ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด (ครึ่งประเทศ) บอกอะไรได้บ้าง?
1.ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครในนามพรรคลงชิงเก้าอี้ มีบ้านใหญ่ผนึกกำลังพรรคการเมืองและนักการเมืองระดับประเทศแบบไม่เป็นทางการต่อสู้ชิงชัย การวิเคราะห์จึงไม่อาจมองแต่ระดับผิวนอก ว่าใครลงในนามพรรคไหนแล้วชนะเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น สถานีข่าว Top News สรุปข้อมูลผลการเลือก นายก อบจ. อย่างไม่เป็นทางการ ดังนี้
พรรคเพื่อไทย ชนะ 10 ที่ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร, จ.ลำปาง น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร, จ.แพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ, จ.น่าน นายนพรัตน์ ถาวงศ์, จ.นครราชสีมา นางยลดา หวังศุภกิจโกศล, จ.สกลนคร นางนฤมล สัพโส, จ.หนองคาย นายวุฒิไกร ช่างเหล็ก, จ.มหาสารคาม นายพลพัฒน์ จรัสเสถียร, จ.นครพนม นายอนุชิต หงษาดี, จ.ปราจีนบุรีนางณภาภัช อัญชสาณิชมน (ภายใต้การสนับสนุน ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า+นายชาดา ไทยเศรษฐ์)
พรรคภูมิใจไทย ชนะ 9 ที่ ได้แก่ จ.ศรีสะเกษ นายวิชิต ไตรสรณกุล, จ.บุรีรัมย์ นายภูษิต เล็กอุดากร, จ.บึงกาฬนางแว่นฟ้า ทองศรี, จ.อำนาจเจริญ นายพนัส พันธุ์วรรณ, จ.ลพบุรี นางอรพิน จิระพันธุ์วาณิช, จ.พิจิตร นายกฤษฏ์ เพ็ญสุภา, จ.เชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงค์, จ.กระบี่ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล, จ.สตูล นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์
พรรครวมไทยสร้างชาติ ชนะอย่างน้อย 3 ที่ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี นางโสภา กาญจนะ, จ.พัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร, จ.สมุทรสงคราม นายเจษฎา ญาณประภาศิริ (คุณรังสิมา รอดรัศมี รทสช.สนับสนุนช่วยเต็มกำลัง) นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับพรรคพันธมิตรหนุนช่วยกัน เช่น ภูเก็ต (กับพรรคประชาธิปัตย์), นราธิวาส (กับพรรคประชาชาติ)
พรรคชาติไทยพัฒนา ชนะ 2 ที่ ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี นายอุดม โปร่งฟ้า และจ.นครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์
พรรคประชาชาติ ชนะ 2 ที่ ได้แก่ จ.นราธิวาสนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน ร่วมมือพรรครวมไทยสร้างชาติ สนับสนุน และจ.ยะลา นายมุขตาร์ มะทา
พรรคกล้าธรรม ชนะ 1 ที่ ได้แก่ จ.หนองบัวลำภู คือ นางศรัณยา สุวรรณพรหม (กล้าธรรมยังร่วมสนับสนุน ที่ จ.สมุทรสงคราม และจ.ปราจีนบุรี
พรรคประชาชน ชนะ 1 ที่ ได้แก่ จ.ลำพูน คือนายวีระเดช ภู่พิสิฐ (บ้านใหญ่ภู่พิสิฐ ล้มบ้านใหญ่พรรคเพื่อไทย)
นอกจากนี้ “บ้านใหญ่” และผู้สมัครที่คว้าชัยอีก 19 ที่ได้แก่ จ.สมุทรปราการ นายสุนทร ปานแสงทอง (บ้านใหญ่ อัศวเหม), จ.ชลบุรี วิทยา คุณปลื้ม แชมป์เก่า, จ.ระยองนายปิยะ ปิตุเตชะ, จ.ฉะเชิงเทรา นายกุลยุทธ ฉายแสง, จ.จันทบุรีนายธนภณ กิจกาญจน์, จ.สมุทรสาคร นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์,จ.ภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ (รวมพลังกลุ่มพรรค รทสช. จับมือกับพรรคปชป. เขี่ยส้มตกทะเล), จ.ตราด นายวิเชียรทรัพย์เจริญ, จ.สิงห์บุรี นายศภวัฒน์ เทียนถาวร, จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ, จ.สระบุรี นายสัญญา บุญ-หลง, จ.นครนายก น.ส.นิดา ขนายงาม (ล้มแชมป์เก่าที่ลงในนามพรรคประชาชน), จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์, จ.สงขลา นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม (พลังเครือข่ายบ้านใหญ่ประชาธิปัตย์), จ.พังงา นายบำรุง ปิยนามวาณิช, จ.ปัตตานี นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี, จ.มุกดาหาร นายวีระพงษ์ ทองผา, จ.แม่ฮ่องสอน นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์, จ.ตรัง นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ
1. ทักษิณเสื่อมมนต์ขลัง เพื่อไทยต้องหาอาวุธใหม่เข้ามาเสริม
พรรคเพื่อไทยยังชนะมากที่สุด อันดับหนึ่ง แต่ปรากฏสัญญาญอันตราย
ครั้งนี้ เพื่อไทยต้องพึ่งพานายทักษิณ ชินวัตร ถ้าเพื่อไทยไม่ได้ทักษิณมาช่วย จะเละกว่านี้แน่นอน เพื่อไทยต้องขอบคุณทักษิณ
แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ทักษิณเสื่อมมนต์ขลังลงไปเยอะ
ในจังหวัดที่ทักษิณไปช่วยปราศรัย ลงเดินสาย กดปุ่มอ้อนขอคะแนน ทำทุกวิถีทาง ปรากฏว่า แพ้ 5 ชนะ 5
แพ้ที่ เชียงราย ลำพูน บึงกาฬ ศรีสะเกษ มุกดาหาร (ทักษิณมีกำหนดการไปแต่ถึงเวลาไปไม่ไป)
ชนะที่ เชียงใหม่ ลำปาง นครพนม หนองคาย มหาสารคาม
ที่เจ็บปวดมาก น่าจะเป็นที่เชียงราย และที่ศรีสะเกษ อุตส่าห์ชู “ไล่หนู ตีงูเห่า” แต่แพ้ขาดลอย
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ทักษิณและเพื่อไทยคิดถูก คือการไม่ลงแข่งในพื้นที่ภาคใต้ แต่ประสานสัมพันธ์กับพรรคที่มีฐานเสียงในภาคใต้แทน
2. สีน้ำเงินแข็งแกร่ง พรรคอันดับหนึ่งที่มีศักยภาพสู้กับพรรคเพื่อไทยและพรรคส้ม
6 จังหวัดที่สีน้ำเงิน ภูมิใจไทย สู้กับแดงทักษิณเพื่อไทย แบบดุเดือด ผลปรากฏว่า น้ำเงินชนะไป 4 : 2
ศรีสะเกษ : วิชิต ไตรสรณกุล แชมป์เก่า (บิดาของกวาง ไตรศุลี แห่งภูมิใจไทย) ถูกทักษิณไล่บดขยี้กะให้ตาย “ไล่หนู ตีงูเห่า” ผลปรากฏว่า ทักษิณตายเองขาดลอย
เชียงราย : อทิตาธร วันไชยธนวงค์ ได้รับการสนับสนุนจากค่ายสีน้ำเงิน ชนะเพื่อไทย
บึงกาฬ : แว่นฟ้า ทองศรี (ภรรยาของทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ภูมิใจไทย) ชนะ
อำนาจเจริญ : พนัส พันธุ์วรรณ (คนสนิทของ “เจ๊รวย” สส.อำนาจเจริญ ภท.) ชนะ
ส่วนที่เพื่อไทยชนะสีน้ำเงิน ได้แก่ นครพนม อนุชิต หงษาดี และมหาสารคาม พลพัฒน์ จรัสเสถียร
ตอกย้ำว่า ค่ายน้ำเงินแข็งแกร่ง และพรรคภูมิใจไทยภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ถือเป็นพรรคอันดับหนึ่งที่มีศักยภาพสู้กับพรรคเพื่อไทยและพรรคส้มได้
3. ส้มเน่าใน ไม่เหมือนราคาคุยโม้
พรรคประชาชน หรือพรรคส้ม ครั้งนี้ส่งผู้สมัครนายก อบจ. 17 จังหวัด (คัดแล้วว่าจะได้ลุ้น) ปรากฏว่า ชนะ 1 จังหวัด คือ จังหวัดลำพูน
นายวีระเดช ภู่พิสิฐ จากบ้านใหญ่เมืองลำพูน บุตรชายของ นายประเสริฐ ภู่พิสิฐ หรือ โกเก๊า อดีตนายก อบจ.ลำพูน และประธานหอการค้าลำพูน
จังหวัดที่เหลือ แพ้กราวรูด (ยังไม่นับที่ส่งแข่งก่อนหน้านั้น รวมทั้งที่แอบส่ง แอบหนุน)
ระยอง พื้นที่ความหวังเต็มสูบ เพราะได้ สส. ยกจังหวัด ครั้งนี้ไปปั่นกระแสเต็มที่ ทั้งย้ายจังหวัด ทั้งด้อยค่าคนเก่า ปรากฏว่า แพ้แชมป์เก่าหลุดลุ่ย
แม้แต่นครนายก พื้นที่หวังผลของพรรคส้ม นายกจิมแชมป์เก่า รอบนี้ลงในนามพรรคส้ม ก็แพ้ไปแบบพลิกความคาดหมาย
สมุทรปราการ อีกหนึ่งพื้นที่หวังผล เพราะพรรคส้มกวาดสส.ยกจังหวัด 8 ที่นั่ง ก็แพ้บ้านใหญ่ไปกว่า 2 หมื่นคะแนน
สมุทรสงคราม พรรคส้ม ส่งนางสาวนันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ทายาทอดีตนายก อบจ.สมุทรสงครามลงสมัคร แต่ก็แพ้
นนทบุรี พรรคส้มเคยได้สส.ยกจังหวัด ก็แพ้ไปหลายหมื่นคะแนน
สุราษฎร์ธานี พรรคส้มหวังไว้เยอะ เลือกตั้งใหญ่ได้คะแนนสส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 แต่ก็แพ้ป้าโส นางโสภา กาญจนะ (รทสช.หนุน)
จันทบุรี พื้นที่หวังผล เพราะมี สส.ยกจังหวัด แต่ก็แพ้ขาดลอย ฯลฯ
ตอกย้ำว่า พรรคส้มห่างไกลราคาคุย กระแสเน่าใน เพราะจังหวัดลำพูนที่ชนะ ก็ไม่ใช่เพราะกระแสพรรค หรือกระแสธนาธร พิธา แต่เพราะอาศัยฐานการเมืองเก่าของอดีตนายก อบจ. บ้านใหญ่อีกคนของลำพูน ที่เป็นพ่อของผู้สมัครพรรคส้มนั่นเอง
เท่ากับว่า ด้อยค่าบ้านใหญ่ คุยโม้ว่าจะแลนด์สไลด์ แต่จังหวัดเดียวที่ชนะก็เพราะอาศัยฐานการเมืองเก่าของบ้านใหญ่ช่วยไว้
สะท้อนว่า สูตรส้มด้อยค่าของเดิม ตีหน้าใส แอ๊บคนรุ่นใหม่ แต่ตัวเองไม่เคยบริหาร ไม่มีผลงาน ดีแต่โม้ราวกับเก่งเลิศกว่าใคร ใช้ไม่ได้ผลเสมอไปแล้ว
พรรคส้มคงต้องหาวิธีทำงานการเมืองแบบที่สร้างสรรค์จริงๆ ลงมือทำงานจริงๆ มีผลงานตัวอย่างจับต้องได้จริงๆ ไม่ใช่หวังปั่นกระแสโซเชียล ไม่ใช่ยังติดหล่มโจมตีบ่อนทำลายสถาบัน
4. รทสช. ยังมีพลัง
นอกจาก ล่าสุด รทสช.จะได้รับเงินอุดหนุนผ่านการบริจาคเงินภาษีมากที่สุดแล้ว
ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ สะท้อนว่า พรรค รทสช.ยังมีพลัง ไม่ใช่จะถูกแยกส่วนสลายไปง่ายๆ เหมือนความพยายามยุแหย่ของบางฝ่าย
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเปิดเผยว่า มีผู้สมัครนายกอบจ.ที่พรรคสนับสนุน เช่น สุราษฎร์ธานี, พัทลุง, สมุทรสงคราม และได้ร่วมมือกับพรรคพันธมิตรหนุนช่วยกัน เช่น ภูเก็ต (กับพรรคประชาธิปัตย์), นราธิวาส (กับพรรคประชาชาติ) ต่างประสบความสำเร็จครั้งนี้
ข้อมูลจากวอร์รูมพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า
สุราษฎร์ธานี – “ป้าโส” โสภา กาญจนะ ผู้ชนะ ได้แรงหนุนพิเศษจากเครือข่าย “เทือกสุบรรณ” ของลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ และค่ายสีน้ำเงินบางส่วนด้วย เนื่องจาก2 สีนี้ครองที่นั่ง สส.ในสุราษฎร์ธานี 7 เขต รวมไทยสร้างชาติ 6ภูมิใจไทย 1
พัทลุง – บ้านใหญ่ “ธรรมเพชร” วิสุทธิ์ ธรรมเพชร รักษาแชมป์ไว้ได้
ภูเก็ต – เรวัต อารีรอบ รักษาแชมป์ เครือข่ายรวมไทยสร้างชาติกับประชาธิปัตย์ ตกลงจะไม่ตัดคะแนนกันเอง
สมุทรสงคราม –เจษฎา ญาณประภาศิริ ชนะ โดยอดีต สส.รังสิมา รอดรัศมี สนับสนุนเต็มที่
นราธิวาส – รทสช.จับมือกับประชาชาติ หนุนนายกกูเซ็ง ยาวอหะซัน โดย รทสช.มี สส.นราธิวาส 1 คน คือ คุณวัชระ ยาวอหะซัน ลูกชายนายก กูเซ็ง เมื่อประสานมือกับประชาชาติ แชมป์ สส.ชายแดนใต้ จึงเอาชนะคู่แข่งที่มีพลังระดับรัฐมนตรีนอกพื้นที่ลงไปช่วยได้สำเร็จ
นับรวมก่อนหน้านี้ รทสช. ก็ชนะทั้ง ชุมพร เพชรบุรี ชัยนาท
5. ประการสำคัญ ในหลายจังหวัด เช่น สมุทรปราการ เชียงใหม่ ฯลฯ จะเห็นเสียงประชาชนที่ใช้สิทธิงดออกเสียงจำนวนมาก (บัตรเสียอีกจำนวนมากเช่นกัน)
สะท้อนว่า ประชาชนยังต้องการการเมืองที่มีคุณภาพมากกว่าที่มี-ที่เป็นอยู่
แต่ไม่มีทางเลือก ไม่มีตัวเลือกในการเลือกตั้งครั้งนี้
เป็นสัญญาณบอกให้นักการเมืองและพรรคการเมือง ควรแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการสร้างการเมืองคุณภาพ
ไม่ใช่เน้นวาทกรรม คำคุยโว สร้างภาพ สาดโคลนปั่นกระแส แต่ไร้ผลงานรูปธรรมจับต้องได้
คนไทยอยากเห็นพรรคการเมืองทำงานจริงจัง มีผลงานความสำเร็จ แบบตัวอย่างความสำเร็จ เช่น โมเดลการทำงานจริง ทดลองนโยบายจริง ได้ผลสำเร็จจริงในบางพื้นที่เหมือนแซนด์บ็อกซ์ แล้วนำมาบอกกล่าวเป็นทางเลือกเสนอต่อประชาชน ไม่ใช่เอาแต่โม้ โดยไม่เคยทำงานอะไรสำเร็จ หรือเป็นรัฐบาลแล้วไม่มีผลงานอะไรเป็นรูปธรรม
สรุปว่า ทักษิณเสื่อม ส้มเน่าใน สีน้ำเงินแข็ง รทสช.ยังมีหวัง ประชาชนโหยหาการเมืองคุณภาพ รอแค่ใครจะตอบสนองประเทศชาติและประชาชนได้อย่างแท้จริง
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี