คนที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเมืองไทยแต่ต้องตาย พิการ หรือบาดเจ็บสาหัส เพราะคนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เรื่องนี้เป็นความจริงยิ่งกว่าจริง โดยดูได้จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอันมีสาเหตุมาจากผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะที่เมาสุราแล้วขับรถยนต์ จนสุดท้ายขับรถยนต์ไปชนผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย หรือบาดเจ็บสาหัส แล้วกลายเป็นคนพิการในที่สุด
ประเทศไทยได้ชื่อในทางเลวร้ายว่ามีอุบัติเหตุ บนท้องถนนอันเกิดจากเมาแล้วขับสูงมาก ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า
ช่วงปี 2562-2566 มีคนตายและบาดเจ็บจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่รถยนต์ จักรยานยนต์ รวม 284,253 คน หรือเฉลี่ยปีละ 56,850 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 3.7 แสนล้านบาท และพบว่าในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่องยาวนาน เช่น สงกรานต์ หรือปีใหม่จะมียอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ มีเสียชีวิตและบาดเจ็บเฉลี่ย 4,519 คน
ขณะเดียวกัน มีรายงานของจิราลักษณ์ นนทารักษ์ ภาควิชาระบาดวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง แนวโน้มสถานการณ์การบาดเจ็บและเสียชีวิต อันมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย ปี 2558-2562 โดยมีข้อสรุปคือพบตัวเลขเฉลี่ย 9,563 คนต่อปี เป็นชาย 8,304 คนต่อปีเป็นหญิง 1,295 คนต่อปี หรือเฉลี่ยประมาณ 6.6 เปอร์เซ็นต์ของการตายของประชากรไทยรายปี อัตราตายเฉลี่ยเท่ากับ 14.7 ต่อแสนประชากรต่อปี โดยโรคที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงสุดไล่ตามลำดับ ดังนี้ โรคตับจากแอลกอฮอล์ โรคตับ โรคหลอดเลือดสมองแตก และภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษเฉียบพลัน และพบด้วยว่ามีแนวโน้มอัตราการตายและเจ็บป่วยโดยมีสาเหตุเกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มสูงขึ้นทุกปี
ทุกคนที่ติดตามอันตรายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ย่อมทราบเรื่องราวที่กล่าวในข้างต้นดีแต่ก็ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เพราะว่าบริษัทผู้ผลิตแอลกอฮอล์ยังมีอิทธิพลในแวดวงการเมืองในระดับสูงมาก ประกอบกับในแวดวงธุรกิจก็ยังตกอยู่ใต้อิทธิพลของผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับมีนัยสำคัญแม้กระทั่งวงการกีฬาก็ยังไม่รอดพ้นจากอิทธิพลของนายทุนแอลกอฮอล์
เมืองไทยจึงมีปัญหาอันเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นเป็นลำดับ แต่เมื่อมองไปยังฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐว่าจะมีปัญญาแก้ไขปัญหานี้หรือไม่ ก็ตอบได้ทันทีว่าไม่มีปัญญาแก้ปัญหา เพราะได้กล่าวไปแล้วว่าเนื่องจากแวดวงการเมืองไทยก็ยังตกอยู่ใต้อิทธิพลของนายทุนผู้จำหน่ายแอลกอฮอล์ รวมถึงนายทุนกลุ่มอื่นๆ อีกด้วย
ไม่มีใครห้ามดื่ม ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่จำเป็นที่สังคมต้องมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมและป้องกันอันตรายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่รัฐบาลไทย เพราะที่ผ่านมานั้นรัฐบาลไทยทุกชุดทำเสมือนลูบหน้าปะจมูก เล่นปาหี่ไปวันๆ เท่านั้น
รัฐบาลไทยไม่เคยตั้งใจแก้ปัญหาความไม่เป็นปกติในสังคมไทยอย่างจริงๆ จังๆ แต่ทำแค่เพียงสร้างภาพเท่านั้น เราเห็นความตลกของรัฐบาลไทยมานานแสนนาน แล้วก็รู้ว่าไม่มีวันที่จะแก้ปัญหาสังคมได้ เพราะตราบใดก็ตามที่รัฐบาลยังคงออกมาตรการเล่นขายของไปวันๆ ก็ไม่ต้องหวังว่าจะแก้ปัญหาได้เด็ดขาด ขอย้ำว่าการไม่ขายเหล้าในวันพระ ไม่ใช่การแก้ปัญหาคนดื่มเหล้าและก่อเหตุวุ่นวายได้ แต่การแก้ปัญหานี้ให้ได้ผลมากที่สุดคือต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงจังไม่ใช่แก้ปัญหาแบบปัดสวะให้พ้นตัว และอ้างเอาศาสนามาบังหน้า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี