นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ เปิดเผยว่า “... ท่านสี จิ้นผิง ได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ (กาสิโน ในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์) ดิชั้นได้อธิบายว่าเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เพียงกาสิโน แต่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ครบวงจร มีโรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง และกิจกรรมสำหรับครอบครัว ส่วนของกาสิโนจะมีพื้นที่เพียง ไม่ถึง ๑๐% ของโครงการทั้งหมด
เราต้องยอมรับว่าปัจจุบันในไทยมีบ่อนเถื่อนอยู่แล้ว แต่เงินเหล่านั้นกลับไม่ได้ก่อประโยชน์ต่อประเทศ ถ้าเรามีกฎหมายรองรับ เก็บภาษีถูกต้องรายได้สามารถนำไปพัฒนาโครงการสำคัญ เช่น ทุนการศึกษาให้เด็กไทย และการพัฒนาประเทศ..
รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำจีนได้ให้ข้อแนะนำว่าการมีกาสิโนอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ซึ่งรัฐบาลไทยยืนยันว่า พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะของจีน และจะนำไปศึกษาเพิ่มเติม
1. ปธน.สี จิ้นผิง มีนโยบายปราบคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง พบว่า เจ้าหน้าที่รัฐทุจริตได้ใช้เครือข่ายกาสิโนในต่างประเทศหลบหนีการตรวจสอบ ฟอกเงิน
ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน (Center for Gambling Studies) มีรายงานเรื่อง “ทุนจีนเทาใต้เงามังกร ยุทธการกวาดล้างพนันออนไลน์” กล่าวโดยสรุปว่า
นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งผู้นำจีน ค.ศ. 2012 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ประกาศให้การต่อสู้กับการคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ
เริ่มต้นด้วยการแก้ไขปัญหาจากรากฐาน แก้ไขปัญหาจากต้นจนจบ โดยมุ่งเป้าที่จะทำให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการ “ไม่กล้าทุจริต” เพราะเคารพประชาชน “ไม่สามารถทุจริต” เพราะระบบวินัย และ “ไม่อยากทุจริต” เพราะมีจิตสำนึกสูง
เนื่องจากการพนันมีความสัมพันธ์กับการฟอกเงินและการคอร์รัปชั่น รัฐบาลสี จิ้นผิง จึงมีนโยบายเชิงรุกในการปราบปรามการพนันที่ผิดกฎหมาย ทั้งการจัดให้มีการพนันในประเทศอย่างผิดกฎหมาย และการจัดให้มีการพนันในต่างประเทศที่มีลูกค้าเป็นชาวจีน
จีนปรับปรุงกฎหมาย กฎเกณฑ์ เกี่ยวกับการพนันให้เข้มงวดมากขึ้นบทลงโทษรุนแรงขึ้น และให้ประสานการทำงานแบบข้ามหน่วยงาน ดังนี้
ศาลประชาชนสูงสุด สำนักงานอัยการประชาชนสูงสุด และกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ ออกประกาศหลายฉบับ
คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ ฝ่ายนิติบัญญัติ แก้ไขกฎหมายอาญา เพิ่มเนื้อความในวรรคท้าย มาตรา 303 ว่า “ห้ามจัดให้ประชาชนชาวจีนเล่นการพนันนอกพรมแดน และให้มีโทษเช่นเดียวกับการกระทำความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน” และมาตรการ 191 เพิ่มโทษความผิดฐานฟอกเงิน “ให้ริบทรัพย์และประโยชน์ทั้งหมดที่ได้จากการกระทำความผิด”
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ขึ้นบัญชีดำรายชื่อ (Blacklist) สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นบ่อนการพนันข้ามพรมแดน
กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ประกาศนโยบายกวาดล้างการพนันออนไลน์ข้ามพรมแดน ผ่านการทลาย 3 ห่วงโซ่แห่งการกระทำความผิด ได้แก่ ห่วงโซ่การเงิน ห่วงโซ่เทคโนโลยี และห่วงโซ่แรงงาน โดยการร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงต่างประเทศ ธนาคาร กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว หน่วยงานควบคุมอินเตอร์เนต สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯข้อมูลถึงเดือนเมษายน 2021 มียอดการจับกุมกว่า 17,000 คดี ผู้กระทำความผิดกว่า 110,000 ราย
2. เมื่อจีนไม่อนุญาตให้มีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศ นอกจากมาเก๊าทุนกาสิโนจึงลงทุนตามแนวชายแดนจีน-เมียนมาและจีน-ลาว เพื่อให้บริการลูกค้าชาวจีน
กระทั่งเกิดปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐของจีนติดหนี้พนัน/ถูกกักขัง รัฐบาลจีนจึงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ทำให้เมืองกาสิโนเหล่านั้นต้องปิดตัวลง
ด้านหนึ่ง ย้ายไปตั้งหลักในฟิลิปปินส์
อีกด้าน ลงทุนบริเวณชายแดนไทย ทั้งฝั่งพม่าและลาว
3. ฟอกเงินผ่านกาสิโน
ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน (Center for Gambling Studies) ระบุว่า วิธีการฟอกเงิน ที่ได้มาจากการฉ้อโกง ค้ายาเสพติด และสารพัด
เงินผิดกฎหมาย ทำได้ง่ายๆ ผ่านกาสิโนและบริษัททัวร์พนัน ดังนี้
“การฟอกเงินแบบดั้งเดิม - บริษัททัวร์พนันจะขนเงินสดเข้าไปในบ่อนเพื่อเปลี่ยนเป็นชิป นำชิปไปเล่นพนันจำนวนหนึ่ง แล้วแลกชิปที่เหลือทั้งหมดเป็นเงินสด เพียงเท่านี้เงินผิดกฎหมายก็จะกลายเป็นเงินสะอาด
การฟอกเงินยุคดิจิทัล - เงินฉ้อโกงที่โอนผ่านบัญชีต่างๆ จะไปจบที่บริษัททัวร์พนัน แลกเป็นชิปให้นักพนันวีไอพีใช้เล่นพนันในกาสิโน ทำซ้ำหลาย
รอบ ใช้เวลาหลายสัปดาห์ แล้วค่อยแลกชิปเป็นเงิน ซึ่งจะกลายเป็นเงินสะอาด”
4. รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลชัดเจนว่า ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีการอนุญาตให้มีกาสิโนถูกกฎหมายมานานกว่า 40 ปี มีการกำกับดูแลการพนันที่อ่อนแอ เป็นช่องทางให้เกิดการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ จนทำให้ คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (FATF) ได้ขึ้นบัญชีประเทศฟิลิปปินส์ ว่า อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นแหล่งฟอกเงินหรือ
บัญชีสีเทา (Grey List) ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา
“การใช้บ่อนกาสิโนเพื่อฟอกเงินไม่ใช่เรื่องใหม่ มีกรณีจำนวนมากที่แสดงให้เห็นปัญหา ช่องโหว่ ของการดำเนินงานที่ทำให้กาสิโน เป็นแหล่งดึงดูดเงินสีเทาเข้ามา เพื่อฟอกให้สะอาด หรือ อาจจะกล่าวได้ว่า บ่อนกาสิโนมักจะถูกแทรกซึมโดยองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติได้โดยง่าย
โดยมีสาเหตุสำคัญจากความบกพร่อง ในการสอดส่องควบคุมดูแล และการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ขาดการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน แม้แต่ในประเทศตะวันตกที่มีการตรวจสอบเข้มงวด ก็ยังมีตัวอย่างที่กาสิโนยังดำเนินการไม่เพียงพอ และเกิดการฟอกเงินของอาชญากรบ่อยๆ และมีผลให้กาสิโนต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนมากให้กับรัฐบาล
ตัวอย่างที่ยกมาเหล่านี้ เพื่อแสดงให้รัฐบาลเห็นว่า การทำบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมาย และรวมถึงพนันออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องมีการเตรียมการ
ที่รอบคอบ และมีความพร้อมต่อปัญหา หรือผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น...” – ดร.นวลน้อยกล่าว
5. ขณะนี้ รัฐบาลกำลังผลักดันนโยบายเปิดกาสิโน ให้เป็นส่วนหนึ่งในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
อ้างว่า เป็นนโยบายรัฐบาล แถลงต่อรัฐสภา
แต่ความจริง นโยบายที่แถลงต่อรัฐสภานั้น ไม่ได้ระบุถึงการเปิดกาสิโนหรือเปิดบ่อนถูกกฎหมายเลย
ระบุเพียงเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น
นโยบายรัฐบาลไม่ได้บอกว่า จะต้องมีบ่อนอยู่ข้างใน
เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ รัฐบาลจะอ้างได้อย่างไรว่า เป็นนโยบายเป็นพันธสัญญาที่รัฐบาลต้องทำ พรรคร่วมต้องสนับสนุน
หรือผ่านการตัดสินใจเลือกตั้งมาแล้ว ไม่ต้องทำประชามติอีก
พรุ่งนี้ จะนำเสนอกรณีศึกษาของประเทศต่างๆ แง่มุมต่างๆรวมถึงหากต้องการแก้ปัญหาบ่อนการพนัน ก็ควรจะแก้ปัญหาพนัน ไม่ใช่จะเปิดบ่อนให้ถูกกฎหมายเสียเอง อย่างไร
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี