แม้คอลัมน์ทวนกระแสข่าว ไม่มีความรู้ เรื่องนางแบบเรื่องดาราดังระดับโลก แต่ก็จำเป็นต้องแสดงความคิดเห็น เพื่อแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เมื่อมีนางแบบ หรือ ดาราระดับโลก มามีส่วนเกี่ยวพันกับการใช้เงินงบประมาณ นำเงินภาษีคนไทยไปใช้อย่างไร้สาระ และอาจนำเงินภาษีชาวบ้านไปใช้ โดยไม่เกิดมรรคผลใดๆกับคนไทยโดยรวม
ข่าวที่สร้างความฮือฮาในวงการดาราและนางแบบในประเทศไทย วันนี้เห็นจะไม่มีข่าวไหน ที่สร้างความภูมิใจให้นายกรัฐมนตรี แพทองธารชินวัตร และ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา เท่ากับข่าวที่สามารถจ้าง นาโอมิ แคมป์เบลล์ นางแบบผิวสีวัย 54 ปี มาปั้นเด็กไทยให้เป็นนางแบบด้วยเงิน 20 ล้านบาท
ตัวเลข 20 ล้านบาท ที่จ่ายให้นางแบบผิวสี สูงวัย ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน หรือเป็นเงินส่วนตัวของใคร ดังที่นายทักษิณพูดก่อนหน้านางแบบผิวสี สูงวัย เข้าพบนายกฯแพทองธารในทำเนียบรัฐบาลว่า ค่าจ้างยี่สิบล้านบาท จะหาสปอนเซอร์ให้ และเชื่อว่านอกจากค่าจ้างนางแบบผิวสีวัย 54 ปีแล้ว รัฐบาลไทยต้องจ่ายเงินอีกจำนวนมาก สำหรับทีมงานทั้งฝรั่งและคนไทย ซึ่งต้องใช้จ่ายในระหว่างที่นางแบบผิวสี วัย 54 ปี ปั้นเด็กไทยให้เป็นนางแบบเฉิดฉายในระดับโลก
จากคำสนทนาที่นายกฯแพทองธาร ถาม นางแบบผิวสี วัย 54 ปีว่า “เมื่อวานคุยกับทีมงานเรียบร้อยดีไหม” คำถามของนายกฯแพทองธารบ่งชี้ว่า นางแบบผิวสีมาถึงเมืองไทยก่อนหน้าเข้าพบนายกรัฐมนตรี และได้ปรึกษากับทีมงานในเมืองไทยก่อนหน้าพบนายกฯแล้ว ไม่ชัดเจนว่า มาล่วงหน้ากี่วัน ที่พักที่กินและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ใครเป็นคนจ่ายแต่ที่ยืนยันได้คือรัฐบาลไทยจ้างนางแบบผิวสี วัย 54 ปี มาทำงานตามแผนการนายทักษิณ ชินวัตร
นายทักษิณเปิดประเด็นนี้ ในวันที่ไปช่วยหาเสียงผู้สมัครเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่จังหวัดเชียงราย ตอนหนึ่งนายทักษิณพูดว่า “คนแอฟริกาผิวดำ จมูกก็แบน แต่ยังมีคนจ้างเป็นนางแบบดังระดับโลกได้” แสดงว่านายทักษิณฝังใจคลั่งไคล้นางแบบผิวสี วัย 54 ปี คนนี้มานานแล้ว นายทักษิณถึงได้เปิดประเด็นค้นหาคนไทยพื้นบ้านไม่ต้องทำศัลยกรรม ใช้ความสวยแบบไทย ปั้นให้เป็นนางแบบระดับโลกได้
เนื่องจากผู้เขียนไม่มีความรู้ในวงการนางแบบ วงการดารา จึงต้องอาศัย รายการบันเทิงช่องเวิร์คพอยท์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดยนำส่วนหนึ่งของรายงานเวิร์คพอยท์ฯมาประกอบบทความ..ว่า “ทำความรู้จัก นาโอมิแคมป์เบลล์ ซูเปอร์โมเดลชื่อดัง ที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ทาบทามมาเป็นที่ปรึกษา สนับสนุนเยาวชนไทยสู่เวทีนางแบบระดับโลก
นาโอมิ แคมป์เบลล์ เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1970 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 54 ปีเธอมีเชื้อสายแอฟโฟร-จาเมกา และมีเชื้อสายจีนจากคุณย่า..นอกจากบทบาทการเป็นนางแบบผิวดำที่ได้รับการยอมรับว่า มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว นาโอมิยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการยอมรับความแตกต่างทางเชื้อชาติโดยเธอเข้าไปทำงานการกุศลกับเนลสัน แมนเดลา ตั้งแต่ปี 1993
ก่อนที่จะตั้ง องค์กรการกุศลของตัวเอง ที่มีชื่อว่า “Fashion For Relief ” ขึ้นมาในปี 2005 เพื่อจัดกิจกรรมแฟชั่นโชว์ระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเฮอริเคนแคทรีนา หลังจากนั้น “Fashion For Relief ”ก็ได้ไปจัดแสดงโชว์ในหลายเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกระดมทุนได้มหาศาลเพื่อให้ความช่วยเหลือโครงการต่างๆ มากมาย
แต่องค์กรการกุศล “Fashion For Relief ” ที่ถูกตั้งมาด้วยวัตถุประสงค์แรก ในการให้ความช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ก็ไปไม่ถึงฝั่ง หลังเกิดประเด็นว่า ทางองค์กรไม่ได้นำเงินบริจาคไปใช้ตามวัตถุประสงค์ แต่กลับถูกนำไปใช้จ่ายส่วนตัว จนถูกตรวจสอบ โดย คณะกรรมการการกุศล หรือ The Charity Commission ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบ
เรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า ความไม่โปร่งใสของ “Fashion For Relief ” ที่ถูกตรวจพบรวมถึงการที่ นาโอมิ แคมป์เบลล์ นำเงินขององค์กรไปใช้ส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นการนำไปจ่ายค่าที่พักโรงแรมหรู ทำสปา รวมถึงกิจกรรมส่วนตัวอื่นๆ เป็นเงินหลายพันล้าน
The Charity Commission ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2016 ถึงเดือนกรกฎาคม 2022 มีเงินจาก Fashion For Reliefที่ถูกนำไปใช้กับการกุศลจริงๆ แค่เพียง 8.5%
และในเวลาต่อมา องค์กร “Fashion For Relief ”ก็ถูกขุดคุ้ย และแฉต่อจากสื่อของอังกฤษหลายฉบับ อย่างหนังสือพิมพ์ Daily Mail ก็ออกมาแฉว่า มีครั้งหนึ่งที่“Fashion For Relief” ไปจัดงานระดมทุนที่เมืองคานส์ประเทศฝรั่งเศส ระดมทุนมาได้ถึง 1.6 ล้านดอลลาร์(54 ล้านบาท) แต่นาโอมิ กลับบริจาคเงินให้การกุศลแค่ 5,000 ดอลลาร์ (170,000 บาทเท่านั้น)
แม้ว่า นาโอมิจะออกมาปฏิเสธว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเธอก็ไม่เคยนำเงินบริจาคเพื่อการกุศลมาใช้ส่วนตัว แต่เมื่อปีที่แล้ว (2024) The Charity Commission ได้ตัดสินใจสั่งปิดองค์กร “Fashion For Relief” และแบน นาโอมิ แคมป์เบลล์ ไม่ให้ยุ่งกับงานการกุศลใดๆ เป็นเวลา 5 ปี..”
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ทำไมนายทักษิณจึงชอบใช้คนที่ถูกแบน หรือ สั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ห้าปี สิบปีหรือตลอดไปมาใช้งาน เช่น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลีถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา ในฐานะรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แก้ไขสัมปทานดาวเทียมเอื้อชินคอร์ป
นพ.สุรพงษ์ ซึ่งถูกห้ามรับตำแหน่งทางการเมืองตลอดไป แต่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติในสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยนายกฯแพทองธาร ชินวัตร นพ.สุรพงษ์ ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี(แพทองธาร ชินวัตร) กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติและ นพ.สุรพงษได้รับการมอบหมายจากนายกฯ แพทองธารให้เป็นผู้ประสานงานโดยตรงกับนางแบบผิวสี วัย 54 ปีที่ถูก Charity Commission ห้ามทำงานการกุศลห้าปี
ถึงแม้ว่า นาโอมิ แคมป์เบลล์ ปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ใช้เงินบริจาคผิดประเภท แต่เมื่อ Charity Commissionได้ตรวจสอบ สั่งปิด “Fashion For Relief”และสั่งห้ามไม่ให้เธอเกี่ยวข้องกับงานการกุศลห้าปีผลการสอบสวนต้องมีมูล คณะกรรมการกุศลถึงสั่งไม่ให้เธอเกี่ยวข้องกับงานการกุศล 5 ปี ซึ่งนับหนึ่งตั้งแต่ปี 2024 เป็นที่น่าคลางแคลงใจ ที่นางแบบผิวสีถูกแบนตั้งแต่ปีกลาย แต่รัฐบาลไทยเริ่มจ้างเธอตั้งแต่ต้นปี 2025
ลองใช้สติปัญญาพิจารณาว่า เมื่อคณะกรรมการการกุศล คลางแคลงใจ สงสัยในพฤติกรรม และความไม่โปร่งใสของเธอแล้ว วงการธุรกิจการค้า อุตสาหกรรมเสื้อผ้า ยังรักและศรัทธา ชื่นชมนางแบบผู้มีข้อครหาอยู่หรือไม่ ? เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นาโอมิ แคมป์เบลล์ จะปั้นเด็กไทยที่ไม่เหลากราม ไม่ทำนม ไม่ฉีดสารเคมี ให้ผิวสีเปล่งปลั่ง ยังมีความหวังเป็นนางแบบระดับโลก ดังที่นายทักษิณได้ตั้งเป้าหมายไว้ได้ฤา
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี