ในสมัยโบราณกาลนั้น ทรัพยากรของแผ่นดินที่ถือว่ามีคุณค่ามากคือเกลือซึ่งเป็นทรัพยากรใต้ดิน เหตุผลหนึ่งของการช่วงชิงพื้นที่หรือการรุกรานระหว่างอาณาจักรก็เกิดขึ้นเพียงเพราะความต้องการครอบครองพื้นที่ที่มีเกลืออยู่เป็นจำนวนมากเท่านั้น
ทำไมเกลือจึงเป็นทรัพยากรที่ต้องมีการแย่งชิงกัน หากถามว่าเกลือมีคุณค่าทางอาหารมากหรือ ก็คงตอบได้เลยว่าไม่ใช่ หากแต่เกลือเป็นสารที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการเก็บรักษาอาหาร โดยเฉพาะเนื้อสัตว์อันเป็นอาหารประเภทโปรตีนที่ร่างกายมนุษย์มีความต้องการเป็นอย่างมาก
เกลือถูกนับว่าเป็นยุทธปัจจัยอย่างหนึ่ง ซึ่งกองทัพแต่ละชาติต้องมี และเป็นสินค้าที่สามารถขายได้ จึงสร้างรายได้ให้แก่อาณาจักรต่างๆ ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นจริง ไม่ใช่เฉพาะในแถบทวีปเอเชียเท่านั้น แม้แต่ในยุโรปก็เช่นกัน
ในอดีตสมัยนั้นในยามศึกสงคราม ไม่ว่าจะในฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับ กองทัพจะต้องจัดเตรียมและสะสมเสบียงที่ส่วนหนึ่งเป็นเนื้อสัตว์เพื่อใช้ในการเลี้ยงดูไพร่พลที่เข้าร่วมในการรบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรบที่ติดพันหรือการรบที่ต้องเดินทัพเป็นระยะเวลานาน
อาณาบริเวณของประเทศไทยที่มีบ่อเกลือ ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีตกาลมากกว่า ๕๐๐-๖๐๐ ปีแล้วก็คือที่จังหวัดน่าน ซึ่งจนปัจจุบันนี้บ่อเกลือที่ยังคงหลงเหลืออยู่ที่อำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่านก็ยังเป็นเกลือที่มีคุณภาพดี ขาวบริสุทธิ์และมีรสชาติเฉพาะ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และบ่อเกลือที่เมืองน่านนี่เอง เป็นจุดที่ทำให้เกิด ศึกสงครามเพื่อแย่งชิงพื้นที่ระหว่างอาณาจักรล้านนาและอาณาจักรอยุธยา
ตำนานพื้นเมืองหลายฉบับ ได้กล่าวถึงการกำเนิดของเมืองน่านว่าเกิดจากชนเผ่าลัวะซึ่งเคลื่อนย้ายมาจากทางตอนใต้ของจีน และมาปักหลักอาศัยอยู่ที่นี่ จนชุมชนเติบโตขึ้น โดยแต่เดิมนั้นตั้งบ้านเมืองอยู่ที่เมืองย่าง บริเวณบ้านเสี้ยวในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำย่างในเขตอำเภอท่าวังผา ซึ่งห่างจากตัวเมืองน่านปัจจุบันประมาณ ๔๐ กิโลเมตร และไม่ไกลจากอำเภอบ่อเกลือมากนัก ว่ามีหลักฐานว่าเมืองนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่พอสมควร มีร่องรอยของคูน้ำคันดินซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนกำแพงเมืองยาวประมาณ ๑ กิโลเมตร และยังมีคูน้ำคันดินล้อมรอบอีก ๒ ชั้นมีพระธาตุสำคัญตั้งอยู่ ๑ องค์คือพระธาตุจอมพริก เมืองนี้ตั้งอยู่เป็นระยะเวลาประมาณ ๒ ปี พระยาภูคาที่ปกครองอยู่ก็ย้ายมาตั้งเมืองใหม่มีชื่อว่าเมืองวรนคร หรือเมืองพลัวปัจจุบันคือบริเวณอำเภอปัว ของจังหวัดน่าน และมีพระธาตุสำคัญ ๑ องค์ คือพระธาตุเปร็งสกัด ตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ ๑๙ ตอนต้น
พุทธศักราช ๑๘๖๕ พญางำเมืองจากพะเยา ได้ยกทัพมายึดครองเมืองนี้ และมอบให้พญาผานองซึ่งอยู่แต่เดิมนั้นได้ปกครองบ้านเมืองต่อไป และในที่สุดน่าน ก็ได้ไปอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรสุโขทัย เนื่องจากพญางำเมืองและพ่อขุนรามคำแหงมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เกลือที่ผลิตจากเมืองน่านได้นั้น ถูกส่งไปยังสุโขทัยเพื่อส่งไปตามลำน้ำป่าสัก สู่อยุธยา และออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อขายให้กับประเทศต่างๆ ซึ่งรวมทั้งโปรตุเกสและฮอลันดาด้วย นอกจากการขายเครื่องสังคโลกซึ่งสุโขทัยมีความสามารถในการทำเครื่องสังคโลกที่มีคุณภาพอยู่แล้ว
ต่อมาในสมัยพระธรรมราชาลิไท กษัตริย์ของอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งเป็นผู้ที่ศรัทธาในพุทธศาสนา และได้เปลี่ยนแปลงศาสนาพุทธจากลัทธิเถรวาทมาเป็นลัทธิลังกาวงศ์ รวมทั้งได้มีการย้ายเมืองน่านลงมาอยู่ในพื้นที่ใหม่ บริเวณบ้านเวียงใต้ โดยให้พญาผากองเป็นผู้ปกครองในปีพุทธศักราช ๑๙๙๒ และได้สร้างพระธาตุคู่บ้านเมืองนี้คือพระธาตุแช่แห้งขึ้น
ในต้นศตวรรษที่ ๒๐ พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ซึ่งเป็นนักรบผู้เก่งกล้าได้เห็นว่าแม้เชียงใหม่จะได้รับเกลือจากเมืองน่านมาเป็นเครื่องราชบรรณาการ แต่ก็ไม่พอเพียง มีความต้องการเกลือมากขึ้น จึงยกทัพลงมายึดเมืองน่านไว้ได้ และจากการที่อาณาจักรล้านนาและอาณาจักรอยุธยายังไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจึงทำให้เส้นทางการส่งเกลือจากเมืองน่านไปยังสุโขทัยเพื่อส่งต่อไปยังอยุธยาถูกตัดขาด ทำให้อาณาจักรอยุธยาขาดแคลนเกลือ และเกิดปัญหาขึ้นอย่างมาก ถึงแม้ว่าอยุธยาจะทำเกลือสมุทรจากน้ำทะเลได้ แต่ก็ยังไม่มีความสามารถที่จะทำให้ได้เกลือที่มีคุณภาพและจำนวนเพียงพอ
สงครามระหว่างอาณาจักรอยุธยาโดยพระบรมไตรโลกนาถ กับอาณาจักรล้านนาโดยพระเจ้าติโลกราชจึงเกิดขึ้น เป็นสงครามที่ยืดเยื้อและเกิดขึ้นถึง ๓ ครั้งระหว่างปีพุทธศักราช ๑๙๙๙ จนถึง ๒๐๑๗ เป็นระยะเวลาถึง ๑๘ ปี แต่ก็ไม่มีการแพ้ชนะ อาณาจักรอยุธยาจึงต้องมุ่งไปซื้อเกลือจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเกลือสมุทรที่มีคุณภาพ และในที่สุดก็สามารถล้วงความลับของการทำเกลือสมุทรจากจีนซึ่งเป็นเรื่องที่จีนหวงแหนเป็นอย่างมากจนได้ และเริ่มต้นทำการผลิตเกลือเอง โดยเริ่มทำที่บ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ได้เกลือที่มีคุณภาพและดี จึงได้มีการขยายไปในพื้นที่ใกล้เคียงจนถึงปัจจุบันนี้ ทำให้อาณาจักรอยุธยามีรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายเกลือออกไปยังประเทศอื่น ทำให้ประเทศมีความมั่นคงเกิดขึ้นเป็นระยะเวลายาวนาน
จะเห็นได้ว่าในอดีตนั้นเกลือเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญของชาติ ซึ่งปัจจุบันถึงแม้จะเปลี่ยนไปแต่บ่อเกลือที่อำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่านก็ยังมีอยู่ และกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งที่หากใครได้เดินทางไปจังหวัดน่าน ก็จะหาโอกาสไปชมการผลิตเกลือซึ่งใช้วิธีการตักน้ำจากบ่อขึ้นมาต้มโดยมีกระบวนการต้มซึ่งเป็นวิธีการโดยเฉพาะ จนได้เกลือสีขาวเป็นผลึกสวยงามและมีคุณภาพที่ดี
ทรัพยากรใต้พิภพมีอยู่มากมาย ในส่วนของประเทศไทยนั้นทรัพยากรอีกอย่างหนึ่งคือน้ำมันและแก๊ส ที่มีอยู่ในหลายที่ของประเทศ แหล่งแรกๆที่ขุดพบคือบ่อน้ำมันฝางซึ่งยังคงดำเนินการผลิตอยู่ถึงแม้จะมีปริมาณไม่มาก ส่วนที่อยู่ในทะเลอ่าวไทยนั้นถือว่ามีแหล่งที่มีขนาดใหญ่ โดยแหล่งที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือบริเวณนอกชายฝั่งเกาะกูดซึ่งเชื่อว่ามีทั้งแก๊สธรรมชาติจำนวนมหาศาลและน้ำมันดิบจำนวนไม่น้อย ซึ่งขณะนี้ยังเป็นประเด็นอยู่ว่ารัฐบาลไทยจะสามารถรักษาทรัพยากรนี้ซึ่งเป็นสมบัติของชาติไทยไว้ได้หรือไม่
ในช่วง ๓-๔ เดือนที่ผ่านมานี้ได้มีการพูดถึง MOU ๔๔ ที่เป็นประเด็นปัญหาระหว่างราชอาณาจักรไทยและกัมพูชา ในเรื่องของแนวเขตทางทะเลที่อาจจะเป็นพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งผู้ชำนาญการหลายฝ่ายรวมทั้งทางกองทัพเรือได้ทบทวนเรื่องแนวเขตนี้แล้วเห็นว่าหากยอมให้มีการเจรจากันตามที่เขียนไว้ใน MOU ๔๔ ไทยอาจจะสูญเสียทรัพยากรที่มีค่ายิ่งนี้บางส่วนให้กับกัมพูชา โดยที่ไม่น่าจะต้องสูญเสีย ยกเว้นเสียแต่ว่ามีนักการเมืองหรือคนบางพวกได้ผลประโยชน์ที่เป็นจำนวนมหาศาล เมื่อมีผู้ออกมาพูดเรื่องนี้มากขึ้น ทำให้กระแสในเรื่องนี้อ่อนตัวลงไปเล็กน้อยแต่ก็คงไว้วางใจไม่ได้เป็นอันขาดว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายใต้การนำของรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคหลัก และน่าจะถูกชี้นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่โกงกินทุจริตต่อประเทศชาติโดยศาลได้ตัดสินลงโทษไปแล้วและตัวเองก็ได้ยอมรับว่าได้กระทำผิดทุจริตคอร์รัปชั่นจริง จนถึงกับมีการขอพระราชทานอภัยโทษมาแล้วด้วย
เหตุที่ไม่น่าไว้ใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะกระทำการอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้และเมื่อไหร่นั้นก็เพราะมีเหตุบางอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่าการกระทำของรัฐบาลในบางครั้ง ซึ่งหากเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ควรจะให้ประชาชนส่วนใหญ่ ได้มีส่วนร่วมในการคิดเห็นด้วย ดังที่ปรากฏชัดเจนว่าการจัดตั้งEntertainment Complex หรือที่เรียกภาษาไทยว่าศูนย์ความบันเทิงครบวงจร ซึ่งแน่นอนจะต้องมีบ่อนกาสิโนแฝงอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ในระยะยาวอาจจะเกิดปัญหากระทบทางสังคมต่อประชาชนคนไทยอย่างรุนแรง ไม่คุ้มกับเงินรายได้ที่จะเกิดขึ้น โดยมีการนำเสนอเรื่องนี้เป็นวาระจรให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับรองไปเรียบร้อย อันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าก็คือการมีช่องทางในการที่จะทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในกระบวนการเพื่อดำเนินการให้มีการเปิดศูนย์บันเทิงครบวงจรนี้ได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องหาคำตอบว่าใครจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ เพราะมันก็น่าจะเป็นผู้ที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในขณะนี้นั่นเอง
ทรัพยากรของชาติเป็นสิ่งที่ต้องหวงแหน และสังคมของชาติก็เป็นสิ่งที่จะต้องรักษาไว้ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ อย่าได้มองเพียงผลประโยชน์ของชาติที่อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย และกลับกลายเป็นว่าผลประโยชน์ส่วนใหญ่ไปตกอยู่กับคณะบุคคลหรือบุคคลที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติเท่านั้น
ปิยะ เนตรวิเชียร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี