ที่ผ่านมา สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก หรือ สลาก N3 ดำเนินการจำหน่ายทดสอบในระบบแซนด์บ็อกซ์
ยอดขายอาจไม่หวือหวา เพราะข้อจำกัดที่ผู้ซื้อจะต้องไปซื้อหน้าแผงเท่านั้น
กระทั่งมีคนสงสัยว่า จะไปต่อ หรือพอแค่นี้?
1. เตรียมเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก N3 ผ่านตัวแทน เริ่มขาย 2 มี.ค.นี้
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการดำเนินการทดสอบการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก หรือ สลาก N3 ในระบบแซนด์บ็อกซ์ พร้อมทิศทางดำเนินการในระยะต่อไป
รศ.ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า ภาพรวมการจำหน่ายสลาก N3 ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ตุลาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน เป็นไปตามเป้าหมายที่สำนักงานฯกำหนดไว้
คือ เน้นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับประชาชนที่สนใจ รวมถึงระบบการจำหน่ายผ่านจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 รูปแบบเกมการเล่น วิธีการจำหน่าย เงื่อนไขประเภทรางวัล โอกาสการถูกรางวัลทั้ง 4 ประเภท คือ สามตรง สามสลับหลัก สองตรง และรางวัลพิเศษ ตลอดจนกระบวนการรับเงินรางวัล
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ไม่พบว่าการจำหน่ายสลาก N3 ส่งผลกระทบ
ให้ยอดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก หรือ L6 ปรับลดลง
สะท้อนให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ประเภทไม่ทับซ้อนตลาดกัน
รวมทั้งจำนวนรายการซื้อสลากในแต่ละงวด ทั้ง L6 และ N3 ก็สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเห็นควรให้ปรับแผนการจำหน่ายสลาก N3 ด้วยวิธีการจำหน่ายผ่านระบบตัวแทนเร็วขึ้นกว่ากำหนด (เดิมจะเริ่มเดือนเมษายน 2568)
แนวทางการทดสอบการจำหน่ายในระบบแซนด์บ็อกซ์ ระยะที่ 2 ผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นครั้งแรก ในรูปแบบ Soft Launch ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มีนาคม 2568 หรือเริ่มจำหน่าย 2 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
ผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 กลุ่มแรก คือ 1.ตัวแทนโครงการสลาก 80 จำนวน 819 ราย และ 2.ตัวแทนผู้พิการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก L6 ดิจิทัล จำนวน 986 ราย
รวมจำนวน 1,805 ราย ทั่วประเทศ
“การจำหน่ายสลาก N3 ในระบบแซนด์บ็อกซ์ระยะที่ 2 ผ่านตัวแทนจำหน่ายจริง เดินจำหน่ายจริง และตัวแทนจำหน่ายจะได้รับส่วนแบ่งจากการจำหน่ายสลากทุกรายการ จะประเมินให้เห็นว่าเมื่อไปขายจริงๆ แล้ว โดยที่สำนักงานสลากฯ ไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายเองอีกต่อไป จะสามารถตอบสนองตลาดได้แค่ไหน และกระทบกับระบบสลากในตลาดหรือไม่” – ดร.ธนวรรธน์กล่าว
2. ตัวแทนจำหน่าย ได้ส่วนแบ่งในอัตรา 10% ของราคาสลาก N3 ต่อรายการ
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า การจำหน่าย N3 ผ่านตัวแทน จะกำหนดกรอบการจำหน่ายไว้ที่ประมาณ 5 ล้านรายการต่องวด
โดยตัวแทนจำหน่าย จะได้ส่วนแบ่งในอัตรา 10% ของราคาสลาก N3 ต่อรายการ
หรือ 2 บาทต่อรายการละ 20 บาท
เมื่อรวมกับสลาก L6 ที่ได้รับไปจำหน่ายเดือนละ 10 เล่ม จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับตัวแทนประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน ในกรณีที่สามารถจำหน่ายได้ครบ
สำหรับรูปแบบการจำหน่าย ในส่วนของจุดจำหน่ายสลาก 80 จะเหมือนเดิมจากช่วงระยะที่ 1 คือ ต้องซื้อที่จุดจำหน่าย ทำรายการผ่านอุปกรณ์ และชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
ส่วนตัวแทนจำหน่ายที่เป็นผู้พิการ จะเป็นลักษณะ “เดินจำหน่าย”
ซึ่งตัวแทนจำหน่ายจะมีบัตรประจำตัวเพื่อแสดงตน และสวมชุดยูนิฟอร์มที่สำนักงานสลากฯ กำหนด
แต่ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับการจำหน่าย เพราะจะมี “คิวอาร์โค้ด” ที่ผู้ซื้อสามารถสแกนเพื่อทำรายการตรวจสอบข้อมูลตัวแทนนั้นๆ เพื่อเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวง
จากนั้นจึงทำรายการซื้อสลากได้ทั้งสลาก L6 และ สลาก N3 ได้
โดยชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเช่นเดียวกัน
สำนักงานสลากฯ จะนำผลที่ได้จากการจำหน่ายสลาก N3 ในระบบแซนด์บ็อกซ์ระยะที่ 2 ไปประกอบการพิจารณาในการรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลาก N3 ต่อไป
โดยตัวแทนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการเปิดรับสมัครให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก N3 ในระยะต่อไป คือ ตัวแทนจำหน่าย L6 แบบดิจิทัล
ซึ่งมีจำนวน 49,888 ราย
เนื่องจากมีความคุ้นเคยในการจำหน่ายสลากผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
3. การตัดสินใจเดินหน้าสลาก N3 ตามแนวทางการทดสอบการจำหน่ายในระบบแซนด์บ็อกซ์ ระยะที่ 2 ในแบบที่มีตัวแทนจำหน่าย
เป็นการเดินหน้าที่ถูกต้อง ถูกจุด ควรสนับสนุนต่อไป
ตรงกันข้าม ถ้ายกเลิกสลาก N3 ก็เท่ากับเตะหมูเข้าปากเจ้าพ่อหวยใต้ดินไปเลย
ในช่วงทดสอบจำหน่าย N3 ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย
ปัญหาสำคัญในช่วงจำหน่ายผ่านระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) คือ
ผู้ขายตามแผงที่เข้าร่วมโครงการ ไม่ได้มีผลประโยชน์แรงจูงใจที่จะขายสลาก N3 อะไรเลย
เนื่องจากในช่วง Sandbox นั้น สลากเป็นของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เหมือนไปฝากขายผ่านแผงเอกชน 600 กว่าแผง ทั่วประเทศ
โดยที่แผงเหล่านั้น ไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรเลย (เพราะยังเป็นแต่ช่วงทดสอบระบบการขาย)
เท่ากับว่า แผงขายมีน้อยอยู่แล้ว แถมแผงเหล่านั้นก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะกระตุ้นยอดขายอะไรเลย เพราะมีแต่ต้นทุน ไม่มีรายได้อะไรเลย
ซ้ำร้าย บางแผงใช้วิธีบังคับว่าผู้ซื้อจะต้องซื้อลอตเตอรี่บนแผงของตนก่อน จึงจะบริการขายสลากสามหลักที่ต้องจ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตังให้ !!!
เรียกว่า บังคับขายพ่วง คล้าย “เหล้าพ่วงเบียร์” ในอดีต
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบดี ว่านี่คือต้นเหตุที่ยอดขายไม่เปรี้ยงปร้าง
ในความเป็นจริง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็แจ้งวัตถุประสงค์ไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า การจำหน่ายสลากสามหลักผ่านระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) นั้น วัตถุประสงค์หลัก คือ การติตตามพฤติกรรมผู้บริโภค ว่ากระทบต่อการซื้อขายสลากที่มีอยู่เดิมหรือไม่ เพราะต้องคำนึงถึงตัวแทนจำหน่ายลอตเตอรี่เดิมด้วย ฯลฯ
ถ้าต้องการยอดขายเยอะๆ อย่างเดียว ทำได้ง่ายๆ โดยเปิดให้ซื้อขายผ่านแอปเป๋าตังโดยตรงเลย ปังแน่นอน
4. ที่น่าสนใจ คือ การจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 กลุ่มแรก คือ 1.ตัวแทนโครงการสลาก 80 จำนวน 819 ราย และ 2.ตัวแทนผู้พิการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก L6 ดิจิทัล จำนวน 986 ราย
รวมจำนวน 1,805 ราย ทั่วประเทศนั้น
จำนวนตัวแทนจำหน่าย จะยังน้อยไปหรือไม่?
เพราะตัวแทนจำหน่าย 1,805 ราย จะครอบคลุมการจำหน่ายทั่วประเทศได้อย่างไร
แม้จะมีแรงจูงใจ คือ มีรายได้ส่วนแบ่งในอัตรา 10% ของราคาสลาก N3 ต่อรายการ หรือ 2 บาทต่อรายการละ 20 บาท
แต่ความกว้างขวางของพื้นที่ กทม. กับอีก 76 จังหวัด แยกย่อยไป 878 อำเภอ หรือ 75,000 หมู่บ้าน ก็คงยากจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการซื้อสลาก N3 ใบละ 20 บาท
เข้าใจถึงเจตนาของสำนักงานสลากฯ ที่ไม่เปิดขายตรงผ่านแอปเป๋าตังเหมือนการขายสลากดิจิทัล ที่สามารถซื้อผ่านแอปเป๋าตังโดยตรง งวดละ 25 ล้านฉบับ
นั่นเพราะสำนักงานสลากฯ คงต้องการแบ่งรายได้ให้ตัวแทนจำหน่าย มีโอกาสทำมาหากิน มีช่องทางดำรงชีวิตต่อไปได้ ไม่ถูกดิสรัปต์ไปหมดนั่นเอง
แต่ควรจะให้มีตัวแทนจำหน่ายมากกว่านี้ โดยเร็วหรือไม่?
ตามแนวทางในอนาคตที่ระบุว่า จะเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลาก N3 จากตัวแทนจำหน่าย L6 แบบดิจิทัล จำนวนกว่า 49,888 ราย
ถ้าแบบนี้ จะครอบคลุมจำนวนผู้ซื้อมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน
5. อย่างไรก็ตาม สลาก N3 มีความแตกต่างกับหวยใต้ดิน
เงินรางวัล N3 เมื่อเทียบกับหวยใต้ดิน ก็มีลักษณะแตกต่างกัน
เงินรางวัล N3 จะแปรผันไปตามจำนวนยอดขายสลากในงวดนั้นๆ และจำนวนผู้ถูกรางวัลที่จะต้องเฉลี่ยกัน
จุดเด่นของสลาก N3 คือ ซื้อใบเดียว ได้ลุ้นหลายต่อ
เป็นลักษณะที่ทำให้ผู้ซื้อได้ลุ้นแบบชิงโชค เสี่ยงโชค สันทนาการ
ไม่เหมือนหวยใต้ดิน แบบเล่นการพนัน
โดยสลากสามหลัก N3 ซื้อทีเดียว 20 บาท กี่ใบก็ได้ เลือกเลขได้เองไม่มีอั้น แล้วได้ลุ้นทั้งสามตัวตรง สามตัวโต๊ด สองตัว แถมลุ้นรางวัลพิเศษอีก
ส่วนหวยใต้ดิน ถ้าจะลุ้นสองตัวก็ต้องซื้อแบบสองตัว
ถ้าจะลุ้นสามตัว ก็ต้องซื้อแบบสามตัว
และหวยใต้ดินต้องลุ้นเจ้ามือจะอั้น หรือจะจ่าย หรือจะโดนจับ ด้วยหรือไม่? ไม่มีรางวัลพิเศษเหมือน N3
อีกประการหนึ่ง เมื่อใดสลาก N3 หากผู้ซื้อสามารถซื้อได้สะดวกขึ้น อาจจะส่งผลให้ลอตเตอรี่ที่จำหน่ายเกินราคามากๆ ได้รับความสนใจลดลง เพราะผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้น
เพราะฉะนั้น การเดินหน้าสลาก N3 ต่อไป จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี