การเคลื่อนไหวของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Army) หรือ “DKBA”เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์วานนี้ โดยออกแถลงการณ์ประกาศไล่“จีนเทา”ออกจากพื้นที่อำเภอพญาตองซู ฝั่งตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตายิ่ง
เพราะเท่ากับแสดงให้เห็นว่า การดำเนินการของรัฐบาลไทยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นผล และมาถูกทาง จากมาตรการขั้นเด็ดขาด“ตัดไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ต-ตัดน้ำมัน”ทางฝั่งพม่า 5 จุด ที่มีอำเภอพญาตองซูรวมอยู่ด้วย
“DKBA” นั้นคนในพื้นที่รู้ว่า เป็น“กะเหรี่ยงเทา”ที่หากินกับ“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” และ“ขบวนการจีนเทา”ที่ประกอบธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร ทั้ง“การพนัน-บ่อน-ซ่อง” ทางฝั่งเมียนมา โดยเฉพาะที่อำเภอพญาตองซู
การออกประกาศของ“DKBA” โดยขีดเส้นตายให้“ขบวนการจีนเทา”ต้องออกจากพื้นที่อำเภอพญาตองซู ไปให้หมดก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์เดือนนี้นั้น ก็เป็นผลมาจากเงื่อนไข 2 ประการ นั่นก็คือ ประชาชนชาวเมียนมาทั้งพ่อค้าแม่ขาย และชาวบ้านที่หากินอย่างสุจริตต่างเดือดร้อนจาก“มาตรการเข้ม”ของรัฐบาลไทย อีกประการหนึ่ง“DKBA”ก็ยังถูกฝ่ายความมั่นคงของไทย และกองทัพเมียนมาบีบด้วยอีกทางหนึ่ง
หาก “DKBA”ไม่ประกาศไล่“ขบวนการจีนเทา”ออกจากพื้นที่อำเภอพญาตองซู ก็จะทำให้กองกำลังของตนเดือดร้อนไปด้วย เพราะจะต้องต่อกรกับทั้งกองทัพเมียนมาที่มีจีนยืนกำกับอยู่ข้างหลัง และฝ่ายความมั่นคงของไทย
นี้จึงเป็นที่มาของคำสั่งที่ออกประกาศโดย“DKBA”เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 2 ฉบับ แจ้งให้ประชาชนในเมืองพญาตองซู ฝั่งพม่าปฏิบัติตาม ลงนามโดย พ.อ.ซอเอวัน ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA)
โดยประกาศดังกล่าวของ“DKBA”อ้างว่า จากมาตรการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวธุรกิจการพนันออนไลน์ และการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า และห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังฝั่งเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น เป็นเหตุให้ประชาชนในอำเภอพญาตองซู ต้องประสบกับปัญหาไฟฟ้าดับ และได้รับผลกระทบทางด้านสังคมและเศรษฐกิจในพื้นที่
ประกาศของ“DKBA”ระบุว่า เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาดำเนินการส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับอำเภอพญาตองซูได้อีกครั้ง อันจะเป็นการบรรเทาผลกระทบทางด้านสังคม และเศรษฐกิจต่อประชาชนในอำเภอพญาตองซูนั้น จะต้องได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลไทยว่า ในพื้นที่จะต้องไม่มีการดำเนินธุรกิจการพนันออนไลน์ และการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์ที่ผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอพญาตองซู
ด้วยเหตุดังนั้น ทาง“DKBA” จึงประกาศให้“ขบวนการจีนเทา”ทุกคนที่เข้าไปทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร, ค้าขาย, เปิดบ่อนกาสิโน และเกมออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย ออกจากอำเภอพญาตองซูให้หมดก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมคาดโทษว่า หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ไม่เพียงแต่เท่านั้น พ.อ.ซอเอวัน ยังระบุไว้ในประกาศคำสั่งว่า จะมีการเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบ และเพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้“ขบวนการจีนเทา”ลักลอบเข้าไปอยู่ในพญาตองซูอีกต่อไป
สำหรับ“DKBA”นั้น เป็นกลุ่มที่แยกตัวออกมาจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (The Karen National Union) หรือ“กะเหรี่ยงเคเอ็นยู” (KNU) ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ และเป็นกลุ่มที่กองทัพเมียนมาให้การสนับสนุน อีกทั้งในทุกวันนี้ก็ยังช่วยกองทัพเมียนมารบกับกะเหรี่ยง KNU
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ฟังข่าวมาจากเพื่อนฝูงซึ่งทำมาค้าขายทางด้านด่านพระเจดีย์สามองค์ พอได้ความมาว่า ที่อำเภอำพญาตองซูในฝั่งพม่านั้น มี“ขบวนการจีนเทา”เป็นเจ้าของบ่อนการพนันใหญ่ รวมทั้งหมด 5 แห่ง โดยซื้อต่อจากคนไทยที่ย้ายบ่อนมาจากลาวและกัมพูชาอีกทอดหนึ่ง
ในบ่อนเหล่านี้ ซึ่ง“ขบวนการจีนเทา”ให้คนไทยออกหน้า จะมีธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร เช่นว่า มีผู้หญิงชาวพม่าค้าประเวณีอยู่ในบ่อน คิดค่าตัวเป็นรายชั่วโมง มีทั้งราคาชั่วโมงละ 500 บาท, 1 พันบาท และ 2 พันบาท โดยมีห้องบริการบนอาคารที่เป็นตึกสองชั้น เหมือน“อาบ อบ นวด”ในบ้านเรา และในที่“อโคจร”ดังว่านี้ ยังเป็นที่ซ่องสุมของอาชญากรข้ามชาติ และ“แก๊งคอลเซ็นเตอร์”
ผลประโยชน์ที่ได้จากการเก็บส่วย“ธุรกิจสีเทา”นั้น กะเหรี่ยง DKBA จะแบ่งปันให้ทหารเมียนมา ที่มีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกำลังมาอยู่ในพื้นที่อำเภอพญาตองซูทุก 3 เดือน ซึ่งทหารเมียนมาเหล่านี้ก็คล้ายกับว่า พักจากการรบเพื่อมารับบำเหน็จจาก“ธุรกิจสีเทา”
สรุปเป็นว่า รัฐบาลไทยมาถูกทางแล้ว และเวลานี้พลัง 3 ประสาน“ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง”ในพื้นที่ทางด้านจังหวัดกาญจนบุรีก็ได้ผนึกกำลังกันอย่างเต็มที่และมีเอกภาพ
หากสามารถถอนรากถอนโคน“ขบวนการจีนเทา”ในอำเภอพญาตองซูได้สำเร็จ ก็น่าจะยกเป็น“พระเจดีย์สามองค์โมเดล” เพื่อเชิดชูให้“ไทยเทา”ได้เห็นเป็นเยี่ยงอย่าง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี