ทางชีวิตของ “ทักษิณ ชินวัตร” ดูเหมือนสบายแต่แท้ที่จริงแล้ว โคตรลำบาก เงินทองกองท่วมหัว แต่ชีวิตหามีความสุขได้ง่ายๆ อย่างคนอื่นเขา
แก่ปูนนี้แล้ว ยังต้องทำงานรับใช้ลูกสาวและขี้ข้าบริวารที่ไม่เอาถ่าน ไม่เอาไหน ประกอบกับทักษิณเป็นคน “หลงตัวเอง” ติดการเป็น “พระเอก” ไม่ยอมให้ใครนำเกินหน้า
จึงจะเห็นได้ว่า วันนี้ทักษิณ “ดิ้นสุดชีวิต”เพื่อจะชนะการเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ เพื่อรวบรวม “อำนาจต่อรอง” ไป “เจรจา”
ด้วยเหตุว่า คุยโวไว้ว่า น้องสาวจะได้กลับมาเล่นสงกรานต์, ลูกสาวจะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และคดีชั้น 14 งวดเข้ามา เหมือนโซ่กับสายจูงที่เริ่ม“รัดคอแน่น”
ในเวลาที่พรรคสีส้มอ่อนแอลงทุกที มวลชนถดถอย “ปีศาจ” ที่ถูกสร้างไม่น่ากลัวอย่างที่เคยเป็น และเสมือนถูกจับได้แล้วว่า “ทักษิณ” กับ “สีส้ม” เป็นพวกเดียวกัน อย่างเดียวที่ทักษิณจะมี “อำนาจต่อรอง” กลับไป “เจรจา” กับ “คู่เจรจาเดิม”ได้ คือ “แสนยานุภาพทางการเมือง”
โดยหากทักษิณ “กินรวบ” เก้าอี้ อบจ. ได้มากเท่ามาก เขาจะส่งสัญญาณว่า นี่คือการเดินหน้า กินรวบเก้าอี้ สส. และหากเขาได้ สส. เกินครึ่งสภาคู่เจรจา “จะว่าอย่างไร”
แผนหลักของ “ทักษิณ” ที่เป็นไปได้คือ หันมาทำให้ตัวเองดู “น่ากลัว” กว่า “ภัยเดิม”เพื่อ “เปิดการเจรจา”
ขณะเดียวกัน เขาก็มีโอกาสจะเจรจากับ“พรรคส้ม” ด้วย หากแผน 1 ไม่บรรลุ แผน 2 คือ รวมพลังกันเป็น “อำนาจต่อรอง” อีกครั้ง หากแผน 1 ไม่สำเร็จ คือ เพื่อไทยหรือพรรคสีส้มชนะการเลือกตั้งไม่เกินครึ่งสภา
แต่เวลานี้ ต้องค่อยๆ “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ” ชนะการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อปลดล็อค “คดี” บางคดี ควบคู่ไปกับการ “สะสมทุน” ด้วยการเร่งผ่านกฎหมาย “พนันออนไลน์” กับ “กาสิโน”
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อ 27 ม.ค. 2568 ว่า สถานการณ์พลิกเปลี่ยนการเมืองไทยครั้งสำคัญอยู่ที่ 3 ผลตรวจสอบของ ป.ป.ช. แพทยสภา และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนพุ่งตรงเขย่าทักษิณ ชินวัตร และส่งผลกระทบรัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกฯอุ๊งอิ๊งค์- แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นลูกสาว อย่างรุนแรง
“หัวใจสำคัญที่จะเป็นปัจจัยหักเหอยู่ที่แพทยสภา เพราะผลสอบจะเป็นสารตั้งต้น ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จภายในมีนาคมนี้ หรือเวลาล่าช้าไปบ้างแต่ไม่น่านานอะไร ขณะที่ ป.ป.ช.ก็ทำหน้าที่ไต่สวนคู่ขนานกันไป
...เมื่อแพทยสภามีผลตรวจสอบแล้ว จะเขย่าชีวิตทักษิณ ซึ่งวันนี้ไม่ได้สบายใจอะไรกันมากมาย อีกอย่างทักษิณหาเสียงนายก อบจ. อ้างได้พูดกับพระเจ้าถี่ขึ้น ยิ่งเพิ่มความไม่สบายใจมากขึ้นตามลำดับเพราะเป็นการพูดคลุมเครือ ไม่รู้พระเจ้าหมายถึงใคร และนำมาหาเสียงต้องการสื่ออะไร”
นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อแต่ละหน่วยงานดำเนินการตรวจสอบ ไต่สวนอยู่นั้น หนทางข้างหน้าของทักษิณ ไม่ได้ราบเรียบและโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป โดยข้อเท็จจริงที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไปให้ถ้อยคำกับนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. เจ้าของสำนวนไต่สวนชั้น 14 ของ ป.ป.ช. ดังนั้นเชื่อว่าแต่ละกระบวนการตรวจสอบจึงดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญ
“ถ้าพบว่ามีการช่วยเหลือทักษิณ ผู้กระทำความผิดไม่ให้รับโทษทางอาญาเรื่องจะไปไกลและกรณีศาลฎีกาฯ เลื่อนพิจารณาคำร้องนายชาญชัยอิสระเสนารักษ์ ยื่นให้พิจารณานำตัวทักษิณไปติดคุก 1 ปี อย่างไรก็ตาม ศาลเคยตีตกคำร้องของนายชาญชัยมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเลื่อนการพิจารณา คาดอาจมีนัยสำคัญ ดังนั้น คงทำให้ชีวิตทักษิณไต่บนเส้นลวด คงไม่สบายใจในโทษคดีอาญามากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ปัญหาความไม่สบายใจของทักษิณแสดงออกผ่านใบหน้าหม่นหมอง ดวงตาสะท้อนความหวั่นวิตก และไม่ให้สัมภาษณ์สื่อในงานเปิดที่ทำงานพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่ ซึ่งโดยมารยาททางการเมืองแล้ว พรรคการเมืองหรือพรรคร่วมรัฐบาลต้องมาร่วมแสดงความยินดี แต่มีเพียงเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเท่านั้นไปร่วมงานนี้
นายจตุพร เชื่อว่า บ้านเมืองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โดยการอ้างป่วยวิกฤตกับพฤติกรรมของทักษิณในปัจจุบันล้วนเป็นคำตอบอยู่แล้วว่า คือการทายท้าหลักกบิลบ้านกบิลเมือง และผู้มีหน้าที่ในบ้านเมืองนี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลย ดังนั้น การตรวจสอบอาการป่วยของทักษิณของแพทยสภา กับ ป.ป.ช. จะเกิดผลพวงกับหน่วยงานอื่นตามมา
ส่วนการเร่งบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์นั้น การสำรวจของนิด้าโพลระบุโดยรวมประชาชนไม่เห็นด้วยร่วม 70% ยิ่งนักวิชาการรายงานผลกระทบของกาสิโนในประเทศยุโรปและข้างเคียงในไทยจึงเห็นรูปธรรมความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของประเทศไทยว่า การพนันออนไลน์จะทำบรรลัยให้บ้านเมืองและครอบครัวคนไทย
อย่างไรก็ตาม คนไทยต้องคิดว่า ท้ายที่สุดกาสิโนและพนันออนไลน์จะสูบเงินจากที่ไหน จากนักท่องเที่ยวหรือคนในประเทศ แม้รัฐบาลและพ่อรัฐบาลพยายามอธิบายว่า สิ่งที่อยู่ใต้ดินต้องนำขึ้นมาอยู่บนดิน แต่คนมีหน้าที่รู้ถึงสิ่งผิดกฎหมายอยู่ใต้ดิน ทำไมไม่จัดการปราบปราม กลับจะให้การพนันออนไลน์มาอยู่บนดินมาเป็นเครื่องมือสูบเงินผ่านโทรศัพท์มือถือของคนไทย เพื่อทำรายได้หลักให้บ่อนกาสิโนหรือ?
นายจตุพรกล่าวว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเริ่มต้นหาเงินเข้าประเทศฟื้นเศรษฐกิจ โดยทุ่มเงินกว่า 5,000 ล้านบาท ปลุกซอฟต์ พาวเวอร์ ทั่วประเทศ แต่ต้องตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ไม่มีผลงาน จึงหันมาปลุกบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์แอบซ่อนหาเงินสูบเอาจากคนในประเทศให้เป็นทาสการพนัน ซึ่ง ร.5 ทรงเตือนและยกเลิกบ่อนการพนันในสยามมาแล้ว รัฐบาลยังบังอาจกล้าเดินหน้าหาความบรรลัยให้บ้านเมืองอีกหรือ?
“เชื่อว่านักท่องเที่ยวมาไทยไม่มีเป้าหมายมาเล่นการพนัน ถ้าจะเล่นพนันไปบ่อนที่ไหนก็ได้มีทั่วโลก เหตุมาไทยเพราะต้องการชื่มชมวัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิถีชีวิตคนท้องถิ่นที่ดีงาม ซึ่งเป็นจุดขายของไทยมาตลอด แล้วรัฐบาลกลับจะเอาบ่อนกาสิโนมาทำลายสิ่งที่ดีงาม เราจะยอมเหรอ เชียงใหม่เป็นพื้นที่ตั้งบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่ง คนเชียงใหม่จะยอมให้วัฒนธรรมที่เป็นจุดขายนักท่องเที่ยวถูกทำลายไปหรือไม่”
นายจตุพรกล่าวว่า รัฐบาลต้องการนำพนันออนไลน์ที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินถูกกฎหมาย แล้วขอให้ลองคิดกันดูว่า ผลประโยชน์อื่นใดไปตกอยู่ที่ใคร รัฐหรือเจ้าของบ่อน แต่ครอบครัวและบ้านเมืองจะบรรลัย มีหนี้สินล้นพ้นตัว เกิดอาชญากรรมทั้งยาเสพติด ขายตัว ขายครอบครัว ลักทรัพย์ ตีชิงวิ่งราว เพียงเพื่อหาเงินไปเล่นพนันออนไลน์
นอกจากนี้ รัฐบาลอย่าอ้างแต่โลกสวยที่จะมีรายได้เข้าประเทศ เพราะเงินที่จะได้จากการตั้งบ่อนตลอด 30 ปี จำนวน 35,000 ล้านบาทนั้น ต้องหักค่าการจัดการของคณะกรรมการบริหารที่มีนายกฯ เป็นประธาน ส่วนที่เหลือจึงจะนำเข้าคลังรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
“ขอพี่น้องคนไทย 70% ที่นิด้าโพลสำรวจมาไม่เอาบ่อนกาสิโน ต้องยืนคัดค้านให้แข็งแรง เพราะเชื่อว่า อีกไม่นานพรรคร่วมรัฐบาลจะกระโดดออกมาร่วมสนับสนุนไม่เอาบ่อนด้วย ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยอธิบายด้วยความปัญญาอ่อนอยากสร้างให้ได้ถ้าดีจริงแล้วทำไมไม่ชูหาเสียง ส่วนที่หาเสียงไว้มีอะไรตรงปกกันบ้าง โดยเฉพาะแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทเห็นชัดเจน”
อีกทั้งกล่าวว่า การแบ่งซอยแจกเงินหมื่นบาทตามนโยบายเงินดิจิทัลนั้น ต้องรู้ไว้ว่า ไม่ใช้เงินของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเงินงบประมาณที่คนหนึ่งและพรรคเพื่อไทยนำมาแจกหาเสียงให้ตัวเอง ส่วนประชาชนทั้งประเทศต้องแบกหนี้ชดใช้พร้อมดอกเบี้ยถึง 3 เท่าตัว และหาเสียงครั้งต่อไปถ้าพรรคการเมืองชูนโยบายกู้เงินนำมาแจกเกทับแข่งขันกัน บ้านเมืองคงย่อยยับและทำประชาธิปไตยเสียหาย
สรุป : ค่อยๆ ตามดูกันต่อไป ว่า ประชาชนคนไทย จะพาประเทศไทยไปอยู่ในกำมือทักษิณ หรือหลุดออกมาเป็นเกาะคุ้มภัยให้แก่เสาหลักของชาติบ้านเมืองต่อไป!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี