ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ครั้งล่าสุดใน 47 จังหวัด ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ น่าจะทำให้ทักษิณ ชินวัตร
ได้สำนึกว่า ความนิยมที่ผู้คนจำนวนหนึ่งเคยมีให้กับตนเองเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมานั้น ได้เสื่อมสลาย และหมดสิ้นไปแล้ว
ความจริงที่ปรากฏคือคะแนนนิยมทางการเมืองในตัวทักษิณเมื่อครั้งยุค 2544 กับ ทักษิณในยุคนี้ต่างกันมากมาย จนชนิดที่ว่าไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป เพราะเมื่อผู้คนฉลาดจำนวนมากขึ้น แล้วยังได้ประจักษ์ความจริงที่รับรู้ได้ชัดเจนจากพฤติกรรมการเมืองของทักษิณ โดยเฉพาะประเด็นการแสวงหาอำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เมื่อเรื่องนี้ประจักษ์ชัด ก็ทำให้คนที่เคยงมงายกับทักษิณมาก่อนตาสว่างขึ้น แล้วเลิกสนับสนุนทักษิณต่อไป
ถามว่าทักษิณรู้ในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ ตอบว่ารู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ถึงกระนั้น ทักษิณก็ยังจำเป็นต้องหลอกตัวเองว่า ผู้คนยังคงนิยมชมชอบในตัวทักษิณ และยังหลงลมปากทักษิณที่ปั้นแต่งว่าจะทำให้ผู้คนมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น ร่ำรวยมากขึ้น หนี้สินจะหมดสิ้นไป
แต่คำพูดของทักษิณกับความจริงที่เกิดจากการกระทำของทักษิณเป็นคนละประเด็นกัน เมื่อผู้คนจำนวนมากจับได้ไล่ทันว่าสิ่งที่ทักษิณพูดกับความจริงที่ทักษิณทำเป็นคนละอย่าง ก็ทำให้ความเชื่อถือศรัทธาที่เคยมีให้ก็หดหายมลายไป ความรักที่เคยมีก็กลายเป็นความชัง ความเชื่อถือที่เคยมีก็กลายเป็นความไม่ไว้วางใจ
คนที่ติดตามพฤติกรรมการเมืองของทักษิณอย่างใกล้ชิดย่อมรู้ดีว่าทักษิณพูดอย่าง แต่ทำอีกอย่างมาโดยตลอด และที่คอการเมืองทุกคนรู้ดีเหมือนๆ กันก็คือ ทักษิณเป็นคนขี้คุยตัวฉกาจ ขณะเดียวกันคนจำนวนไม่น้อยต่างก็รู้แล้วว่า การที่ทักษิณใช้กลอุบายนำเงินหลวงไปแจกจ่ายให้ประชาชนเพื่อดึงคะแนนความนิยมทางการเมืองนั้น เป็นพฤติกรรมของนักการเมืองประเภทประชานิยม ที่มอบเมาประชาชนด้วยการแจกเงิน แต่ไม่เคยมุ่งเน้นให้ประชาชนยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเอง
คนที่เบาปัญญามักนึกว่าเงินที่ทักษิณหว่านแจกคือเงินที่ได้มาฟรีๆ แต่เมื่อคนฉลาดมากขึ้นก็รู้ว่าเงินที่ทักษิณแจกนั้นคือเงินหลวง เงินจากภาษีอากรของประชาชนทุกคน ไม่ใช่เงินที่หล่นลงมาจากก้อนเมฆ แต่ถึงแม้จะยังคงมีคนโง่หลงเชื่อว่าประเทศนี้มีเงินฟรีให้ประชาชนได้นำไปใช้สอย แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนทุกคนไม่ได้โง่เขลาเหมือนกันทั้งหมด ผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามกับการแจกเงินเพื่อซื้อคะแนนนิยมทางการเมือง แล้วเริ่มเป็นห่วงอนาคตของตนเอง และของลูกหลานมากขึ้น คนจำนวนไม่น้อยออกมาต่อต้านคัดค้านการแจกเงินหลวงเพื่อใช้ซื้อคะแนนนิยมทางการเมือง เพราะรู้ว่ามันคือการนำเงินหลวงไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้แสวงหาอำนาจรัฐ
แน่นอนว่าอำนาจการเมืองนั้นไม่ใช่ของจีรังยั่งยืน มาเกิดก็ต้องมีดับ ไม่มีใครสามารถยึดยื้ออำนาจรัฐไว้ในกำมือได้ตลอดไป แม้คนผู้นั้นจะบ้าบอกล้าเพ้อพล่ามว่าจะอยู่ในอำนาจการเมืองยาวนาน 20 ปี หรือจะขอต่ออายุการเมืองไปอีก 17-40 ปี ก็ตามแต่นั้นก็คือการเพ้อพล่ามที่มักจะออกมาจากปากของคนที่รู้ตัวดีว่ากำลังอยู่ในช่วงขาลงของชีวิต
คนที่รู้ตัวดีว่าใกล้จะตาย แล้วทำใจปรับตัวให้ยอมรับความจริง ไม่พยายามฝืนตัวเอง ไม่ทุรนทุรายจนเกินงาม เขาผู้นั้นจะเข้าสู่สภาวะแห่งความจริงอย่างสง่างาม แม้จะต้องตาย ก็ตายอย่างมีความสุข และตายอย่างสงบ แต่สำหรับคนที่กระเสือกกระสนทุรนทุรายมากเกินงาม พยายามยื้อยุดไขว่คว้าตะกายหาอำนาจเรื่อยไป ทั้งๆ ที่รู้ตัวดีว่ากำลังจะหมดอำนาจ
และไม่มีวันได้อำนาจกลับคืนมา คนพรรค์อย่างนี้จะต้องตกอยู่ในสภาพร้อนรน และทุรนทุรายตลอดเวลาไม่มีวันหาความสุขสงบได้แม้แต่วินาทีเดียว แล้วในที่สุดคนพรรค์อย่างนี้ก็จะต้องตายด้วยความทรมานอย่างที่สุด
สำหรับทักษิณเองนั้น เขาน่าจะไม่ใช่คนโง่เขลา แม้ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยวาง แต่เขาก็น่าจะรู้ตัวเองดีว่ากำลังอยู่ในสภาพคนหมดอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา ดังนั้น เขาจึงน่าจะเลือกการหมดอำนาจด้วยแนวทางที่ไม่ทำให้ตัวของเขาต้องทุรนทุรายมากเกินไป เพราะต่อให้ทุรนทุรายมากมายสักเท่าใด ก็ไม่มีวันกลับไปมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้เหมือนเดิม เพราะทักษิณไม่ใช่ผู้ชนะอีกต่อไปแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี