ผู้เฒ่าที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างอัศจรรย์ นับตั้งแต่วัยรุ่น วัยหนุ่มและวัยทำงานที่สร้างฐานะให้แก่ตนเองได้อย่างมั่นคงและเหนือกว่าคนอื่นอย่าง“สุดเด็ด” จนกลายเป็น “จอมทระนง” ที่มั่นใจในความเก่งของตนเอง และเป็น “อีโก้แห่งความอหังการ” เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุขัยนั้น
ในโลกนี้ มีผู้เฒ่าที่ “ทะลุเมฆ” แบบนี้อย่างจำกัดจำเขี่ย ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ผู้เฒ่าที่ “จ๊ะเอ๋” บวก “จ๊ะโอ๋” กับความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง “จากวัยหนุ่มจนถึงวัยแง้มฝาโลง” ล้วนเป็นผู้เฒ่าที่มองผู้อื่น “ล้วนด้อยค่ากว่าตนทั้งสิ้น”
หาก “ผู้เฒ่าจอมทระนง” จะแสดงความ “ยิ่งใหญ่” และ “อหังการ” อยู่แต่บ้านที่เป็นครอบครัวของตนเอง “ห้าวสติแตกแค่ไหน?” เมื่อไม่กระทบกับใคร หรือมีผลดีหรือผลร้ายต่อส่วนรวม ย่อมจะไม่มีใครออกมา “สวดกงเต๊ก” ใส่ผู้เฒ่า
แต่ถ้าผู้เฒ่ายังมีตำแหน่งสุดสำคัญ หรือมีบทบาทเป็นบุคคลสาธารณะหรือการกระทำของผู้เฒ่ามีผลดีหรือผลร้ายต่อสังคมส่วนรวมอย่างกระจุยกระจาย “ความห้าวอย่างสติแตกของผู้เฒ่า” ย่อมจะเป็น “ปัญหาระดับบิ๊ก บิ๊ก” ที่มีผู้คนจำนวนมาก ออกมา “เชียร์” และออกมา “ต่อต้าน” อย่างถึงพริกถึงขิง
“เดชผู้เฒ่า” ที่หลงตัวเองอย่าง “สติแตก” นั้น เคยทำให้โลกทั้งใบ “หวั่นไหว” แค่ไหน? กูรูทางประวัติศาสตร์ต่างสามารถจาระไนถึง “ผลร้ายอันดุดัน” ของผู้เฒ่าคนดังทุกรายได้เป็นฉาก ฉาก
ทั้งฮิตเลอร์ สตาลิน รัสปูติน นายพลโตโจแห่งแดนปลาดิบ และผู้นำอินทรีหัวขาวบางราย ที่กระหื่นกระหายแปลงกายเป็น “อสูรสงคราม”ผู้เฒ่าเหล่านี้ ล้วนเคย “เขย่าโลก” จนแทบ “ระเบิด” มาแล้วทั้งสิ้น
ผู้เฒ่าที่ “ยิ่งแก่ยิ่งสติแตก” นั้น ไม่ได้ล็อกสเปกเฉพาะผู้เฒ่าจากประเทศมหาอำนาจเท่านั้น
แม้แต่ประเทศ “กระเปี๊ยกเล็ก” อย่าง “นครสารขัณฑ์” ผู้เฒ่าผู้ได้ฉายาเป็น “โยคีศานติศีล” (โยคีจากตำนานปีศาจเวตาลของอินเดีย) ก็เป็น“ผู้เฒ่าที่ขยันสติแตก” เป็นประจำจนตกเป็นข่าวอย่างถี่บ่อย
ล่าสุด “โยคีศานติศีล” ก็เกิดอาการ “สติแตกอย่างดุเดือด ดุดันและดุฉกรรจ์อีกครั้ง” โดยออกมา “สวดชยันโตฝ่ายกองแช่ง” ด้วยภาษา“แรมโบ้สุดห้าวยกกำลังห้า” ว่า “เป็นหมู เป็นหมา เป็นควาย” อย่างมันปาก
การออกมา “ดุด่าตาชันกองแช่งอย่างสติแตก” เป็นรายวันนั้นทำให้ “กองแช่ง” ทั้งหลายออกมา “สวนควันปืน” อย่าง “ถอนหงอกผู้เฒ่า” เช่นกัน
แต่ชาวสารขัณฑ์ทั่วไปที่ไม่ใช่กองแช่ง หรือชอบโต้แย้งกับใคร ต่างออกมาระบุอย่าง “เข้าใจ” อาการ “สติแตก” ของท่านโยคีศานติศีลว่า “ท่านผู้เฒ่าเป็นผู้หลงอำนาจและหลงตัวเอง” ดังนั้น “ใครมาลูบคม” จิวแป๊ะทง ยอมไม่ได้
มีหมอบางท่านออกมาระบุว่า “โรคหลงอำนาจจนสติแตก” นั้น เป็นโรคสุดยากจะรักษา ชนิด “กินยาอะไรก็รักษาไม่ได้” แม้แต่หมอเทวดาที่
คอนโดดาวแปดแฉก ก็รักษาเปิ้นไม่ได้จร้า
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี