แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระ และข้อเท็จจริง... “กรณีตากใบ” กลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง หลังจาก “ทักษิณ” ลงใต้ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเอ่ยปากคำว่า “ขออภัย”!!... “กรณีตากใบ” คืออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร บันทึกเอาไว้ตรงนี้?....กรณีตากใบ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยเริ่มต้นมีเชื้อไฟมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2547 เมื่อสมาชิกของกลุ่มมุสลิมติดอาวุธได้โจมตีที่ตั้งแห่งหนึ่งของกองทัพ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ประกาศขยายการใช้กฎอัยการศึกจากเดิมที่มีประกาศอยู่แล้วในบางพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี...
■■ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งได้ชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการคุมขังประชาชน 6 คน ที่ถูกกล่าวหาว่ามอบอาวุธให้กับผู้ก่อความไม่สงบ... เมื่อผู้ชุมนุมขว้างปาก้อนหินและพยายามจะบุกสถานีตำรวจ กองกำลังความมั่นคงได้ใช้แก๊สน้ำตาและยิงตอบโต้ มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตอย่างน้อย6 ศพ และถูกจับกุมประมาณ 1,300 คน ก่อนจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ที่ซึ่งคนจำนวนมากถูกทุบตี ในจำนวนคนที่ถูกจับกุมมีคนอย่างน้อยอีก 79 คนเสียชีวิต การชันสูตรพบว่าเกิดจากการหายใจไม่ออก หมดสติกะทันหันจากความร้อน และการชักซึ่งน่าจะเกิดจากสภาพที่แออัดเกินไประหว่างการเดินทางและอยู่ในรถบรรทุกทหารกว่า 6 ชั่วโมง และจากการถูกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม เสียชีวิตรวม 85 ศพ...
■■ คดีนี้ มีผู้ต้องหาหลายคน และต่างพากันหลบหนีจนคดีหมดอายุความไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งผู้ต้องหาสำคัญลำดับต้นๆ ก็คือ “พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และอดีตสส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งหนีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ...
■■ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. “ทักษิณ” ใช้จังหวะโอกาสเดินทางไปที่ อ.เจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เอ่ยปากพูดถึง “กรณีตากใบ” ว่า“เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมากถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย”...
■■ มีหลายเสียง หลายความเห็นตามมา หลัง “ทักษิณ” ใช้คำว่า “ขออภัย” แทนที่จะใช้คำว่า “ขอโทษ” รวมทั้งเหตุใดถึงมาขออภัยเอาในเวลานี้ หลังจากคดีหมดอายุความไปแล้ว...
■■ อย่างไรก็ตาม มีการบันทึกเอาไว้ว่า “ทักษิณ” เคยพูดถึง “กรณีตากใบ” มาแล้ว เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2565 ในวาระครบรอบ 18 ปี เหตุการณ์ตากใบ มีใจความว่า “ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งกับครอบครัวผู้สูญเสีย ขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ว่า วันนั้นขณะเกิดเหตุ ได้รับรายงานขณะตีกอล์ฟย่านบางนา ว่า มีประชาชนมาล้อมสถานีตำรวจ ขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าเอาอาวุธไปส่งให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จึงมาล้อมขอเอาตัวออกไป ซึ่งตำรวจถามผมว่าจะทำยังไง ผมบอกว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ ตำรวจต้องดำเนินคดีตามกฎหมายก่อน ผมพูดแค่นี้ หลังจากนั้นก็ตีกอล์ฟต่อ มารู้อีกทีก็หลังเหตุการณ์เคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมและมีผู้เสียชีวิต ซึ่งยืนยันได้ว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ...
■■ ผมถือว่า ถึงแม้ผมไม่ได้สั่งการ แต่ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ผมต้องขอโทษ ขออภัย แก่บรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่สูญเสียและผู้ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนั้นด้วย เพราะจริงๆ ที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างแรงของการลำเลียงผู้ต้องหาแบบนั้น”...
■■ “รอมฎอน ปันจอร์” สส.พรรคประชาชน ให้แง่มุมคิดเอาไว้น่าสนใจว่า “ทักษิณ” มาพูดตอนนี้ มันเบาไปแล้ว มีคำถามใหญ่ๆ คือ หนึ่งในจำเลยที่ศาลรับฟ้องแล้ว เป็นอดีตแม่ทัพภาค 4 และเป็น สส.พรรคเพื่อไทย ถ้า “ทักษิณ” จริงใจมากพอ ก็ต้องพูดตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่คดียังไม่ขาดอายุความ และก็ต้องแสดงความพยายามทำทุกวิถีทางให้ สส.ในพรรคเพื่อไทย ที่ตกเป็นจำเลยของคดีนี้ อย่าง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ก็พบว่า ทุกคนในพรรคเพื่อไทยได้พยายามทำเรื่องนี้น้อยไปหน่อยเมื่อมาพูดขอโทษ ขออภัยในวันที่คดีมันจบไปแล้วจึงทำได้แค่ขออภัยในสิ่งที่กระทำที่ผิดพลาดเฉยๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกถึงความยุติธรรมที่ครอบครัวผู้สูญเสียควรได้รับ...
■■ เช่นเดียวกับ “อังคณา นีละไพจิตร”สว. ยิงหมัดตรงไปที่สทร.ว่า “ขออภัยตากใบ แล้วจะคืนศพคนที่ถูกอุ้มฆ่าให้ญาติไหม จะคืนความเป็นธรรมโดยนำคนผิดมาลงโทษไหม หรือแค่ขอโทษตอนหมดอายุความ”...■■
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี