง 2 แปลงไปจดทะเบียนจำนองที่ดินกับธนาคารเป็นเงิน 220 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้น นายประวิทย์ สีห์โสภณ อธิบดีกรมที่ดิน ก็ได้สั่งให้เพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวนี้ และสุดท้ายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ก็มาเซ็นคำสั่งยกเลิกคำสั่งของนายประวิทย์เป็นการตลบหลังอีกทีหนึ่ง
บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท ผู้ถือหุ้นก็คือ นพ.บุญ วนาสิน ซึ่งก็เคยเป็นที่ปรึกษานายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ในสมัยที่นายยงยุทธดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ นั้น ผู้ถือหุ้นก็คือนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ นักการเมืองบ้านใหญ่แห่งจังหวัดปทุมธานี และนางอุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยาของนายเสนาะ เทียนทอง โดยบุคคลทั้งสองนี้ต่างก็เป็นนักการเมืองและอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่มี“ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี
ในปี 2540 ที่ดินดังกล่าวนี้ได้ถูกขายต่อในราคา 500 ล้านบาท ให้กับ“ทักษิณ ชินวัตร” และต่อมาทักษิณก็ผ่องถ่ายมาให้ลูกและเมียถือครอง โดยก่อนหน้าที่“มาดามแพทองโพย”จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในเดือนสิงหาคม 2567 นั้น เธอเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และร่วมเป็นกรรมการ“บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ” ก่อนจะโอนกลับคืนมาให้มารดา คือคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ หลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยผู้ถือหุ้นอื่นก็มี นายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร
ดังนั้น อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร จึงร้องเหมือนถูกตีที่ขนดหางว่า“รำคาญ” จากการให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดนครพนมเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่าน โดยกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ เอาอย่างไรก็เอา จะได้จบๆ เสียที คาราคาซัง น่ารำคาญ”
และไม่เพียงแต่เท่านั้น จากการให้สัมภาษณ์ของ“ทักษิณ ชินวัตร”ครั้งนี้ ฟังหางเสียงแล้วยังจะเรียกร้องเงินชดเชยอีก เนื่องจากเวลานี้นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ดินและโฉนดที่ดินทั้งสองแปลงนี้ กลับมาเป็นธรณีสงฆ์ดังเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเมินกันว่าอาจจะต้องมีการชดเชยค่าเสียหายถึง 7.7 พันล้านบาท ให้แก่ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่จำนวน 533 ราย และผู้รับจำนองอีก 30 ราย
โดย“ทักษิณ ชินวัตร” ให้สัมภาษณ์ว่า “หากมีการถอนสิทธิ ก็ไม่เป็นไร เพราะหลักการคือ ถ้าเป็นของกรมที่ดิน ก็ต้องชดเชยความเสียหายที่รับโอนอย่างไม่ถูกต้อง หรือหากเป็นของวัด ต้องถามว่าวัดจะชดเชยค่าเสียหาย หรือให้เช่าต่อ”-นี่คือหางเสียงที่ทักษิณพูด
ต้องบอกว่า โดยธรรมชาติของคนทั่วไปนั้น ตามสำนวนจีนที่ว่า “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” มักจะใช้เปรียบเปรยได้ แต่สำหรับคนอย่าง“ทักษิณ ชินวัตร”นั้น แม้เห็นโลงศพแล้วก็ยังเคยสั่งให้ลูกหลานทำเป็น“มัมมี่”ต่อหลังจากตนเองตาย
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่-ที่ดิน“ยามเนื่อม”นั้นมีอาถรรพ์..ดีไม่มีใครที่เข้าไปเกี่ยวข้อง อาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่กันทั้งตระกูลไปจนตราบชีวิตจะหาไม่ก็เป็นได้ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี