ประเทศไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี“แพทองโพย”ร่างทรงของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานี้ ขนาดว่าไม่ได้อยู่ในภาวะที่มีศึกสงคราม เสนาบดีที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่งคงของประเทศ ก็ยังไว้วางใจไม่ได้
เพราะต่างฝ่ายต่างเอาตัวรอด แบบไม่อยากจะเสี่ยงว่า หากพลาดท่าพลาดทีขึ้นมา ตนเองอาจจะต้อง“ติดคุก”..คือ“กลัวตาย”มากกว่าเห็นประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนเป็นประการสำคัญ..ขณะที่ปากมักจะอ้างว่าอาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน
นึกภาพดูแล้วน่าหวาดเสียว ถ้าในยามศึกสงคราม หากชาติบ้านเมืองมีเสนาบดีที่เป็นแม่ทัพนายกองเช่นนี้ คงบ้านแตกสาแหรกขาดแน่..และก็คงไม่แคล้วเช่นกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ.2310 ดังที่“สุนทรภู่”บรมกวีของไทย ได้พรรณนาไว้ใน“นิราศพระบาท”ตอนหนึ่งว่า
กำแพงรอบขอบคูก็ดูลึก
ไม่น่าศึกอ้ายพม่าจะมาได้
ยังให้มันข้ามเข้าเอาเวียงชัย
โอ้อย่างไรเหมือนบุรีไม่มีชาย ฯ
ปัญหา“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่เกี่ยวกับเรื่องการ“ตัดไฟ”หรือ“ไม่ตัดไฟ” ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.ขายให้กับฝั่งเมียนมานั้น ก็ไม่ต่างจากกลอนที่“สุนทรภู่”พรรณนา..เพราะเปรียบเหมือนกับว่า ประเทศไทยเวลานี้ไม่มีเสนาบดีที่เป็น“ชายอกสามศอก”อีกแล้ว..ส่วนที่เห็นๆ กันอยู่ก็ประเภทซุกอยู่ใต้กระโปรง“คุณหนู”ลูกสาวนายใหญ่
เพราะกว่าจะตัดสินใจกันได้ว่า ต้อง“ตัดกระแสไฟฟ้า”ที่ กฟภ.ขายให้แก่ฝั่งเมียนมาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น เสียเวลากับการ“โยนกลอง”กันไปกันมาจนชาวบ้านเขารู้สึกรำคาญ ถ้าจะนับกันจริงๆ ก็ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมคมปีที่แล้ว ที่ กฟภ.ทำหนังสือขอความชัดเจนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งหมด 25 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก กฟภ.เป็นรัฐวิสาหกิจระดับปฏิบัติที่คอยสนองนโยบายของรัฐบาล
เพิ่งจะเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์วานนี้เอง ที่“มาดามแพทองโพย”บอกว่า “ได้ทันทีค่ะ” คือสามารถ“ตัดไฟได้ทันที” เป็นการแถลงและตอบคำถามผู้สื่อข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ทุกวันอังคาร
“มาดามแพทองโพย”แถลงถึงเรื่องนี้ด้วยอาการเลิ่กลั่กขาดความมั่นใจ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหน้าเดิมๆ ของพรรคเพื่อไทยยืนเป็นพระอันดับเสริมบารมี และเป็นการแถลงหลังจากที่ช่วงเช้าก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กำกับดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศ ให้สัมภาษณ์ด้วยเสียงเข้มอย่างมีอารมณ์ว่า
“วันนี้ผมจะสั่งการไปยัง สภาความมั่งคงแห่งชาติ ให้แจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค..เรื่องนี้รุนแรง จะต้องไปดำเนินการให้ตัดไฟทันที ไม่ใช่มารอโยกไปมาเหมือนที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นปัญหา..ผู้บังคับหน่วยส่วนไหนหรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ผมจะยืมตัวมาช่วยราชการ..ผมตัดเองได้ในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง”
เรื่องของเรื่องก็แค่นี้เอง คนที่สามารถตัดสินใจได้ ไม่ใช่ กฟภ. หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กฟภ. หรือหน่วยงานทั้งหลายของรัฐ แต่เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ“มาดามแพทองโพย”ในฐานะนายกรัฐมนตรี และรองลงไปก็คือนายภูมิธรรม เวชยชัย ก็แค่บุคคลสองคนนี้เท่านั้น ซึ่งทั้ง“มาดามแพทองโพย”และนายภูมิธรรม ก็ยังเป็นประธานและรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติโดยตำแหน่งอีกด้วย
หากว่า“มาดามแพทองโพย” กับนายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะ“พี่เลี้ยงฝึกงานนายกฯ” คุยกันสองคนให้สะเด็ดน้ำตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อคุยกันแล้ว ถ้าเห็นว่าการจ่ายไฟฟ้าขายให้กับฝั่งเมียนมา กระทบต่อความมั่นคงของชาติ..แล้วรีบดำเนินการอย่างทันทีทันควัน ปัญหาก็จบสิ้นไปตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอจนเมื่อเย็นวันที่ 4 กุมภาพันธ์วานนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติได้มีมติภายหลังการประชุมโดยนายภูมิธรรรม เวชยชัย เป็นประธาน ให้“ตัดไฟ-ตัดอินเตอร์เน็ต-ตัดน้ำมัน”ที่ส่งข้ามไปยังฝั่งเมียนมา ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์วันนี้เป็นต้นไป รวมทั้งหมด 5 จุด
นั่นก็คือ 1.จุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ, 2.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน, 3.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน, 4.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2-เมืองเมียวดี และ 5.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง-เมืองเมียวดี
อย่างไรก็ตาม ที่น่าอับอายขายขี้หน้า และน่าสมเพชเวทนาเสนาบดีของไทยสิ้นดี..ก็คือ เรื่องการ“ตัดไฟ-ตัดอินเตอร์เน็ต-ตัดน้ำมัน”ดังกล่าวนี้ ล้วนเป็นข้อเสนอล่าสุดของฝ่ายจีน ที่เสนอให้ทางการไทยดำเนินการ..อันเป็นผลต่อเนื่องมาจาก“นายหลิว จงอี” ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และทีมงานชุดใหญ่ ได้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อสัปดาห์ก่อน
ทั้งหลายทั้งปวงนั้น สรุปได้ดังคำกลอนของ“สุนทรภู่”มหากวีเอกแห่งกรุงรัตน์โกสินทร์ ที่ว่า..“โอ้อย่างไรเหมือนบุรีไม่มีชาย” คือมีแต่เสนาบดีเอาตัวรอดที่เป็น“เต่าหดหัว”อยู่ในกระดอง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี