โดยส่วนตัวมีความเชื่อมานานแล้วว่า กองกำลังผสมกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาไม่สามารถยึดเมืองเล่าก์ก่าย และหลายเมืองทางเหนือรัฐฉานได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนทางกำลังทหารและอาวุธจากจีนแผ่นดินใหญ่
วันนี้มีความเชื่อครั้งใหม่ว่า กองกำลังติดอาวุธจีนอาจสนธิกำลังกับกองทัพเมียนมา มากำจัดกะเหรี่ยงสีเทา ที่สร้างความมั่งคั่งจากการสร้างเมืองบาปที่เมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา ซึ่งรุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมาจนไม่มีทีท่าจะหยุดยั้งได้ ในที่สุดจีนแผ่นดินใหญ่ ส่ง “หลิว จงอี้” มือปราบพระกาฬ มาจัดการได้ระดับหนึ่ง
หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้เวลาประมาณสองเดือนเทียวไปเทียวมา ระหว่างประเทศไทย เมียนมาและ สปป.ลาว โดยระบุว่า มาตามข้อตกลงความร่วมมือพหุภาคี จีน ไทย เมียนมา และประเทศในภูมิภาคอาเซียน ให้ร่วมกับปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่มีฐานปฏิบัติการใหญ่ ค้ามนุษย์ บ่อนการพนันค้ายาเสพติด ฟอกเงิน และหลอกลวงฉ้อโกงทางไซเบอร์ หรือคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองชเวโก๊กโก่ และ KK Park ในเขตเมียวดี
หลังจากประสานงานสามฝ่ายจีน ไทยเมียนมา ซึ่งสามารถช่วยเหลือคนที่อ้างว่า ถูกหลอกให้ไปทำงานในบ่อนการพนันและคอลเซ็นเตอร์ออกมาได้ 2,000 กว่าคน จาก 23 สัญชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีนกว่าหนึ่งพันคน ที่หลิว จงอี้ ถือว่าประสบความสำเร็จในเฟสแรกได้ระดับหนึ่งจึงปิด Job ด้วยการจัดเครื่องบินจากจีน 16 เที่ยวบิน มารับคนจีน 800 คน กลับจีนแผ่นดินใหญ่โดยใช้เวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
หลิว จงอี้ คงรู้นิสัยถาวรของรัฐบาล และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่่ในภูมิภาคนี้ว่า ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แบบไฟไหม้ฟาง พอเรื่องเงียบก็ปล่อยให้เมืองบาปฟื้นชีพขึ้นมาใหม่จีนแผ่นดินใหญ่ จึงผลักดันให้รัฐบาลทหารเมียนมาออกกฎหมายให้จีนจัดตั้ง กองกำลังติดอาวุธขึ้นในสหภาพเมียนมาอย่างถูกกฎหมาย ในนาม#บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน
สำนักข่าวอิรวดี รายงานเมื่อ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ว่า รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศใช้กฎหมายอนุญาตให้บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน จัดตั้งในเมียนมาได้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ากฎหมายฉบับนี้เขียนขึ้นเพื่อเอื้อให้จีน จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธในเมียนมาได้ทั่วประเทศ
สำนักข่าวอิรวดี ให้รายละเอียดว่า รัฐบาลทหารเมียนมาออกกฎหมาย บริการรักษาความปลอดภัยเอกชน ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทรักษาความปลอดภัยของจีน จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของจีนในประเทศเมียนมา และโครงการที่เกี่ยวข้องกับการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (belt and road)
เป็นที่น่าสังเกตว่ากฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ 2 วัน หลังจากรัฐมนตรีมหาดไทยเมียนมาพบกับหลิว จงอี้ ในเมืองเมียวดี ทั้งๆที่รัฐบาลทหารเมียนมาลงนามในความเข้าใจ ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยร่วมทุนกับจีน ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2567
แม้กฎหมายอนุญาตให้บริษัทต่างๆ ยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยได้ แต่ดูเหมือนว่า กฎหมายเขียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้จีนซึ่งเป็นพันธมิตรไม่กี่ประเทศของเมียนมา ปักกิ่งกดดันตลอดเวลา ให้รัฐบาลทหารเมียนมาคุ้มครองโครงการต่างๆ และธุรกิจของจีน ตลอดถึงรักษาความปลอดภัยให้ลูกจ้างชาวจีนในเมียนมา ปักกิ่งเสนอตลอดมาให้ร่วมทุนจัดตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย
ในห้วงเวลา 4 ปี รัฐบาลทหารสูญเสียพื้นที่ควบคุมเป็นจำนวนมาก ใกล้ชายแดนจีน ทางเหนือและทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมียนมา รวมทั้งพื้นที่ในรัฐยะไข่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นพื้นที่ซึ่งมีความสำคัญต่อโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มชาติพันธุ์ และขบวนการปฏิวัติประชาชน จีนจึงตัดสินใจส่งบริษัทรักษาความปลอดภัยของตัวเองไปคุ้มครองดูแลความปลอดภัย
นักสังเกตการณ์กล่าวว่า จุดเด่นของกฎหมาย คือ อนุญาตให้บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนของจีน จัดตั้งได้ทั่วประเทศ ทุกที่ซึ่งมีโครงการของจีน ในขณะที่โครงการต่างๆ ของจีนกระจายกว้างไกลออกไปทั่วประเทศเมียนมา และบริษัทรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ มิใช่เพียงแต่คุ้มครององค์กร โครงการ และบริษัทจีนเท่านั้น แต่รวมไปถึงกิจกรรมสาธารณะที่คนจีนเกี่ยวข้องตลอดถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นสมบัติของคนจีน
นอกจากนั้น กฎหมายฉบับนี้บัญญัติด้วยว่า ถ้ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นในสถานที่ซึ่งอยู่ในความดูแลของบริษัทรักษาความปลอดภัย หน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัท มีอำนาจหน้าที่ระงับเหตุ และจับตัวคนร้ายส่งให้ตำรวจเมียนมา ณ สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุด นั้นหมายความว่า การประท้วงหน้าสถานทูตจีน หรือก่อกวนสร้างความวุ่นวายในโรงงานของจีน หรือกิจกรรมใดๆ ที่รบกวนโครงการของจีน จะถูกจัดการอย่างเข้มงวด ผู้สังเกตการณ์กล่าว
และกฎหมายระบุผู้ให้ ลูกจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยต่างชาติ สามารถครอบครองอาวุธปืนได้โดยการเห็นชอบของกระทรวงกลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่มีเงื่อนไขว่า 75% ของลูกจ้างต้องถือสัญชาติเมียนมา และลูกจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยต้องไม่เป็นทหารกองทัพต่างชาติ
ซึ่งเงื่อนไขข้อนี้ปฏิบัติตามได้ง่ายเนื่องจาก ชาติพันธุ์ว้า โกก้าง ตะอาง ปะโอ และ กองกำลังกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์อื่นที่มีเชื้อสายจีนสัญชาติเมียนมา สามารถเป็นลูกจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนของจีนได้
บทผนวกของกฎหมาย บริการรักษาความปลอดภัยเอกชน ระบุด้วยว่า บริษัทรักษาความปลอดภัย มีหน้าที่ตามกฎหมายในการสนับสนุนความมั่นคง และผู้บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลทหารเมียนมา ในปฏิบัติการต่างๆ รวมทั้งสนธิกำลังกับกองกำลังรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลทหาร และรายงานข้อมูลข่าวสารที่อาจคุกคามความปลอดภัยรัฐบาลโดยไม่บกพร่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่รัฐบาลทหารเมียนมาเป็นอย่างมาก
นักสังเกตการณ์กล่าวว่า รัฐบาลทหารเลือกออกกฎหมายบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน เพื่อไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญที่ห้ามมิให้มีกำลังทหารต่างชาติในสภาพเมียนมา และคณะกรรมการกำกับดูแลบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน ที่มีรัฐมนตรีมหาดไทยเป็นประธาน และอธิบดีกรมตำรวจเป็นรองประธานโดยตำแหน่ง
ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า ประเทศอื่นๆทั่วโลก บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนของจีน มีหน้าที่คุ้มครองโครงการ และพนักงานชาวจีนในต่างประเทศเท่านั้น ในเมียนมามีคำถามว่ารัฐบาลทหารมีอิทธิพลเหนือบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนแค่ไหน ในเมื่อรัฐบาลจีนสัญญาจะจัดหางบประมาณให้รัฐมนตรีมหาดไทย 5 ล้านหยวน (ประมาณ 23,079,800.00 บาท) จึงเกิดคำถามว่า รัฐบาลทหาร มีอิทธิพลเหนือบริษัทรักษาความปลอดของจีน มากน้อยแค่ไหน ในท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าเสี่ยงต่อการเสียอธิปไตยของชาติ
ทั้งหมดเป็นข้อมูลจากหนังสือพิมพ์อิระวดี ที่เป็นสื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา แต่ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน เชื่อว่ากองกำลังติดอาวุธของจีน ในนามบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน พร้อมที่จะสนธิกำลังกับกองทัพเมียนมา ยาตรามาทำสงครามกับกะเหรี่ยงสีเทา ใกล้ชายแดนไทย
นับเป็นปฏิบัติการกวาดล้างเมืองบาปเฟสสองต่อจากมือปราบพระกาฬ หลิว จงอี้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่ต้องติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิดอย่าได้กะพริบตาเป็นอันขาด
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี