จากงานวิจัยที่เผยแพร่โดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน (Center for Gambling Studies)
งานวิจัยเรื่อง “สถานที่จัดให้มีการเล่นพนัน” โดย กาญจนุรัตน์ ไมรินทร์
เมื่อวานนี้ สรุปให้เห็นกาสิโนในหลายๆ ประเทศว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เพื่อกระตุ้นการพิจารณาว่า ถ้ามาเปิดที่เมืองไทย จะจัดการได้จริงหรือไม่?
ผู้วิจัยได้นำเสนอบทวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจ ระบุว่า
“...จากการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับสถานที่ที่เล่นพนันประเทศต่างๆ พบว่าทุกประเทศไม่ได้เปิดให้มีการพนันอย่างเสรี
ยังคงกำหนดให้การพนันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
จะประกอบกิจการการพนันได้ ต้องมีกฎหมายให้อนุญาต
ข้อเหมือนของแต่ละประเทศ คือ จะมีกฎหมายที่เป็นฉบับหลักที่ใช้ในการกำกับดูแลการพนันที่อนุญาต เช่น
ประเทศสิงคโปร์ มีพระราชบัญญัติควบคุมกาสิโน 2006
ประเทศแอฟริกาใต้ กฎหมายการพนันแห่งชาติค.ศ. 2004
ประเทศอังกฤษ มีพระราชบัญญัติการพนัน ค.ศ. 2005
ประเทศฟิลิปปินส์ มีกฎบัตรของ PAGCOR เป็นต้น
ซึ่งมีลักษณะของลำดับศักดิ์ของกฎหมายคล้ายพระราชบัญญัติของประเทศไทย และจะมีกฎหมายลำดับรองออกมาในส่วนของรายละเอียดการอนุญาต
ข้อแตกต่างของแต่ละประเทศ คือ
1. องค์กรควบคุม
จากการศึกษา พบว่า ประเทศส่วนใหญ่มีการจัดตั้งองค์กรมาช่วยกำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ได้แก่
แอฟริกาใต้ - มีคณะกรรมการการพนันแห่งชาติ (National Gambling Board - NGB) เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายการพนันแห่งชาติค.ศ. 2004
(National Gambling Act, 2004, Act No 7 of 2004) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแล หรือควบคุมการประกอบกิจการพนันทุกประเภทที่กฎหมายบัญญัติไว้ให้สามารถดำเนินการได้ โดยจะมีหน่วยงานพิจารณาออกใบอนุญาตประจำเขตปกครอง (PGRAs) ในการกำกับดูแลเรื่อง 1) ออกใบอนุญาตระดับประเทศ และใบอนุญาตระดับเขตปกครอง 2) ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย คือกฎหมายของรัฐบาลกลางและกฎหมายของเขตปกครองรวมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาต 3) ขจัดหรือต่อสู้กับการพนันผิดกฎหมาย 4) อำนาจหน้าที่อื่นๆ เช่น การพิจารณาเห็นชอบเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์การให้เช่า หรือโอนการครอบครองเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้เล่นพนันของผู้รับอนุญาตรายเดิม
ประเทศฟิลิปปินส์ – มีคณะกรรมการบริหาร (Board of Directors) บรรษัทบริหารจัดการกิจกรรมบันเทิงและการพนันฟิลิปปินส์ (Philippine Amusement and Gaming Corporation: PAGCOR) ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการกาสิโน และเป็นองค์กรที่สามารถทำธุรกิจกาสิโนเพื่อแสวงหาผลกำไรได้
ประเทศสิงคโปร์ – มีคณะกรรมการกำกับดูแลการพนัน (Gambling Regulatory Authority: GRA) ทำหน้าที่ทั้งตรวจสอบ ควบคุม กำกับดูแลการพนัน
ประเทศอังกฤษ - มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการการพนัน (National Gambling Committee) ที่เป็นองค์กรที่ดำเนินการกำกับดูแลการพนัน และบังคับใช้กฎหมายตาม
พระราชบัญญัติการพนัน ค.ศ. 2005
ประเทศฝรั่งเศส – ไม่ได้กำหนดองค์กรมาควบคุมโดยเฉพาะ แต่มีประกาศกระทรวงที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการอนุญาตให้เปิดกาสิโน และมีการกำหนดให้สภาเทศบาลในเขตพื้นที่มีส่วนร่วมในการอนุญาตด้วย เพราะการอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เปิดกาสิโนต้องพิจารณาหลังจากมีการไต่สวนข้อเท็จจริงและพิจารณาบันทึกเงื่อนไขการดำเนินการที่จัดทำโดยสภาเทศบาลและรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว
2. การแบ่งประเภทของกาสิโน
ประเภทของกาสิโน มีการแบ่งตามขนาด เช่น อังกฤษ มีการแบ่งกาสิโนตามขนาดของพื้นที่รวมของส่วนต่างๆ ที่ใช้สำหรับกาสิโนที่ให้บริการการพนัน
แบ่งตามสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ มีกาสิโน สองประเภท คือ กาสิโนขนาดใหญ่ คือ กาสิโนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร และกาสิโนขนาดเล็กคือกาสิโนที่มีอุปกรณ์การเล่นน้อยกว่าขนาดใหญ่ อาจตั้งอยู่ในบริเวณสถานที่อื่น เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม
3. การกำหนดสถานที่ตั้งสถานที่เล่นการพนันกาสิโน
บางประเทศ จะกำหนดจำนวนโดยเฉพาะ เช่น
แอฟริกาใต้กำหนด 40 แห่ง
ประเทศฝรั่งเศสกำหนดเขตไว้ 5 เขต
ฟิลิปปินส์มีการจัดตั้งไว้หลายเขตประเทศกับหลายพื้นที่ ทำให้มีกาสิโนจำนวนมาก
ส่วนประเทศบางประเทศยังไม่มีการกำหนด
4. ข้อกำหนดอื่นๆ
กรณีประเทศฟิลิปปินส์ มีการกำหนดสถานที่ตั้งกาสิโนขนาดเล็กไว้ว่าต้องอยู่ไกลจากสถานศึกษาและศาสนสถาน ซึ่งกำหนดไว้ในกฎหมายลำดับรอง
หรือประเทศฝรั่งเศสที่กำหนดบทบาทของท้องถิ่นในการขออนุญาตตั้งกาสิโน
5. ผู้วิจัยระบุว่า กฎหมายเกี่ยวกับสถานที่ที่จัดให้มีการเล่นพนันประเภทกาสิโนนั้น ในส่วนของสถานที่ตั้งกาสิโน จะมีการจัดตั้งโดยกฎหมายของแต่และประเทศโดยเฉพาะ
ประเทศฟิลิปปินส์กับแอฟริกาใต้กำหนดการจัดตั้งไว้หลายเขต หลายพื้นที่ทำให้มีกาสิโนจำนวนมาก
ส่วนประเทศบางประเทศมีการจัดตั้งกาสิโนเพียงไม่กี่แห่ง
อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยจะมีกฎหมายที่อนุญาตให้การพนันบางชนิดเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนของสถานที่จัดตั้งกาสิโนนั้น อาจกำหนดให้มีที่เดียวที่สร้างเป็นกาสิโนขนาดใหญ่ครบวงจร เพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแลก่อน และอาจตั้งคณะกรรมการเฉพาะที่มีหน้าที่กำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งองค์ประกอบของคณะกรรมการควรมาจากหลากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แต่หากจะตั้งสถานประกอบการการพนันหลายที่หลายจังหวัด อาจจะกำหนดตามจังหวัด โดยคำนึงถึงจำนวนประชากร เช่น 1 ล้านต่อที่กาสิโน จะทำให้ตั้งกาสิโนได้หลายพื้นที่
แต่กฎหมายต้องเข้มงวดในข้อบังคับ ข้อห้าม การทำประโยชน์เพื่อสังคม การจัดเก็บภาษี ระยะห่างจากสถานที่สำคัญ การเข้าถึงของประชาชนที่เข้าถึงง่าย การจัดการหนี้สินของประชาชน รวมถึงการพนันในประเทศไทยยังค่อนข้างอ่อนไหว จึงอาจจะกำหนดพื้นที่ตามข้างต้นได้ยาก
การจัดตั้งกาสิโนแห่งใหญ่แห่งเดียวที่เป็นกาสิโนแบบสมบูรณ์แบบ อาจเหมาะสมกับประเทศไทยมากกว่า
ในส่วนของสถานที่เล่นการพนันอื่น เช่น กาสิโนขนาดเล็ก สถานที่เล่นบิงโก ฯลฯ ควรคำนึงถึงการเข้าถึงง่ายของประชาชนมีผลให้เพิ่มจำนวนประชาชนในการเล่นการพนันได้ง่ายขึ้น การจำกัดอายุ การกำหนดจำนวนเครื่องเล่นให้เหมาะสมอย่างไรก็ตาม อาจต้องเพิ่มกฎหมายเฉพาะสำหรับการนี้ต่อไป
6. ข้อเสนอแนะต่อการจัดทำกฎหมาย
ผู้วิจัยระบุว่า
1. เรื่องการกำหนดนิยาม ในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ไม่ได้มีการนิยาม “สถานที่” ไว้
ผู้วิจัยเห็นว่า หากต้องการกำหนดนิยาม ควรดูต้นแบบกฎหมายสิงคโปร์
“กาสิโน” สถานที่ใดๆ หรือส่วนหนึ่งของสถานที่ภายในที่ตั้งที่กำหนดให้บุคคลอาจเข้าร่วมเกมหนึ่งเกมใดหรือมากกว่านั้น ภายใต้เกมที่ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลการพนันของสิงคโปร์โดยให้ผู้ประกอบการกาสิโนกำหนดเกมที่เล่นในกาสิโนของผู้ประกอบการกาสิโน กำหนดโหมดการเล่นในกาสิโน และกฎสำหรับเกมในกาสิโน ทั้งให้เผยแพร่รายชื่อเกม โหมดการเล่น และกฎกติกาสำหรับเกมเหล่านั้นที่ได้รับการอนุมัติ
2. การแบ่งประเภทกาสิโน
ผู้วิจัยเห็นว่าการแบ่งประเภทกาสิโน ควรจะพิจารณาจากพื้นที่รวมของส่วนที่ใช้เล่นกาสิโนแบบประเทศอังกฤษ
3. การกำหนดสถานที่ตั้ง
แอฟริกาใต้ กำหนดให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมออกประกาศกำหนดจำนวนใบอนุญาตไว้จำนวน 40 ใบอนุญาตในเขตปกครองต่างๆ
ส่วนฝรั่งเศส กำหนดเขตจัดตั้งไว้
ผู้วิจัยเห็นว่า ควรกำหนดเขตไว้เหมือนประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากรัฐบาลสามารถควบคุมเขตจัดตั้งได้ตั้งแต่แรก เพื่อการบริหารจัดการ และการกำกับดูแล
4. ในส่วนของเงื่อนไขอื่นๆ นั้น ผู้วิจัยเห็นว่า ควรกำหนดระยะห่างของกาสิโนไว้ให้ชัดเจนว่าไม่อยู่ใกล้สถานที่ใดบ้าง
สรุป
ข้างต้นนั้น คืองานวิจัย และความเห็นของผู้วิจัยท่านหนึ่งเท่านั้น
การพิจารณาในเรื่องนี้ ควรจะต้องคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงของประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยเราด้วยหรือไม่?
หากจะเปิดให้ถูกกฎหมายจริงๆ สถานีที่ตั้ง จะเป็นตัวบอกว่า เราต้องการให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กระจายความมั่งคั่งออกไปสู่พื้นที่ที่ยังไม่มีจุดขายสำหรับนักท่องเที่ยวนัก ก็ต้องกำหนดพื้นที่ให้ไปอยู่ในพื้นที่เป้าหมาย แล้วให้เอกชนลงทุน
พัฒนาสร้างเมืองขึ้นมา
หรือต้องการหาเงินจากผู้เล่น อำนวยความสะดวกให้การเล่นมากที่สุด ก็เปิดกาสิโนตั้งไว้ในเมืองท่องเที่ยวที่มีจุดขายอื่นๆ อยู่แล้ว มีความสะดวกในโครงสร้าง
พื้นฐานอยู่แล้ว
ผู้บริหารประเทศ จะมองว่ากาสิโน เป็นเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจประเทศจริงๆ หรือแค่เครื่องมือเซ็งลี้ให้เอกชนโกยเงินเข้ากระเป๋า?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี