ผู้ที่ติดตามการปราบปรามแก๊งอาชญากร call center ที่กระจายตัวอยู่ในเมียนมา และกัมพูชา กำลังแสดงความชื่นชมความเอาจริงเอาจังของทางการจีน ที่ส่งหลิว จงอี้ (Liu Zhongyi) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามาเกาะติดเพื่อถอนรากถอนโคนแก๊งอาชญากร call center ในฝั่งเมียนมา โดยพบว่าหลิวเกาะติดและเอาจริงเอาจังกับภารกิจนี้มาก เพราะเขาเข้ามาทำภารกิจนี้ตั้งแต่ช่วงประมาณเกือบปลายเดือนมกราคม 2568 และยังคงเกาะติดภารกิจนี้จวบจนบัดนี้
เป็นที่น่าสังเกตว่าหลิวเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยอย่างขมีขมัน นอกจากนั้นยังเดินทางข้ามไปยังดินแดนของเมียนมาที่อยู่ใต้อิทธิพลของชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงในเขตเมียวดี โดยข่าวระบุว่าหลิวไปพบกับหม่องชิตตู เลขาธิการกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ที่เมียวดี โดยทั้งคู่หารือร่วมกันเรื่องการกวาดล้างแก๊ง call center ให้สิ้นซากไป
น่าสงสัยหรือไม่ที่ทางการไทยทำเป็นคุยเขื่องว่าจะออกหมายจับหม่องชิดตู เพราะเห็นว่าคนผู้นี้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับแก๊ง call center ในเมียวดี แต่ทว่าหลิวกลับไปพบและหารือเรื่องการกวาดล้างแก๊ง call center ในเมียวดีกับหม่องชิตตู สรุปว่ารัฐบาลไทยมองว่าหม่องชิตตูเป็นอาชญากร แต่หลิวไม่ได้มองเช่นนั้น
ในเชิงการเมืองนั้น การที่หลิวเข้ามาจัดการเรื่องแก๊ง call center ชาวจีนในเขตประเทศไทย โดยหลิวเข้ามาแสดงตนเสมือนบัญชาการให้กวาดล้างแก๊งนี้อย่างเด็ดขาด ก็ทำให้เกิดคำถามว่า แท้จริงแล้วทางการไทยรู้หรือไม่ว่าหลิวเดินทางไปไหนมาไหนบนแผ่นดินไทยบ้างแล้วการเข้า-ออกพระราชอาณาจักรไทยโดยหลิวนั้น รัฐบาลไทยติดตามเรื่องนี้จริงจังแค่ไหน ทำไมหลายต่อหลายครั้งที่ปรากฏข่าวว่าหลิวไปในบริเวณต่างๆ บนแผ่นดินไทย ราวกับว่าหลิวคือผู้ที่สามารถลุกขึ้นแสดงอำนาจในการปราบปรามแก๊ง call center ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
จะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าทางการไทยถูกจีนบีบให้จำเป็นต้องกำจัดแก๊งอาชญากรcall center ในฝั่งเมียนมาให้จงได้ เนื่องจากเห็นว่าไทยเป็นผู้ส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟฟ้า ประปา และสัญญาณอินเตอร์เนตให้กับแก๊งอาชญากรcall center ในเมียนมา
เหตุที่สรุปเช่นนี้ ก็เพราะว่าทางการไทยรู้ดีมาโดยตลอดว่าแก๊งอาชญากร call center ในฝั่งเมียนมาดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และเป็นภัยอันตรายต่อประชากรโลกมาช้านานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจคิดจะปราบปรามแก๊งดังกล่าวให้สิ้นซากแต่กลับปล่อยให้แก๊งยังคงทำมาหากินได้ตลอดมาจนกระทั่งทางการจีนอดทนต่อไปไม่ได้ เพราะเห็นว่าคนจีนจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบด้านลบอย่างหนักจากแก๊งนี้ จึงส่งหลิวเข้ามาจัดการกับแก๊ง และประกอบกับเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นายกรัฐมนตรีไทยต้องเดินทางไปพบสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ณ กรุงปักกิ่ง จึงทำให้ไทยต้องรีบร้อนจัดการกับแก๊ง call center แบบประมาณว่าทำเสมือนเสียมิได้ เพราะมิฉะนั้น ก็อาจจะถูกประธานาธิบดีจีนตอกหน้านายกรัฐมนตรีไทยว่าไม่มีปัญญาแก้ปัญหาแก๊ง call center
มีผู้ตั้งคำถามตรงๆ ว่าคนระดับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย คือ ภูมิธรรม เวชยชัย และอนุทิน ชาญวีรกูล รู้หรือไม่ว่าหลิว จงอี้เดินทางไป ณ ที่แห่งใดบ้างบนแผ่นดินไทย และรู้หรือไม่ว่าหลิวเข้า-ออกดินแดนไทยในวันเวลาใดหรือว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญทั้งสองของไทยไม่ใส่ใจเรื่องนี้ เนื่องจากเห็นว่าไทยเป็นแค่เพียงหมากตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่อยู่บนกระดานแห่งอำนาจของจีน เพราะหากรัฐบาลไทยไม่เห็นเช่นนั้นแล้ว ก็ต้องตั้งใจแสดงบทผู้ปรามแก๊งอาชญากร call center จีนให้เป็นหลักเป็นฐานมากกว่าที่กระทำอยู่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี