สำนักข่าว ABC News ออสเตรเลีย กับสำนักข่าว CNA สิงคโปร์ รายงานจากกรุงปักกิ่งว่าวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนขอให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปราบปรามการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม นายหวัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุ่งสังหารบนชายแดนไทย-พม่า คุกคามทำอันตรายพลเมืองของจีนและประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวสิงคโปร์กับสำนักข่าวออสเตรเลียให้น้ำหนักข่าวต่างกันโดย CNA พาดหัวข่าวว่า “เจ้าหน้าที่จีนร่วมกับตำรวจไทยจับกุมฆาตกรได้ 12 คน” ด้านสำนักข่าวออสเตรเลีย ให้น้ำหนักไปที่ “เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนายแบบจีนและเหยื่อค้ามนุษย์ออกมาได้หลายคน”
CNA ให้รายละเอียดว่า วันศุกร์ที่ 17 มกราคม เจ้าหน้าที่จีนกับตำรวจไทย ร่วมกันจับฆาตกรท้องถิ่นและชาวต่างชาติในศูนย์ปฏิบัติการหลอกลวง 12 คน ที่นำไปสู่การสูญหายของพลเมืองจีน และถูกหลอกลวงไปคุมขังอย่างต่อเนื่องผู้ต้องหามีทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ที่สงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญหาย และ คนจีนถูกกักขังอย่างต่อเนื่อง ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย กล่าวในแถลงการณ์
ด้านสำนักข่าว ABC News ออสเตรเลียพาดหัวข่าวตัวไม้ว่า “ช่วยเหลือนายแบบจีนออกมาได้ปลอดภัย” และให้รายละเอียดว่า กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มกราคมว่า เจ้าหน้าที่จีนได้ช่วยเหลือนายแบบชาวจีนออกมาจากแหล่งค้ามนุษย์ บนพื้นที่ชายแดนนอกกฎหมายในประเทศเมียนมา
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า Yang Zeqi นายแบบจีนพร้อมด้วยเหยื่อการค้ามนุษย์หลายคนได้รับการช่วยและกลับสู่ประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว
ตามรายงานในแถลงการณ์กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งรัฐจีน กล่าวว่าเมื่อวันศุกร์ นายแบบจีนYang Ziquli และเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์อื่นๆ หลายรายได้รับการช่วยเหลือ และนำกลับสู่มาตุภูมิประเทศจีนในวันเดียวกัน หลังจากปฏิบัติการครั้งสำคัญ หวัง เหมา ซุน เมาเคียง ซู หมู่มิ่ง และอีกหลายคน ได้รับการช่วยเหลือจากที่คุมขัง และส่งตัวกลับประเทศจีนโดยสวัสดิภาพ การแถลงของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะชี้แจงว่า เพื่อความปลอดภัย ได้ปิดบังชื่อจริงและใช้ชื่อจัดตั้งแก่เหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ที่ช่วยเหลือออกมา ปฏิบัติการร่วมกันของเจ้าหน้าที่จีนและตำรวจไทยได้ร่วมกันจับผู้ต้องหา 12 คน ที่สงสัยว่าเกี่ยวพันกับขบวนการสแกมเมอร์ในศูนย์ปฏิบัติการคุมขังเหยื่อแถลงการณ์กล่าว
พื้นทางตะวันออกพม่าใกล้ชายแดนไทย กลายเป็นแหล่งอาชญากรรมเลวร้ายมีอาคารหลายหลังบนพื้นที่กว้างใหญ่ใจกลางอุตสาหกรรมค้ามนุษย์ ที่หลอกลวงชาวต่างชาติด้วยสัญญาเสนองานดีเงินดีให้ แต่เมื่อหลอกลวงเหยื่อชาวจีน และต่างชาติมาติดกับได้แล้วไม่ยอมให้เหยื่อออกนอกบริเวณอาคาร และบังคับให้เหยื่อทำงานหลอกลวงออนไลน์ โดยใช้คำว่า “ฆ่าหมู”
สำหรับนายแบบจีน Yang Zeqi สูญหายหลังจากถูกหลอกให้ไปประเทศไทยโดยการเสนอให้แสดงภาพยนตร์ หลังออกจากสนามบินที่กรุงเทพฯ มีคนมารับนั่งรถเดินทางไปชายแดนไทย-พม่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม แปดวันหลังจากนั้นเขาวีดีโอคอลกับแม่ วันที่ 29 ธันวาคม ระหว่างวีดีโอคอล นายแบบจีนใส่ชุดสีดำนั่งในเก้าอี้ มือสองข้าง วางบนโต๊ะมีบาดแผลได้รับบาดเจ็บที่ตา
ทันทีที่เครื่องบินลงจอดสนามบินในประเทศจีนนายแบบ Yang โพสต์วีดีโอถึงสังคมออนไลน์ เขาพูดในวีดีโอว่า “ขอบคุณเพื่อนร่วมชาติทุกคน ครอบครัวและเพื่อน ปราศจากพวกคุณ ผมคงไม่มีโอกาสกลับมา ผมรักพวกคุณ”
หยาง ไฮเต๋า พ่อของนายแบบกล่าวว่าลูกชายของเขาโชคดี และโพสต์วีดีโอส่วนตัวว่า “เขากลับมาเมืองจีนได้ เพราะความช่วยเหลือของทุกคน” พ่อนายแบบ พูดในวีดีโอว่า...“ผมขอเตือนคนหนุ่มสาว ว่า พวกเขาต้องระวังตัวมากขึ้น และต้องสามารถจำแนกให้ได้ว่าอินเตอร์เนตไหนหลอกลวง เพื่อพวกจะไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกลวงในอนาคต ลูกชายผมกลับประเทศจีนได้ เพราะความช่วยเหลือของทุกคน....”
รายงานของสถาบันแห่งสันติภาพในสหรัฐเมื่อปีกลายพบว่า มีแก๊งหลอกลวงในทั้งหมด 305,000 คน ในเมียนมา กัมพูชา และลาว โกงเงินเหยื่อได้ 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แก๊งพวกนี้มีความสัมพันธ์ล้ำลึกกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติชาวจีน
ในแถลงการณ์กระทรวงความมั่นคงของจีนกล่าวว่า จะทำทุกอย่างจะใช้มาตรการกดดันขั้นสูงสุด และกำจัดขบวนการฉ้อโกงทางไกลข้ามชายแดน รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ เรียกร้องให้ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปราบปรามการพนันออนไลน์ และการฉ้อโกงหลอกลวงทางโทรคมนาคม หวัง อี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่มีเหตุการณ์สังหารบนชายแดนไทย-พม่า คุกคาม และได้ทำอันตรายต่อพลเมืองจีนและประเทศอื่นๆ
พิเคราะห์แถลงการณ์บ่งชี้ว่า จีนเดือดดาลมาก กับเรื่องคนจีนสูญหายจากประเทศไทยและไปโผล่ในแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่ประเทศเพื่อนบ้าน การที่ นายหวัง อี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ออกโรงเอง จึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยหรือ ข่าวปลอมหลอกลวงคนจีน ที่ไม่เคยมาเมืองไทยให้ตื่นตระหนกตกใจ ตามที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร อธิบายให้นักข่าวฟัง
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนซึ่งเป็นนักการทูต และนักการเมืองอาวุโสของจีนซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการต่างประเทศส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวถึงการสังหาร และการหลอกลวงทางโทรคมนาคม ที่มีจำนวนมากบนชายแดนไทย-พม่า คุกคาม และทำอันตรายต่อพลเมืองจีนและประเทศอื่นๆ
หวัง อี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของจีนที่แสดงความกังวล เรื่องแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติหลอกลวงคนจีนไปใช้งานเยี่ยงทาส และหลายครั้งถึงกับสังหารเหยื่ออย่างโหดร้ายทารุณ และเขาพูดเรื่องนี้เสริมจากที่เรียกร้องให้ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ร่วมมือกันปรามปรามการหลอกลวงทางโทรคมนาคมอย่างจริงจัง
เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อมังกรใหญ่อย่างนายหวังส่งเสียงคำรามวันพฤหัสบดี รุ่งขึ้นวันศุกร์นายแบบจีนและเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ชาวจีนหลายคนได้รับการช่วยเหลือ และส่งกลับบ้านไม่ทันข้ามวัน
จีนปฏิบัติการเช่นนี้ ร่วมกับลาว กัมพูชา และเมียนมา มาตลอดเวลาสามปี และนี่เป็นครั้งแรกที่จีนปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้านร่วมกับตำรวจไทยอ่านจากแถลงการณ์ของกระทรวงความมั่นคงของจีนเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่จีนบุกเข้าช่วยเหลือเหยื่อเคราะห์ร้ายในที่คุมขัง ส่วนตำรวจไทยจับกุมยามหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยให้เหมือนกับที่จีนปฏิบัติการในลาวและกัมพูชา
อนึ่ง จีนเคยขอให้รัฐบาลทหารเมียนมา ออกหมายจับ หม่อง ชิตตู ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนหรือ BGF ฐานสมรู้ร่วมคิดกับอาชญากรรมข้ามชาติในชเวโกะโก แต่พอเมียนมาออกหมายจับ หม่อง ชิตตู ประกาศเลิกเป็น BGF และเรียกกองกำลังของเขาเป็น กองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม และกองกำลังกะเหรี่ยงทุกกลุ่มยังคงเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ ศูนย์อาชญากรรมข้ามชาติที่ชเวโกะโก
พิเคราะห์จากแถลงการณ์ของกระทรวงความมั่นคงของจีน ที่กล่าวว่า “จะใช้ความกดดันขั้นสูงสุดและสาบานว่า จะกำจัดขบวนการหลอกลวงทางโทรคมนาคม อย่างจริงจัง จึงอนุมาน ได้ว่า เมื่อจีนเริ่มร่วมมือกับตำรวจไทยขั้นตอนต่อไปคงต้องใช้กองทัพอากาศพม่า
รัฐบาล แพทองธาร ถึงเวลาได้สำเหนียกกว่านี้ไม่ใช่เป็นข่าวปลอมอีกต่อไป หากประเทศไทยยังกระหายให้คนจีนมาเที่ยวเมืองไทย รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง ต้องจัดการอย่างจริงจัง กับทั้งไทยและฝรั่ง ที่กำกับการละครกะเหรี่ยงเพื่อเบนเบี่ยงประเด็น
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี