รัฐบาลใดก็ตามที่หิวเงินตราจากคนต่างประเทศมากๆ ก็มักใช้วิธีการง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้ความสามารถ ไม่ต้องใช้ความคิด และไม่ต้องใช้สติปัญญา เพราะไม่มีสติปัญญา หนทางง่ายๆ ของรัฐบาลก็คือ Visa Free หรือการอนุญาตให้คนต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องขอ Visa 

ก็ไม่ใช่เรื่องผิดประการใด หากนโยบาย Visa Free จะเปิดให้เฉพาะกับผู้คนจากประเทศที่มีมาตรฐาน และคนมีคุณภาพ แต่สำหรับการเปิดประเทศแบบอ้าซ่า เพราะหวังแค่นับหัวชาวต่างชาติ (count heads) ที่เดินทางเข้าประเทศ ตามนโยบายไร้สติของรัฐบาลบางชนิดที่เน้นการนับหัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ไม่เคยดูให้ลึกซึ้ง
ว่า คนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศนั้น เป็นคนดีหรือคนเลว เป็นคนที่เข้ามาแล้วไม่สร้างปัญหา หรือเป็นพวกอาชญากรข้ามชาติ เป็นคนที่เขามาแล้วตลอดวันใช้เงินแค่เพียงซื้อน้ำเปล่ากินประทังชีวิต แล้วก็หาที่นอนตามแหล่งซุกหัวนอนราคาถูก 

ไม่มีประโยชน์ใดๆ กับการนับหัวคนต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ ต่อให้พวกเขาเข้ามาจนแน่นประเทศ โดยมีจำนวน 40-50 ล้านคน แต่ทว่าพวกเขากลับไม่ได้ใช้จ่ายในระดับที่ดีที่น่าพอใจที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นตามมา เพราะการที่คนต่างชาติเข้ามาในประเทศมากๆ ก็คือการเข้ามาใช้ทรัพยากรของประเทศเรา ซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ผลิตขยะต่างๆ เป็นจำนวนมากทิ้งไว้ในประเทศ ทำให้เป็นภาระของเราทุกคนที่ต้องช่วยกันกำจัดขยะและสิ่งปฏิกูลจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไร้คุณภาพ 

ประเทศไทยมีความสามารถแสวงหารายได้เข้าประเทศด้วยกรรมวิธีใดบ้าง เรามีความสามารถในการผลิตสินค้าทันสมัยที่นานาชาติต้องการได้หรือไม่เราสามารถส่งสินค้าเกษตรไปจำหน่ายในตลาดโลกโดยที่ไม่มีคู่แข่งจริงหรือ ตอบว่าไม่ใช่เลย เพราะศักยภาพด้านการผลิตสินค้าทันสมัยของเราอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ดังนั้น รัฐบาลไทยในช่วงประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา จึงเน้นหารายได้เข้าประเทศด้วยการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวให้มากขึ้นดังพบว่าในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากถึงประมาณ 40 ล้านคน จึงทำให้รัฐบาลในยุคนั้นตาโต เพราะเห็นว่าจะได้เงินจำนวนมหาศาลจากนักท่องเที่ยว

แต่เมื่อเกิดปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลกธุรกิจท่องเที่ยวและบริการของไทยเสียหายจนเข้าสู่สภาวะล่มสลาย ถึงแม้ปัญหาโควิด-19 จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้ามาเที่ยวไทยมากมายเหมือนดังเคย แต่ถึงกระนั้น รัฐบาลไทยก็ยังคงตั้งตารอคอยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยให้มากเหมือนดังเคย ครั้นเมื่อเขาไม่มา รัฐบาลไทยก็เลยต้องออกมาตรการ Visa Freeแบบหว่านดะไม่เลือกคุณภาพ เพราะคิดแค่เพียงว่าขอให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้าไทยมากๆ 

เมื่อบ้านของเราเปิดประตูอ้าซ่า ใครเข้ามาก็รับหมด ไม่เลือกว่าคนดีหรือคนชั่ว ต่อให้เป็นแก๊งอาชญากรก็ไม่สนใจ สุดท้ายเมื่อประตูบ้านเปิดอ้ามากๆ โดยไม่มีการกลั่นกรองคนเข้าประเทศให้ดี ก็จึงบังเกิดปัญหาอาชญากรรมเต็มบ้านเต็มเมือง มีทั้งแก๊งจีนเทา แก๊งมาเฟียรัสเซีย และอีกสารพัดแก๊งโดยบรรดาแก๊งต่างๆ ได้เข้ามากินมานอน มาสร้างความเดือดร้อนให้ทั้งคนไทยและคนทั่วโลก นอกจากแก๊งต่างๆ หากินในไทยแล้ว ยังข้ามไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศต่างๆ รอบเมืองไทย อาทิ เมียนมา กัมพูชา เป็นต้น

จากความหวังที่ว่า Visa Free จะช่วยให้ประเทศมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นแต่กลับกลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วกลับมีมาเฟียเข้ามาเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วรัฐบาลไทยก็ไม่มีปัญญาปราบปรามมาเฟีย ก็จึงจำเป็นต้องเปิดบ้านให้ผู้กำจัดมาเฟียเข้ามาสำแดงอิทธิฤทธิ์ ราวกับว่าประเทศไทยเป็นดินแดนที่เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้กับประเทศที่สามารถกำราบและกำจัดมาเฟียได้ 

แม้จะรู้ว่ามีปัญหามากมายจากนโยบาย Visa Free แต่รัฐบาลไทยก็ยังไม่สำเหนียก แต่ยังคงหิวเงินจากต่างชาติต่อไป เพราะว่าสิ้นไร้ปัญญาสร้างรายได้ด้วยการใช้สติปัญญาผลิตสินค้าทันสมัยที่โลกต้องการ ดังนั้น ก็จึงยังคงใช้นโยบาย Visa Free เรื่อยไป แม้จะรู้ว่ามันเป็นนโยบายดึงมาเฟียเข้าประเทศก็ตาม