แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...
■■ วันมาฆบูชา เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 มีเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 1,250 รูป มาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธโดยมิได้นัดหมายกัน และพระสงฆ์ ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์...
■■ เหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันนี้ คือ 1.เป็นวันที่ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันที่เวฬุวันวิหารในกรุงราชคฤห์ โดยมิได้นัดหมาย 2.พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็น “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” คือเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น 3.พระภิกษุสงฆ์ทุกองค์ที่ได้มาประชุมในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ได้บรรลุพระอรหันต์แล้วทุกๆ องค์ และ 4.เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงกำลังเสวยมาฆฤกษ์ โดยปีนี้ วันมาฆบูชา ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568...
■■ สอดรับกับวันมาฆบูชา ซึ่งจะถือเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายก็มิอาจทราบได้ หลัง “แพทองธาร” สั่งทบทวนช่วงเวลาขาย “เหล้า-เบียร์” ซึ่งปัจจุบันห้ามขายระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. ...
■■ “แพทองธาร” ให้เหตุผลว่า ได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจเรื่องข้อจำกัดทางกฎหมาย ในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและไม่สอดคล้องกับนโยบาย ที่ปีนี้รัฐบาลได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติม...
■■ “ไม่ว่าจะเป็นกฎเรื่องการห้ามขายช่วงเวลา 14.00-17.00 น.หรือในช่วงของวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ว่า เรื่องนี้มีการกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง การห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือกรณีที่อาจจะติดขัดในเรื่องข้อจำกัดด้านการควบคุมพื้นที่ที่เป็นโซนนิ่ง และกฎบางกฎออกมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 หรือตั้งแต่ช่วงปี 2515 ก็มี จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวน เรื่องนี้อีกรอบ...
■■ เพราะอย่างวันพระใหญ่ หรือวันอะไรที่เราเป็นข้อห้ามอยู่ ชาวต่างชาติที่มาเขาไม่ได้ทราบวันเหล่านี้ และจะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว”....
■■ เงื่อนปมเรื่องสั่งทบทวนช่วงเวลาขายเหล้า-เบียร์นี้ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อาจจะเข้าข่าย การทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เป็นเรื่อง ทำนองว่า รัฐบาลอยู่ดีๆ ก็หาเหาใส่หัว เรียกแขกให้ตัวเอง เพราะต้องมีกระแสคัดค้านไม่เห็นด้วยแน่นอน !!...
■■ เช่นเดียวกับการเร่งรัดจะเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งหัวใจหลักมี “บ่อนกาสิโน” สอดไส้อยู่ ถึงแม้จะอ้างว่า “กาสิโน” มีสัดส่วนอยู่ในคอมเพล็กซ์เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ก็ตามที...
■■ ความเคลื่อนไหวของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเวลานี้อยู่ในมือของกฤษฎีกา จะต้องพิจารณาให้เสร็จสิ้นตามกรอบเวลา50 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 6 มีนาคมนี้ จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี...
■■ “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา แจงว่า ขั้นตอนการปรับร่างได้มีการผ่านการพิจารณารอบแรกในชั้นหลักการไปแล้ว โดยขณะนี้อยู่ในวาระที่ 2ซึ่งมีการปรับร่างฯไปเยอะ แต่ยังยืนยันว่า สัดส่วนของกาสิโนจะต้องไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจะลดสัดส่วนให้น้อยลงได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่จะไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์...
■■ ผ่านไปแล้วหลายวันสำหรับมาตรการ “ตัดไฟฟ้า-ตัดน้ำมัน-ตัดอินเตอร์เนต” เพื่อตัดกำลังของแก๊งคอลฯที่อาศัยพื้นที่บางส่วนของเมียนมาทำมาหากิน...
■■ มีรายงานข่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เตรียมนำหลักฐานคดีค้ามนุษย์ เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาประกอบด้วย ผู้นำกองกำลัง BGF ที่จะมีการเสนอขอออกหมายจับ“พ.อ.ซอชิตตู หรือ พ.อ.หม่องชิตตู” ซึ่งตรวจพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่คนไทยโดนกักตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน...
■■ ถามว่า “หม่องชิตตู”คือใคร? “รังสิมันต์ โรม” สส.พรรคประชาชน ซึ่งเกาะติดเรื่องนี้ เคยให้ข้อมูลเอาไว้ว่า...
■■ “พ.อ.หม่องชิตตู ผู้นำกองกำลัง BGF/KNAกองกำลังสำคัญที่ปกครองเมืองเมียวดีอยู่ในขณะนี้ หม่องชิตตู คนนี้ถูกแซงก์ชั่นหรือคว่ำบาตรจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะอังกฤษ สวิส ฝรั่งเศสหรืออียู เนื่องจากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่สำคัญ คือเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญของ เสอจื้อเจียง เจ้าของชเวโก๊กโก่ซึ่งถูกจับในประเทศไทย...
■■ ที่ผ่านมากองกำลัง BGF พยายามปฏิเสธความเกี่ยวข้องคนของตนเองกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาโดยตลอด แต่จะปฏิเสธได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ากองกำลัง BGF เป็นผู้ให้เช่าต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายทั่วโลกมากมายมหาศาล และการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นก็ได้ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างรุนแรง”...■■
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี