เรื่องปัญหาชายแดนไทย-เมียนมา (พม่า) กลายเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมด้วยการที่รัฐมนตรีช่วยว่าการด้านความมั่นคงของจีนมาเยือนประเทศไทยเพื่อศึกษาเหตุการณ์ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ควบคู่กับประเด็นปัญหาของการขายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคข้ามเขตแดนไปยังฝั่งเมียนมา ที่เอื้อการใช้งานไปยังศูนย์ call center - scammer และบ่อนการพนัน (กาสิโน) เถื่อนต่างๆ ซึ่งได้ก่อให้เกิดความคึกคักในส่วนกลางฝ่ายไทย ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำด้านความมั่นคง ถึงขั้นที่ในการเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ช่วงเวลา 5-7 กุมภาพันธ์ ต้องไปรายงานและชี้แจงต่อบรรดาผู้นำจีนในเรื่องดังกล่าวนี้ เสมือนกับการที่เด็กนักเรียนต้องจัดส่งการบ้านให้กับครูใหญ่จีน
ประเด็นปัญหาชายแดนไทย-เมียนมายังมีมากมาย มิใช่เพียงแค่เรื่องการจ่ายไฟฟ้า และปัญหาศูนย์ call center และบ่อนการพนันเท่านั้น แต่มีอาทิ
- ปัญหาผู้อพยพเมียนมาใน 9 ค่ายผู้อพยพ จำนวนประมาณ 90,000 คน ที่พำนักอยู่มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วโดยส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นประเทศของตนเอง เนื่องจากเกิดที่ประเทศไทย จะกลับไปก็กลับไม่ได้เพราะไม่มีเอกสาร จะประกอบอาชีพทำมาหากินในไทยก็ไม่ได้เพราะติดปัญหาข้อกฎหมาย
- ปัญหาผู้อพยพรุ่นใหม่ๆ ที่เข้า-ออก กลับไปกลับมา ตามเขตแดนไทย-เมียนมา ขึ้นอยู่กับสถานการณ์สู้รบแบบสงครามกลางเมืองภายในประเทศเมียนมา ที่ฝ่ายไทยโดยกองทัพภาคที่ 3 อนุญาตให้เข้ามาพักพิงชั่วคราวแล้วผลักดันกลับไปเมียนมา เมื่อการสู้รบบรรเทาลง
- ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ เช่น การค้ามนุษย์การลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด การค้าอาวุธสงคราม การค้าเชื้อเพลิงเครื่องบิน การลักลอบนำเข้าสินค้าต้องห้าม หรือ การลักลอบนำเข้าเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร เช่น อัญมณีต่างๆ พืชและสัตว์หวงห้ามไม้เนื้อแข็ง และวัตถุโบราณ
- การลักลอบขนถ่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค ผ่านเมียนมาไปยังประเทศจีนตอนใต้
- การออกบัตรคุ้มครองโดยเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของฝ่ายไทยให้กับผู้อพยพชาวเมียนมาตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในสนนราคาบัตรละประมาณ 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- การจับกุม คุมขัง ผู้ลี้ภัยทางการเมืองเมียนมา (Political Asylum Seeker) ไปจนถึงการนำตัวขึ้นศาลยุติธรรมในข้อหาการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงที่ไปที่มาของเรื่องและหลักปฏิบัติตามกฎเกณฑ์สากล การส่งตัวกลับสู่ประเทศเมียนมาตามคำขอของฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา ในข้อหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งหาเป็นความจริงไม่ และเมื่อถูกส่งกลับไป ก็เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่า จะไม่ได้รับความยุติธรรมแต่อย่างใด
- การปล่อยปละละเลยให้ฝ่ายทหารเมียนมาและเครื่องบินรบเมียนมาละเมิดอธิปไตยของไทย เพื่อการปราบปรามฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา
- การปล่อยปละละเลยทำนองเกรงใจหรือเกรงขามกองกำลังของชนกลุ่มน้อยว้าแดง ให้เข้ามาประชิดชายแดนไทย และการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของไทย โดยมิได้มีการบริหารจัดการให้ถูกต้องแต่อย่างใด
ในสภาพการณ์นี้หน่วยงานหลักของไทยก็คือ สำนักเลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ ที่รับผิดชอบเป็นศูนย์กลางประสานงานระหว่างหน่วยงานของไทยทั้งหมด ในเรื่องนโยบายและมาตรการการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของเขตแดนไทย นอกจากนั้นก็มีกองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยฝ่ายตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายตำรวจภูธร และฝ่ายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงมหาดไทย โดยบรรดาผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยนายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศก็มีภาระหน้าที่ดูแลภาพรวมของความสำคัญระหว่างไทยกับเมียนมา เป็นต้น
ส่วนเรื่องการค้าขายข้ามแดน ก็มีกระทรวงการคลังโดยกรมศุลกากร กระทรวงมหาดไทย ที่เป็นเจ้าสังกัดของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศและกรมการค้าภายใน ที่ร่วมรับผิดชอบการค้าขายระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะในกรอบของข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน เป็นต้น
โดยเฉพาะในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ประเด็นปัญหาของการบริหารจัดการความเป็นไปตลอดแนวชายแดนมีความหละหลวมต่างๆ นานา เพราะความหย่อนยานในประสิทธิภาพของ สมช. กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เป็นสำคัญ อีกทั้งการประสานงานรับรู้และสั่งการโดยฝ่ายการเมือง ก็มีความบกพร่องหย่อนยานเช่นกัน คือดูเสมือนว่าไม่เห็นภาพรวมและไม่มีความเข้าอกเข้าใจในประเด็นปัญหา และการสื่อสารกับฝ่ายข้าราชการประจำก็ดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ถึงขั้นที่ฝ่ายรัฐบาลจีนต้องจัดส่งรัฐมนตรีช่วยด้านความมั่นคงมาสังเกตการณ์และประสานงานกับฝ่ายไทย เพราะพลเมืองของเขาได้รับเคราะห์กรรมอีกทั้งพลเมืองของเขาจำนวนหนึ่ง “บรรดาโจรจีนสีเทา” ได้สร้างความเสียหายให้กับเกียรติภูมิของประเทศเขา และบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างไทยกับจีนด้วย
อันที่จริงแล้วฝ่ายจีนก็คงไม่ต้องถึงขั้นที่จะต้องจัดส่งรัฐมนตรีช่วยฯ มาเยือนไทยดังกล่าว ถ้าฝ่ายไทยมีการบริหารจัดการที่ดีและประสานกับจีนและมิตรประเทศต่างๆ ที่ผู้คนของเขาตกไปอยู่ในเงื้อมมือของอาชญากรข้ามชาติต่างๆ ได้ ฉะนั้นก็ถึงเวลาแล้วที่ฝ่ายไทยทั้งหมดจะต้องเอาจริงเอาจังกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ดังกล่าว
วิธีการบริหารจัดการที่สามารถจะกระชับและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพได้ ก็คงต้องเริ่มต้นที่สำนักเลขาธิการสภาความมั่นคง ที่จะต้องรวบรวมหน่วยงาน ข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาปรึกษาหารือกัน และมีข้อเสนอต่างๆ ต่อสภาความมั่นคงที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และประกอบด้วยรัฐมนตรีต่างๆ เช่น รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรีมหาดไทย รัฐมนตรีคลัง และแม่ทัพทั้ง 3 เหล่า และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อพิจารณาลงมติและนำผลดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการ รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะที่ผู้คนของเขาได้รับเคราะห์กรรม ไปจนถึงองค์การสหประชาชาติด้วย
ทั้งนี้คู่ขนานกันไปนั้น ฝ่ายรัฐบาลจะต้องเอาจริงเอาจังกับบรรดาข้าราชการต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมายให้ได้เห็นผลเป็นที่ประจักษ์
นอกจากนี้ฝ่ายไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องเจรจาหารือกับฝ่ายเมียนมาอย่างน้อยใน2 ระดับ คือ ฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา และฝ่ายรัฐบาลชนกลุ่มน้อยที่มีอาณาเขตติดกับชายแดนไทย เช่น พวกมอญ กะเหรี่ยง กะเหรี่ยงแดงและพวกฉาน เป็นต้น เพราะฝ่ายชนกลุ่มน้อยต่างๆ ดังกล่าวอยู่ระหว่างฝ่ายรัฐบาลไทย กับฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา
ในการนี้ฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องตระหนักว่าเกียรติภูมิของประเทศและความนับหน้าถือตาจากประชาคมโลก ขึ้นอยู่กับความนึกคิดและปฏิบัติที่มีความเป็นสากล พันธกรณีที่ฝ่ายไทยมีกับข้อตกลงต่างๆ ระหว่างประเทศ และหลักมนุษยธรรมต่างๆ อีกทั้งความดีงามของสังคมไทยมาทุกยุคทุกสมัยเป็นเวลาหลายร้อยปี ที่ได้ทำตนเป็นแหล่งพักพิงให้กับผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากจากต่างแดนมาโดยตลอด
นอกจากนั้นอัตราการเติบโตของพลเมืองไทยต่ำลงอย่างมาก ไทยเราขาดแรงงานและผู้ร่วมเสียภาษี ฉะนั้นการพิจารณาที่จะให้ชาวเมียนมาที่ได้อยู่ในค่ายผู้อพยพดังกล่าว ได้กลับกลายเป็นแรงงานต่างด้าว ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดกำลังคนไปได้ในระดับหนึ่ง และคู่ขนานกันก็ต้องมีการทบทวนการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้มีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาลยิ่งๆ ขึ้น มิให้เป็นหนทางของการทุจริตคอร์รัปชั่นต่างๆ และสามารถชี้แจงตอบข้อสงสัยของปวงชนชาวไทยว่า มิใช่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับคนต่างด้าว เพื่อให้มาแย่งงานคนไทย แต่เป็นการเข้าเสริมสิ่งที่ไทยขาดและทำประโยชน์ให้กับการพัฒนาประเทศ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี