แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...

nn ในการประกอบการงานนั้น  ถ้าท่านจะถือว่าบัดนี้ท่านเป็นบัณฑิตมีปริญญาบัตรแล้ว ควรจะต้องได้รับความไว้วางใจ และเชื่อถือโดยทันที ดั่งนี้ก็เป็นความคิดที่ผิด ที่ถูกนั้น ท่านจะต้องลงมือทำงาน ใช้ความรู้ที่ได้มาให้เป็นประโยชน์แก่การงาน แสดงความสามารถเสียก่อน ในการนี้ท่านจงพิจารณาหยั่งถึงสิ่งที่ควรและไม่ควร และมีใจหนักแน่นสุจริตอดทน มีความอุตสาหะหมั่นเพียรในการงาน และรักษาระเบียบวินัยเป็นบรรทัดฐาน เพื่อได้มาซึ่งความเชื่อถือและไว้วางใจ และเมื่อนั้นแหละ ค่าของปริญญาบัตรจึงจะบังเกิดขึ้น...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 25 มิถุนายน 2496)...

nn ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ในปี 2568 ของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน ทำให้ต้องย้อนหลังไปดูประวัติศาสตร์การเปิดความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศในยุคหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งในครั้งนั้นรัฐบาลที่นำโดยคุณชายคึกฤทธิ์ แต่ทว่ามีความโดดเด่นในด้านการทูตอย่างฉกาจฉกรรจ์ล้ำหน้าจนทั่วโลกให้การยอมรับ ซึ่งต่างจากการทูตในยุครัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร อย่างไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้แม้แต่น้อย...

nn ภาพประวัติศาสตร์ทางการทูตของไทยลอยเด่นขึ้นมาทันที และทำให้เห็นภาพคุณชายคึกฤทธิ์เข้าพบปะกับเหมา เจ๋อตุง ผู้นำสูงสุดของจีน แล้วรายล้อมไปด้วยนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล และเติ้ง เสี่ยวผิง เมื่อครั้งยังเป็นผู้นำระดับรองๆ ของจีนในวันวาน ขอย้ำว่าภาพประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงนั้น คือเกียรติประวัติทางการทูตของไทยที่ไม่มีรัฐบาลไทยชุดไหนๆ จะทำให้ทัดเทียมได้...

nn มาบัดนี้ รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี (หุ่นกระบอก) แพทองธาร ชินวัตร จะไปเยือนจีน ระหว่าง 5-8 กุมภาพันธ์ จะได้เข้าพบปะกับสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ขอบอกตรงๆ ว่านึกภาพไม่ออกเลยว่าหุ่นกระบอกที่ชื่อแพทองธารจะไปคุยอะไรกับพญามังกรสี แต่ก็พอจะนึกภาพออกคร่าวๆ ว่าก็คงไม่ต่างจากทารกน้อยคลานต้วมเตี้ยมเข้าไปหาอากงผู้ใจดี แล้วก็เชื่อว่าอากงคงให้ความเอ็นดูทารกน้อยมากกว่าให้ความสำคัญ เพราะทารกน้อยรายนี้ไม่เคยทำให้ใครเห็นถึงความสามารถ และความมีสติปัญญาใดๆ แม้แต่น้อย...

nn ต้องยอมรับว่าคนไทยส่วนใหญ่พยายามให้กำลังใจกับแพทองธารในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ทว่าในที่สุดแล้วก็ไม่สามารถฝืนให้กำลังใจต่อไปได้ เพราะว่าไม่เคยเห็นแพทองธารแสดงความรู้ ความสามารถ และศักยภาพใดๆ ให้เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแม้แต่น้อย นับว่าแพทองธารคือผู้ทำลายโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตของตนเองให้แหลกเหลวด้วยน้ำมือของตนเอง ช่างน่าสมเพชเสียเหลือเกิน...

nn ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิก อบจ. ครั้งล่าสุดผ่านพ้นไปแล้ว คนที่ติดตามข่าวนี้คงได้ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการไปแล้ว ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร
ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย รวมถึงแพทองธาร นายกรัฐมนตรี (หุ่นกระบอก) ก็ต้องทราบผลเลือกตั้งแล้ว แน่นอนว่าทักษิณไม่มีทางพอใจผลลัพธ์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในจังหวัดที่ทักษิณอุตส่าห์ตะกายไปช่วยหาเสียงให้ตั้งสองครั้งสองคราแต่กลับพ่ายแพ้ปราชัย...

nn เกมการเมืองฉากต่อจากนี้คือ ต้องดูว่าทักษิณจะออกงิ้วอย่างไรเพื่อล้างอาย ล้างแค้น แต่ไม่ต้องหวังว่าทักษิณจะกล้าขับภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะหากไม่มีเสียงจากภูมิใจไทยหนุนในสภา คะแนนของพรรคร่วมรัฐบาลก็จะบางลงทันที แต่ก็มีเสียงท้วงติงว่าการมีเสียงในสภาน้อยลง แต่ไม่ต้องเสียประสาทกับการเขย่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีโดยพรรคภูมิใจไทย น่าจะเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยมากกว่า ขอย้ำว่าไม่มีวันที่ทักษิณจะกล้าสั่งให้แพทองธาร แสดงบทโหดด้วยการขับภูมิใจไทยออกจากการร่วมรัฐบาล เพราะสถานการณ์มันบังคับให้เพื่อไทยกับภูมิใจไทยจำต้องยอมร่วมรัฐบาลกันต่อไป จนกว่าจะถึงวันที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพร้อมรับการเลือกตั้ง สส. ครั้งใหม่...

nn อย่าลืมว่าการเป็นรัฐบาลดีกว่าเป็นฝ่ายค้านหลายร้อยหลายพันเท่า เพราะอย่างน้อยๆก็มีอำนาจรัฐในกำมือ แล้วที่สำคัญคือมีสิทธิ์ใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ ตอนนี้งบปี 2568 ผ่านไปแล้ว ก็เหลืองบประมาณปี 2569 อีกปี อย่าลืมว่างบประมาณปีหนึ่งๆ ก็ตกประมาณกว่า 3 ล้านล้านบาท เมื่องบฯ มากมายมหาศาลแบบนี้แล้ว ใครจะโง่ไม่ยอมเป็นรัฐบาลต่อไป เพราะต้องไม่ลืมว่าเป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง เป็นรัฐบาลมันอิ่มหมีพีมันอ้วนท้วนสมบูรณ์ แม้ประเทศชาติจะตกนรกหมกไหม้ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่นักการเมืองจอมฉ้อฉลจะใส่ใจ...

nn คนที่ติดตามข่าวแหล่งทำมาหากินของแก๊งมิจฉาชีพ call center บ่อนแหล่งค้ามนุษย์ในดินแดนเมียนมา ย่านชเวก๊กโก ต่างรู้กันดีว่าทั้งไฟฟ้า ประปา และอินเตอร์เนต รวมถึงเครื่อง ATM ของธนาคารไทยสารพัดยี่ห้อ ที่ใช้กันในเมืองชเวก๊กโก มาจากประเทศไทย...

nn คนที่รู้จักชเวก๊กโกดีรู้ด้วยว่าเมืองนี้อยู่ห่างจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตากไปไม่ไกลเลย มีแม่น้ำเมยกันขวางกั้นเท่านั้น และหลายคนที่ติดตามเรื่องแก๊งมิจฉาชีพในเมืองนี้ต่างก็รู้จักชื่อ เฉอ เจ๋อเจียง ผู้ต้องหาคดีทุจริตเป็นเงินมากกว่า 5 พันล้านบาท และถูกออกหมายจับโดยตำรวจนานาชาติ...

nn ถามว่าแล้วที่ผ่านมานั้น เฉอ เจ๋อเจียง เคยเข้าๆ ออกๆ ไทย ใช่หรือไม่ ตอบว่าใช่ ถามว่าแล้วทำไมเขาผู้นี้จึงเข้า-ออกไทยได้สะดวกดาย ตอบว่าเพราะมีนักการเมืองบางคน ตำรวจบางราย และทหารบางนายให้การดูแล ...

nn ถามต่อไปว่า ทำไมการทำธุรกิจผิดกฎหมายในชเวก๊กโกจึงยังดำเนินอยู่ได้จนถึงบัดนี้ ตอบว่าเพราะมีทุนสีเทาสีดำจากจีนเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง แล้วก็มีนายตำรวจไทยบางรายเข้าไปร่วมลงทุนด้วย ส่วนมีนักลงทุนจากไทยเข้าไปร่วมลงทุนด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบชัดๆ แต่ทว่าเรื่องเน่าๆ แบบนี้ นักการเมืองไทยรู้ดี และทางการจีนก็รู้ดี แต่ทำไมปราบไม่ได้ ตอบว่าเพราะไม่มีใครตั้งใจปราบ...

nn ถามว่าไทยมีปัญญาปราบไหม ตอบว่ามี แต่ไม่ปราบ เพราะมีผลประโยชน์มากมายจนเกินกว่าจะปราบได้ ถามว่าจีนปราบได้ไหม ตอบว่าไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หากจะบอกตรงๆ คือจีนมีความสามารถปราบได้ แต่จีนก็ไม่เอาจริง...

nn การที่ล่าสุดทางการจีนเล่นละครข้ามประเทศโดยส่งมือปราบอาชญากรข้ามประเทศมาเล่นงิ้วในไทย ทำเป็นโวยวายบอกว่าแก๊งอาชญากรในชเวก๊กโกใช้ไฟฟ้า น้ำประปา อินเตอร์เนต และ ATM ของไทย ก็เป็นเพียงการเล่นปาหี่เท่านั้น เพราะไทยก็ไม่ปราบจริงจัง จีนก็ไม่ปราบจริงๆ...

nn ถามว่าทำไมวันนี้ จีนจึงเลือกเล่นบทเอาจริง แล้วส่ง หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ จากปักกิ่งมาแสดงอิทธิฤทธิ์ที่ชายแดนไทย และทำท่าราวกับว่าจะเข้ามาปราบปรามแก๊งอาชญากรข้ามประเทศ ขอบอกตรงๆ ว่าต่างฝ่ายต่างเล่นงิ้วไปวันๆ เท่านั้น หากจะปราบกันจริงๆ ก็ปราบกันไปนานแล้ว แต่ไม่อยากปราบ เพราะยังมีผลประโยชน์อีกมากมาย แต่ผลประโยชน์จะไหลไปที่ใครบ้าง เรื่องนี้ฝ่ายนักการเมืองและฝ่ายความมั่นคงไทยรู้อยู่เต็มอก ส่วนผลประโยชน์ไหลไปฝั่งจีนหรือไม่ เรื่องนี้จีนไม่น่าจะปฏิเสธได้ เพราะแกนนำแก๊งอาชญากรคือคนจีนร้อยเปอร์เซ็นต์...

nn การเล่นเกมตัดน้ำตัดไฟ ตัดอินเตอร์เนตจากฝั่งไทย เพื่อไม่ให้แก๊งอาชญากรข้ามชาติในชเวก๊กโกได้ใช้ต่อไป ได้ถูกโยนกันไปโยนกันมาระหว่างบิ๊กอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย จากพรรคเพื่อไทย และบิ๊กหนู อนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวันอังคาร เสี่ยอ้วนก็ทำเป็นสวมบทขึงขังเอาจริงกับการตัดน้ำตัดไฟจากฝั่งไทย โดยอ้างว่าเรื่องนี้ไม่ต้องให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสั่งการ ตนเองสามารถจัดการได้ว่าแล้วเสี่ยอ้วนก็เล่นบทเอาจริง ด้วยการสั่งตัดน้ำตัดไฟ ถามว่าแล้วทำไมที่ผ่านมาเสี่ยอ้วนจึงไม่กล้าสั่งตัดน้ำตัดไฟ ทำไมต้องโยนกลองกันไปกันมาระหว่างอ้วนกับหนู หนูกับอ้วน แล้วทำไมจู่ๆ เสี่ยอ้วนจึงกล้าสั่งตัดน้ำตัดไฟโดยฉับพลัน เรื่องนี้ดูแล้วอดหัวเราะไม่ได้ เพราะมันคือเกมแห่งสารพัดผลประโยชน์โดยแท้...nn   
 

ธรรมกร