ชาติตะวันตก ที่เป็นนักไล่ล่าเมืองขึ้นมาอย่างยาวนาน ได้เป็นผู้ “จุดพลุ”การปกครองที่เรียกว่า “ลัทธิประชาธิปไตย” ขึ้นมา แล้วนำเป็น “สินค้าส่งออก”ที่เร่ขายไปทั่วโลก ควบคู่ไปกับ “ลัทธิล่าเมืองขึ้นซ่อนรูป”

“สารตั้งต้น” ของสินค้า “ลัทธิประชาธิปไตย” ประกอบไปด้วย “เสรีภาพ ภราดรภาพและเสมอภาค” ของพลเมืองในประเทศที่ปกครองด้วยลัทธินี้

“โดยเบื้องต้น ประชาชนทุกคนต้องเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อเลือกนักการเมืองจากพรรคที่ตนชื่นชอบ เข้าสภาไปทำหน้าที่บริหารประเทศจนเป็นที่มาของอุดมการณ์ลัทธิประชาธิปไตย คือ มาจากประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน”

แต่ดูเหมือน “สินค้าประชาธิปไตย” ที่ชาติตะวันตกนำมาขาย“มักกลายเป็นสินค้ามีปัญหา” เหมือนรถยนต์ที่เบรกไม่ทำงานและเป็นเสื้อผ้าไซส์ XXL ที่รุ่มร่ามไม่กระฉับกระเฉง ประชาชนบางประเทศสวมใส่ไม่ได้“จนทำให้ฝรั่งเจ้าลัทธิประชาธิปไตยไม่พอใจ” แล้วกล่าวหาชาติดังกล่าว “ประชาธิปไตยเดี้ยงพิการ” มีการ “ล้ำเส้นแดง” ที่เกิดจาก ศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรมประจำชาติ จนทำให้ “เสื้อประชาธิปไตย” ที่ “โด่ง โย่งโก๊ะ” ของฝรั่ง “ถูกใส่ไม่กระชับ”

จึงไม่น่าประหลาดใจ ที่ชาติตะวันตกนักไล่ล่าอาณานิคมทั้งหลายจะนำ“ลัทธิสทร.” หรือ “ลัทธิเสือกทุกเรื่อง” ที่มีลัทธิ “Manifest Destiny” เป็นต้นกำเนิดของสทร. มาเล่นงานกับประเทศที่ “ลัทธิประชาธิปไตยเดี้ยงพิการ” จนทำให้กลายเป็น “วิกฤตสงครามอาวุธ สงครามการค้าและสงครามแซงก์ชั่นระบาดไปทั่วโลก”

แต่แล้วจู่ๆ ในวันนี้ “ลัทธิประชาธิปไตย” ที่มีประเทศอินทรีหัวขาว“โม้อย่างสุดมัน” ว่า “ตูข้าคือต้นแบบประชาธิปไตยตัวพ่อ” กลับต้อง“เดี้ยงพิการ” ถึงขั้นกลายเป็น “ลัทธิเผด็จการซ่อนรูป” ปรากฏให้ชาวโลก “ขำกลิ้ง”เกือบทุกชาติ

“ขำกลิ้ง” เพราะ “จุดเด่น จุดแข็ง และจุดสุดอลังการของลัทธิประชาธิปไตย” คือ “มาจากประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน” บัดนี้กลายมาเป็น “มาจากมหาเศรษฐี โดยมหาเศรษฐี และเพื่อมหาเศรษฐี”

ส่วนประชาชนคนชั้นกลางในแดนอินทรีหัวขาว ที่มีมากกว่า 300 ล้านคนและผู้ยากจนอีก 43 ล้านคน นั้น กลายเป็นพลเมืองระดับ “เศษเนื้อข้างเขียง” ของประเทศ

ในขณะที่รัฐสภา กลับถูก “ท่านปากจู๋ เนกไทแดง” ทำการ “ฉีกหน้า” อย่าง “สุดเห่ย” ด้วยการออกคำสั่ง อำนาจบริหารนับร้อย นับพันฉบับ จนกลายเป็น “ลัทธิเผด็จการซ่อนรูป” อย่าง “สุดเศร้า”

สำหรับชาติต่างๆ ในยุโรปจะเกิดวิกฤต “ประชาธิปไตยเดี้ยงพิการ” แบบอินทรีหัวขาวหรือไม่? ยังไม่มีใครตอบได้ แต่วันนี้ “ลัทธิชาตินิยม” แบบ “ขวาสุดโต่ง คลั่งชาติสุดเห่ย” กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศ

ส่วน “ลัทธิสทร.” นั้น ถือเป็น “ลัทธิที่แฝงอยู่ในลัทธิประชาธิปไตย” มายาวนานแล้ว เพราะชาวผิวขาวทั้งหลายต่างบูชาลัทธิ “ Manifest Destiny” หรือ
“โองการพระเจ้าเป็นผู้อนุญาตให้ชาวผิวขาวปกครองโลก?”

กมลศักดิ์  ตั้งธรรมนิยม