จากนักร้องโกหก นอกใจเมีย คบชู้
มาสู่การแซะมาตรา 112 ของบรรดานักร้องใจสามกีบ
ตรรกะวิบัติ
เข้าด้วยช่วยกันปั่นคำกล่าวอ้างว่า ถูกนายพลขู่ยัดคดี เพราะแชทบางส่วนมีปมส่อผิดมาตรา 112
ยังไม่มีใครเห็นการข่มขู่ ยังไม่มีใครเห็นแชทที่ว่า
มันจึงอาจจะมีมูลความผิดจริงๆ ก็ได้ ถึงกลัวว่าตนจะถูกดำเนินคดีกลัวความผิด หรือไม่
หรืออาจจะเป็นข้อความดูหมิ่น ข่มขู่อาฆาตมาดร้าย แบบ สส.พรรคส้มบางคน ใครจะไปรู้ เพราะเจ้าตัวไม่ยอมเปิดเผย
ส่วนพวกเสนอหน้าใช้คำว่า “ยัดคดี” ก็ไม่มีใครเคยเห็นเลย
เหลือเชื่อมาก เอาอคติมาชี้นำสังคม ปั่นคนที่ชื่นชมในฐานะนักร้องนักดนตรี ให้คล้อยตามวาทกรรมอำพรางว่า “ยัดคดี” ทั้งๆ ที่ ไม่ปรากฏข้อมูลความจริงอะไรเลย
ทำไมไม่คิดว่า นายคนนี้จะโกหก เหมือนที่โกหกเมีย โกหกใครต่อใครก่อนนี้บ้าง
คิดสิ คิด
1. แฟนเพจ “ต.ตุลยากร” ให้ข้อคิดเห็นแหลมคม ระบุว่า
“ช่วงนี้ มีการโหนคุณนักร้องนอกใจภรรยา เพื่อมาโจมตี ม.112 กันหลายภาคส่วน
แต่ถึงจะหลายภาคส่วน ก็ก๊วนเดียวกันนั่นแหละครับ
สาระสำคัญของ ม.112 คือ “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี”
จะเห็นได้ว่าถ้าไม่ไป กระทำการดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายไม่มีทางที่จะโดนยัดข้อหาได้เลย
การมองว่า ม.112 เป็นคดีการเมือง เป็นแผนการปลุกปั่นของคนบางกลุ่มเท่านั้น
ซึ่งตัวหัวโจก Mastermind ก็ยังลอยชายสบายๆ ไม่โดนคดีอะไรกับเขาเลย
เป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดีว่ามันยัดคดีกันไม่ได้
ไม่งั้นไปยัดตัวลาสบอสไม่ดีกว่าหรือครับ
ทำไมต้องมายัดปลาซิวปลาสร้อย ให้เขาเอาไปโหมกระแสตีกินอย่างนี้
กฎหมายนั้น ก็เหมือนดาบที่เอาไว้รับประกันความสงบสุขของสังคม ไม่ให้ใครไปละเมิดใคร
ถ้าไม่มีใครไปละเมิด ดาบเล่มนี้ก็วางอยู่เฉยๆ
ประเด็น คือ มีขบวนการบิดเบือนปลุกปั่นให้คนวิ่งไปชนดาบที่เขาวางอยู่ดีๆ แล้วก็เอาไปโฆษณาชวนเชื่อว่า ดาบนี่คือปัญหา ต้องยกเลิกดาบนี้ซะ
ทั้งๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีใครเดือดร้อนไปด้วยเลย
ทำไมพวกเค้าต้องทำเช่นนี้?
ลองนึกภาพ 8-9 ปี ที่ลุงตู่แกโดนสารพัดมีมล้อเลียนในโซเชียล หรือกระทั่งด่ากันตรงๆ ว่าโง่ เป็น รปภ.ขับเครื่องบินก็มี
โดนเป็นขบวนการอย่างนี้ คนก็คล้อยตามกันไปหมด
ลองตอบคำถามอย่างวิญญูชนนะครับ ว่าลุงแกโง่อย่างที่คนเขาด่ามั้ยเครื่องบินที่แกขับฝ่ามรสุมทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทั้งโควิด มันเลวร้ายอย่างที่เขาปั่นกันมั้ย
การปั่นกระแสมีผลขนาดไหน ดูตัวอย่างที่เห็นกันชัดๆ
กรณีผู้ว่าฯกทม. ผู้ว่าฯอัศวิน เลวร้ายอย่างที่ปั่นกระแสกันมั้ย
ผู้ว่าฯชัชชาติ ดีเท่าที่ปั่นกระแสกันหรือไม่
ตอบด้วยความซื่อตรงนะครับ
กลับมาที่เรื่องสถาบันฯ ถ้าไม่มี ม.112 อะไรจะเกิดครับ
ผมเชื่อว่าจะมีสารพัดมีมบิดเบือนความจริง โจมตีสถาบันฯ เพื่อต้องการทำลายอำนาจนำ (hegemony) ตามทฤษฎีที่สาวกกรัมชี่ยึดถือ ซึ่งพอปั่นกันเป็นขบวนการ โดยไม่มีดาบคอยป้องกัน สุดท้ายก็โดนกัดกร่อนอำนาจนำจนสามารถนำอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ไปสู่การล้มล้างสถาบันฯได้
แปลง่ายๆ เจตนาในความต้องการยกเลิก ม.112 ก็หวังผลเพื่อการล้มล้างสถาบันฯ นั่นแหละครับ”
2. เพจ “ฤๅ - Lue History” ให้ข้อมูลและแนวทางการดำเนินคดี มาตรา 112 ว่าจริงๆ คืออย่างไร
เนื้อความบางส่วน ระบุว่า
“ถามว่า…คำพูดเหล่านี้ เป็นการวิจารณ์โดยสุจริตใจ ใช่หรือไม่? “ทำตัวเหนือกฎหมาย” “ร่ำรวยบนความทุกข์ผู้อื่น” “อุ้มฆ่าประชาชน” “ครอบครัวปรสิต”
และถามอีกว่า…คำพูดเหล่านี้ ถ้าเกิดกับใครหรือตัวคุณ ถือเป็นการกล่าวหาหมิ่นประมาท มุ่งอาฆาตมาดร้าย ใช่หรือไม่?
ถ้าคุณตอบว่า ใช่ ...มันคือการหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายและ ไม่เป็นการวิจารณ์โดยสุจริต
ซึ่งมันก็เป็นนิยามเดียวกันกับที่ใช้อธิบายนิยามของ กฎหมายมาตรา 112 นั่นแหละ
ผมรู้สึกสลดใจอย่างมาก ที่เหล่านักร้อง ศิลปิน ออกมาพูดถึงเรื่อง ไม่เห็นด้วยกับการนำกฎหมาย ม.112 มาใช้เพื่อข่มขู่
...การดำเนินคดีทางกฎหมายหมิ่นประมาท หากเป็นคนธรรมดานั้น สามารถกระทำได้เลยด้วยตนเอง แค่เก็บหลักฐาน แล้วฟ้องศาลตรง จ้างทนาย หรือแจ้งความ
แต่สำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะ สถาบันฯไม่สามารถเป็นคู่ความกับประชาชนได้ และความคงอยู่ของสถาบันฯ เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ รัฐธรรมนูญจึง “ให้อำนาจ” กับประชาชนทุกคนที่พบเห็นการกระทำผิด เกี่ยวกับความมั่นคง สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้
แต่อย่างที่กล่าวเอาไว้ว่าไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะคุณต้องเก็บหลักฐานอย่างละเอียด และแสดงให้เจ้าพนักงานเห็นอย่างชัดแจ้งว่า คนที่กระทำการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ (ผมไม่อยากใช้คำว่า ผิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะมันไม่ใช่กฎหมายมาตรา 112 และไม่เคยมีกฎหมายนี้ในรัฐธรรมนูญ) นั้นได้กระทำผิดจริง
และเมื่อเจ้าพนักงานรับแจ้งความ ก็ต้องทำการนำหลักฐานทุกอย่าง ไปสอบถามจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ เอาจริงๆ บางคดี เป็นปี กว่าจะได้ดำเนินการ บางคดีหลักฐานอ่อน ก็หลุดไป
ที่เห็นๆ ว่าโดนดำเนินคดีนี่ก็ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นว่าผิดจริง ก่อนจะดำเนินคดี เข้าสู่ศาลเพื่อพิจารณา
ดังนั้น มันจึงนำไปใส่ร้าย หรือข่มขู่กันได้ยาก
และหากว่ามีคนนำมาข่มขู่กันจริง และคนที่ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำจริงอย่ากลัว ผมขอแนะนำให้ฟ้องกลับ ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
แต่ที่ผ่านมา คนที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมดรับสารภาพในชั้นศาล ว่าได้กระทำผิดจริงทั้งสิ้น
ซึ่งในแต่ละคน แต่ละคดี ศาลท่านก็มีคำพิพากษาแตกต่างกันไป บางคนยกฟ้อง บางคน พิพากษาลงโทษ แต่ลดโทษให้ และให้รอลงอาญา
บางคนมันเหลือขอจริงๆ ก็เอาจำนวนปี คูณด้วยจำนวนครั้งที่กระทำ ทำมาก ก็โดนมาก ต่างกรรม ต่างวาระ
ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการทางกฎหมาย ซึ่งนักร้องดีกรีปริญญาโทนิติศาสตร์คนนั้นก็น่าจะเข้าใจอีกนั่นแหละ
เรามาดูข้อเท็จจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับ กฎหมายมาตรา 112 กัน
ความจริงแล้ว กฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือตำแหน่งประมุขของรัฐ (Head of State) เป็นกฎหมายอันชอบธรรมที่ยังคงบังคับใช้ทั่วโลก
โดยผู้มีอำนาจบังคับใช้ ยกเลิก หรือแม้กระทั่งดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด คือ ฝ่ายบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐบาล สภานิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ
ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์มิได้เข้ามาก้าวก่ายนโยบาย หรือข้อกฎหมายดังกล่าวแต่ประการใด
แม้แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ยังมีกฎหมายคุ้มครองตำแหน่งประมุขของรัฐ (Head of State) และยังมีผลบังคับใช้ ตลอดจนดำเนินการพิจารณาคดีกับผู้กระทำผิดอยู่ในปัจจุบัน...”
...ดังนั้น จึงเป็นคำถามน่าคิดว่า ผู้ที่ยืนยันคัดค้านข้อกฎหมายนี้ มีจุดประสงค์อันใดแอบแฝง ทั้งๆ ที่ กฎหมายมาตรา 112 ไม่ได้มีไว้เพื่อจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพทางวิชาการ หรือการพูดคุยถกเถียงถึงพระมหากษัตริย์ในฐานะสถาบัน แต่มีไว้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับที่ประชาชนทั่วไปมีกฎหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง
ข้อสำคัญที่สุด คงต้องย้อนถามกลับไปถึงผู้ที่ต้องการให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ว่าแท้จริงแล้ว “พฤติการณ์” ของพวกเขาเป็นอย่างไร
สิ่งที่พวกเขา(จะ)ทำ หรือ(จะ)พูด ทั้งในปัจจุบัน และอนาคตนั้นอยู่ในขอบเขตของการวิพากษ์อย่างแท้จริง หรือเป็นการให้ร้ายใส่ความ มุ่งอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
คำตอบก็เห็นกันอยู่แล้วจากพฤติกรรมคำพูดทั้งหลาย ของกลุ่มแนวร่วมปลดแอกที่ผ่านมาว่า พวกเขากำลัง “เรียกร้อง” หรือ “รุกล้ำ” เสรีภาพกันแน่...”
น่าเวทนาในระดับสติปัญญามากเหลือเกิน
จากนักร้องโกหก นอกใจเมีย คบชู้ มาสู่การแซะมาตรา 112
สุดๆ จริงๆ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี