น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่า ยังอยู่ในกระบวนการของคณะกรรมการกฤษฎีกา ต้องใช้เวลาดูกันสักนิดให้ละเอียดว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
เมื่อถามว่า การมีเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ได้เลือกสถานที่ไว้หรือไม่ ว่า จะใช้ที่ไหนและมีกี่แห่ง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดขนาดนั้น มีเพียงการคุยแค่กลุ่มเล็กๆ อยากให้เป็นอย่างไร ที่ไหน แต่ยังไม่มีการระบุลงไป
1) นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน แถลงแสดงความกังวล ว่า ภายหลังนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุ พื้นที่คลองเตยเหมาะที่จะตั้งสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ทั้งที่กฎหมายยังไม่มีความพร้อม ทำให้กระแสสังคมตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาลจึงเร่งเดินหน้าเรื่องนี้ ทั้งที่การกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถทำได้หลายวิธีจึงอยากถามว่า เหตุใดรัฐบาลถึงกระเหี้ยนกระหือรือที่จะเร่งทำเรื่องนี้โดยเร็ว ทั้งที่มีเรื่องอื่นสำคัญกว่า เช่น การจ้างงาน การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก และกาสิโนทุกวันนี้หลายประเทศใช้เวลานานในการศึกษา เช่น ญี่ปุ่น ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
“ถามว่าประเทศไทยรอบคอบเพียงพอแล้วหรือไม่ เพราะจากผลสำรวจของ นิด้าโพล ประชาชน ไม่เห็นด้วยถึง 60% ดังนั้น รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชนมากกว่าฟังเสียงนายทุนที่จะเข้ามาลงทุน และรัฐบาลควรอธิบาย สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเพราะมีปัญหาเรื่องการฟอกเงินในบ่อนจำนวนมากที่ผ่านมา มีการบังคับใช้กฎหมาย แต่ไม่สามารถจัดการเว็บพนันออนไลน์ บ่อนเถื่อน ที่ผิดกฎหมายได้ แล้วถ้าจะทำให้ถูกกฎหมาย ก็จะไม่มีใครมาขออนุญาต เพราะบ่อนเถื่อนเปิดได้อยู่แล้ว” นายภัณฑิล กล่าว
ขณะเดียวกัน ยังมีความเป็นห่วงเรื่องการแก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่เปิดช่องให้เอกชนสามารถเข้ามาร่วมทุน ด้วยการจัดตั้งบริษัทลูก ให้ร่วมลงทุนกับบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติได้ ซึ่งจะขยายขอบเขตให้เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากวัตถุประสงค์เดิมตามผังเมือง คือการขนส่งโลจิสติกส์ แต่มีข่าวหนาหูว่า มีบริษัทของนายทุนพรรคร่วมรัฐบาลตั้งบริษัทขึ้นมา เพื่อจะรับบริหารจากการท่าเรือฯ เพราะมูลค่าที่ดินท่าเรือคลองเตย จำนวน 2,000 ไร่ โดยแบ่งอยู่ในเขตศุลกากร 1,000 ไร่ ที่จะใช้ทำอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่ามากถึง 4 แสนล้านบาท เทียบไม่ได้กับค่าออกใบอนุญาตที่มีมูลค่าเพียง 5 พันล้านบาท รัฐบาลควรเอาไปทำประโยชน์อื่นให้ประชาชนดีกว่า ไม่ใช่เอาไปประเคนให้นายทุน เพื่อสร้างกาสิโน โดยเฉพาะกรณีที่จะมีการสร้างทางด่วน S-1 เพื่อรองรับการพัฒนาท่าเรือในฝั่งตะวันออก ที่จะทำเป็นศูนย์กระจายสินค้าใหม่เอาตู้คอนเทนเนอร์สูง 8 ชั้น ให้รถบรรทุกขึ้นไปได้จึงต้องสร้างทางด่วนเชื่อมเข้าไปข้างในโดยตรงใช้พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ อีกทั้งจะมีการไล่ที่ประชาชนที่อาศัยอยู่หน้า สน.ท่าเรือ โดยยังไม่มีความชัดเจนเรื่องทางออกให้กับประชาชนหลายครัวเรือนว่า จะมีการชดเชย และให้ไปอยู่ที่ไหน ในขณะที่รัฐบาลคิดจะทำโครงการใหญ่ มูลค่าแสนล้านบาทให้กับนายทุน
“ขอตั้งคำถามไปถึงนายสุริยะ ว่าหัวใจของโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ 10% จำเป็นต้องมีบ่อนกาสิโนหรือไม่ ถ้าไม่มีบ่อนจะทำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่ได้หรืออย่างไร” นายภัณฑิล กล่าว
นายภัณฑิลยังสังเกตถึงการตั้ง นายวิษณุ เครืองาม กับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ทำให้ประชาชนเริ่มเป็นห่วงแล้วว่า กฎหมายนี้จะพิเศษหรือไม่หรือจะตั้งเป็นเขตท่องเที่ยวพิเศษ ทั้งที่กฎหมายมีอยู่แล้ว ถ้าจะทำสถานบริการ สิ่งที่สำคัญ คณะกรรมการกฤษฎีกาก็บอกแล้วว่า ซ้ำซ้อนกัน เหตุใดจึงไม่แก้ พ.ร.บ.การพนัน ไปเลย ขอท้าให้มีการทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนตัดสิน ไม่ใช่รัฐกำหนดเองตามใบสั่ง ประชาชนต้องมีสิทธิ์รู้ และมีส่วนร่วม ไม่ใช่ถูกมัดมือชกโดยผลประโยชน์ของกลุ่มทุน
หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้ง สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในยุโรป ก็มีปัญหา ไม่ใช่สำเร็จอย่างเดียว สำหรับกาสิโนจะเอาแต่โมเดลการพัฒนาเมืองรอง เหมือนที่สหรัฐฯ พัฒนาลาสเวกัส ไม่ได้ เพราะกรุงเทพฯ มีพร้อมอยู่แล้ว ทั้งวัด และอาหารอร่อย
“ฉะนั้น คนที่มาเที่ยว ไม่ใช่เพราะมีบ่อนกาสิโน ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ จะไม่เอา ประกอบกับเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน เรื่องการเช่าที่ดิน 99 ปี เพราะการจะคุ้มทุนต้องใช้เวลานาน รวมถึงการที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในเมือง จะส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน” นายภัณฑิล กล่าว
2) ย้อนกลับไปดูเมื่อปีก่อน วันที่13 สิงหาคม 2567 นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคฯ ว่า หลังพรรคเพื่อไทยส่งร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ..... หรือกฎหมายกาสิโน มาให้พิจารณา ในเบื้องต้นจากการพิจารณา “ไม่เห็นด้วย”ในสาระสำคัญ 4 ประเด็นคือ
1.ร่าง พ.ร.บ.นี้ ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องการพนันผิดกฎหมาย อาจจะทําให้มีทั้งการพนันบนดิน และใต้ดิน ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาต่อไปได้
2.เรื่องผลประโยชน์ต่อรัฐ และต่อประชาชน ที่ยังไม่ชัดเจน และยังไม่มากพอสําหรับการที่จะลงทุนทําเรื่องนี้ 3.เรื่องผลกระทบในเชิงของการขับเคลื่อน และกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าการทํากาสิโนจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทย เนื่องจากเรามีหลายอย่างที่เป็นสิ่งที่ดีกว่า และเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศแต่การพนันก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้น
4. ใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ เบื้องต้นไม่เห็นมาตราไหนที่ระบุในเรื่องของการช่วยเหลือหรือดูแลแรงงานไทยในการจ้างงาน ทั้งเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็คงมีการแสดงความคิดเห็นเช่นเดียวกันซึ่งต้องรอดูว่ารัฐบาลจะนำประเด็นเหล่านี้ไปพิจารณาอย่างไร ทั้งนี้ในเรื่องประโยชน์ เท่าที่ดูยังไม่ได้ตกสู่ประชาชน จึงได้ส่งคอมเมนต์ความเห็นไปแล้วหลังจากนี้ต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนการเขียนกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทที่จะได้รับงานต้องมีทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการกีดกันบริษัทอื่นหรือไม่
3) วันที่ 29 มี.ค. 2567-นายเกียรติ สิทธีอมร อดีต สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง กาสิโน ไม่ใช่เรื่องใหม่..!!มีเนื้อหาดังนี้
ผมได้ติดตามญัตติของสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องการให้พิจารณาเปิดกาสิโนถูกกฎหมายได้ในประเทศไทยโดยอ้างถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจรายได้รัฐ สร้างงาน เอาสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน เป็นต้น แต่ก่อนจะไปไกลกว่านี้ ถามจริงๆ ว่าเคยไปศึกษาว่าประเทศที่ได้ให้เปิดกาสิโนแบบถูกกฎหมายแล้ว เกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง…???
สรุปให้ฟังแบบง่ายๆ จากผลการศึกษาในประเทศที่เปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย และอื่นๆ พบว่ามีผลกระทบหลายด้าน ดังนี้
1.ที่คิดว่าการพนันใต้ดินจะหมดไป พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ใต้ดินยังคงอยู่เหมือนเดิม
2.พบว่ากลุ่มที่ไปเล่นการพนันเมื่อบ่อนถูกกฎหมาย คือ กลุ่มที่ไม่เคยเล่นใต้ดิน เป็นกลุ่มใหม่
3.มีปัญหาอาชญากรรมสูงขึ้น ต้องเพิ่มตำรวจในการดูแลความปลอดภัยมากขึ้น
4.บางประเทศพบเด็กติดการพนันตั้งแต่อายุเพียง 15-17 ปี เพราะเข้าถึงง่าย
5.ภาษีที่รัฐเก็บได้เพิ่มขึ้น ไม่คุ้มกับงบประมาณที่ต้องเสียเพิ่มในการแก้ไขปัญหาสังคมและอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้น
6.ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่คิดว่าจะได้พบว่าส่วนใหญ่อยู่กับนายทุน
7.ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาไทยในอันดับต้นๆ ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการโดยเอกอัครราชทูตว่า ถ้าให้เปิดกาสิโนแบบถูกกฎหมายจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินมาประเทศไทย
ผมจึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันศึกษาให้ชัดเจนก่อนที่จะไปไกลกันกว่านี้ เพราะผลกระทบที่เกิดจากประสบการณ์จริงในประเทศต่างๆ ไม่เป็นอย่างที่คิด ทุกประเทศต่างต้องกลับไปทบทวนนโยบายนี้ว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศจริงหรือไม่...??? หากจะสร้าง Entertainment Complex ที่ไม่มีกาสิโนเพื่อดึงดูดนักลงทุน นักท่องเที่ยวนั้นก็สามารถทำได้ เพราะไม่สร้างผลกระทบทางสังคม
สำหรับคนที่คิดจะสนับสนุนให้ตั้งกาสิโนถูกกฎหมายต้องถามว่า พร้อมที่จะรับผิดชอบกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยหรือไม่..???
ผมไม่อยากเห็นเราสร้างมรดกบาปให้กับลูกหลานของเรานะครับ...!!!
4) ส่วนเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2568 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดีโพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “รัฐบาลขาดความชอบธรรม” ระบุว่ารัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ยังคงดื้อดึงกระต่ายขาเดียว ที่จะเดินหน้าทั้งกาสิโนและพนันออนไลน์ ท่ามกลางการคัดค้าน ด้วยเหตุผลต่างไปนานา แม้คุณจะมีเสียงมากในสภา แต่คุณขาดความชอบธรรม เพราะ
1.คุณยังไม่กล้าเอาเรื่องพนันออนไลน์และกาสิโนถูกกฎหมายเขียนลงในนโยบายเศรษฐกิจ และนโยบายท่องเที่ยวของพรรคเพื่อไทยเลย ขนาดเขียนยังไม่กล้าเขียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่อง การหาเสียงกับประชาชน ในเมื่อนโยบายพรรคไม่มี แล้วโผล่มาได้อย่างไร?? ใครสั่ง??
2.แม้คุณจะอ้างเรื่องแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เพราะพวกคุณต้องแถลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 คุณยังเขียนแบบกว้างๆ ไม่ชี้เฉพาะว่าจะทำพนันออนไลน์และกาสิโน ให้ถูกกฎหมายในร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาล เพราะพวกคุณไม่กล้าเขียนให้ชัด
3.มีความเสี่ยง ที่จะขัดแย้งกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง อาจส่งผลให้เกิด ปัญหาสังคม อาชญากรรม และหนี้สินครัวเรือน และยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก ที่ลูกหลานประชาชน จะติดพนันออนไลน์ จะยิ่งเป็นการทำลายมากกว่าการพัฒนา
จึงขอเตือนไปยังรัฐบาล คุณไม่มีความชอบธรรมที่จะทำสิ่งนี้ ถ้าคุณคิดว่าประชาชนเห็นด้วยกับสิ่งนี้ คุณต้องทำประชามติเท่านั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และมีผลกระทบกับประชาชนและลูกหลายโดยตรง
“ประเทศที่การศึกษาคุณภาพต่ำ คอร์รัปชั่นสูงกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ อย่าคิดมีกาสิโน และพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เพราะจะอยู่กับนรกทั้งเป็น”
สรุป : ค่อยๆ แกะดูความคิดของฝ่ายคัดค้าน ล้วนเป็นความเห็นที่แหลมคม และมุ่งหมายปกป้องสังคม มากกว่า “หาประโยชน์” จากเรื่องนี้
จึงต้องดูท่าทีของรัฐบาลกันต่อไป ว่าจะเดินหน้าอย่างไร เพราะใช้กี่ตามองมาที่เรื่องนี้ก็เห็นชัดเจนว่า เป็น “แหล่งหาผลประโยชน์”ที่โคตรมหาศาล โดยเฉพาะกับกลุ่มคนในรัฐบาลที่“ชั่วเกินพอ” !!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี