คำแถลงการณ์ของสถานทูตจีน เป็นที่ยืนยันว่าสื่อไทยตกเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก และเอ็นจีโอ ที่กินอยู่กับผู้ลี้ภัย ทุกวันนี้เอ็นจีโอ พรรคส้มและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง มุ่งเน้นไปที่ต่อต้านไม่ให้รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ เข้าเมืองผิดกฎหมายกลับไปให้จีน
โดยที่ไม่สนใจว่าผู้ลี้ภัยเหล่านั้นหนีจากประเทศจีน เพราะเหตุใด ก่ออาชญากรรมแล้วหนีมาหรือไม่ หรือมีใครองค์กรไหน ชักนำมาประเทศไทย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อใส่ร้ายจีน และเป็นที่น่าสังเกตที่นักเคลื่อนไหวทั้งหลาย ไม่ให้ความสนใจต่ออาชญากรข้ามชาติตัวฉกาจ เช่น นาย “เฉอ จื้อเจียง”เจ้าพ่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าของกิจการกาสิโนครบวงจรทั้งในกัมพูชาและเมียนมา
นายเฉอ ถูกจับกุมตัวขณะเข้ามาในประเทศไทย โดยทางการจีนต้องการตัวเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่เจ้าตัวร้ายถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งเจ้าตัวพยายามอุทธรณ์คดีไม่ให้ส่งตัวไปจีน และนักเคลื่อนไหวไทยก็สนับสนุนคนร้ายอย่างมีนัย
นายเฉอ ถูกจับกุมในกรุงเทพฯ ปี 2565 ตามหมายจับของตำรวจสากลซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของรัฐบาลจีน ที่กล่าวหาว่า นายเฉอ เปิดเว็บพนันผิดกฎหมายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นเจ้าพ่อแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ หรือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ปัจจุบันนี้ ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม พร้อมกับบทบาทล่าสุดเป็นหัวหน้าอาณาจักรกาสิโน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และการท่องเที่ยวครบวงจร มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเมืองชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา
นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชนอ้างว่า ประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายสากล แต่ในความเป็นจริงหากไม่มีเรื่องลับลมคมใน ไม่มีนักเคลื่อนไหวหนุนหลังผู้ร้าย ประเทศไทยสามารถส่ง นายเฉอ ให้จีนได้โดยใช้ช่องทางต่างตอบแทน
แต่ก็อย่างว่า ประเทศไทย คือ ประเทศไทยอะไรที่ยากทำให้ง่ายได้ อะไรง่ายก็ทำให้เป็นเรื่องยากเข้าไว้ ทางการจีนจึงได้ตอกหน้าจนคนไทยหน้าชามาหลายเรื่องแล้ว
โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าว วันที่ 29 มกราคม
คำถาม : มีรายงานของสื่อไทยว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย กล่าวว่าปัจจุบันรัฐบาลจีนรื้ออัลกุรอานและภาษาอาหรับออกทั้งหมด ชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับไปไม่มีใครรู้ชะตากรรมของพวกเขา เชื่อว่าถูกฆ่าตายไปแล้วทั้งหมด ทางสถานทูตจีนมีความเห็นอย่างไร
คำตอบ : สถานทูตจีนประจำประเทศไทยคัดค้านอย่างหนักต่อคำโกหกอย่างนี้ที่จงใจใส่ร้ายป้ายสีประเทศจีน และแสดงจุดยืนดังต่อไปนี้:
1.“ทางประเทศจีนเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชน” “พลเมืองจีนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา” และ “ทางประเทศจีนปกป้องกิจกรรมทางศาสนาตามปกติ” สิ่งเหล่านี้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญจีนและเป็นนโยบายของรัฐบาลจีนด้วย เสรีภาพในการนับถือศาสนาของชาวมุสลิมในซินเจียงของจีนได้รับการรับประกันอย่างสมบูรณ์คำกล่าวที่ว่า “ปัจจุบันรัฐบาลจีนรื้ออัลกุรอาน และภาษาอาหรับออกทั้งหมด” นั้นไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงอย่างเด็ดขาด
2.เมื่อ 10 กว่าปีก่อน มีพลเมืองจีนบางส่วนถูกยุยงและหลอกลวงโดยกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มกำลังต่อต้านจีนในต่างชาติ และลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ถูกส่งกลับประเทศจีนนั้นได้รับการจัดการตามกฎหมาย สิทธิตามกฎหมายของพวกเขา ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างสมบูรณ์ และพวกเขาส่วนใหญ่ก็ได้กลับคืนสู่สังคม และดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข คำกล่าวที่ว่า “ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของพวกเขา เชื่อว่าถูกฆ่าตายไปแล้วทั้งหมด” เป็นการกลับเท็จเป็นจริง ปั้นน้ำเป็นตัว และเป็นคำโกหกอันชั่วร้าย
พิเคราะห์คำถาม ชัดเจนว่าผู้ถามไม่มีความรู้เรื่องอุยกูร์ แต่ถามไปตามข่าวที่อ่านจากสื่อตะวันตก ในฐานะที่ทำงานกับสำนักข่าวตะวันตกกว่า 35 ปี ขอทำความเข้าใจกับผู้อ่านว่า คนที่เคยทำข่าวกับสื่อตะวันตกกับ คนอ่านข่าวจากสื่อตะวันตกนั้นมีความเข้าใจในเรื่องราวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
บรรดากูรู นักวิเคราะห์ระดับปรมาจารย์ข่าวต่างประเทศ ที่ติดตามข่าวจากสื่อตะวันตก กับนักข่าวที่ทำข่าวกับสำนักข่าวตะวันตก มีความเข้าใจในเนื้อข่าวต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น มีรายงานข่าวว่า ทหารพม่าสังหารชาวบ้านที่หนีจากเมืองลอยเกาะในรัฐคะยามายังชายแดนไทย ตายทั้งผู้โดยสารคนขับรวม 39 คน
กูรูข่าวต่างประเทศก็ระงับข่าวนั้น ประณามความโหดร้ายของทหารพม่า แต่คนที่เคยทำงานกับสำนักข่าวตะวันตกจะรู้ดีว่า พื้นที่ป่าเขาจากเมืองลอยเกาะมาแม่ฮ่องสอนเป็นทางเดินเท้าในป่าเขา แล้วรถบัสขนาดใหญ่บรรทุกผู้โดยสาร 39 คน วิ่งไปได้อย่างไร
หรือที่มีรายงานว่าผู้พลัดถิ่นในพม่าหนีภัยสงครามนับแสนนับล้านคน ผู้ที่เคยทำข่าวกับสำนักข่าวตะวันตกจะรู้ว่า ผู้พลัดถิ่นที่วนเวียนกันให้หน่วยบรรเทาฝรั่งหากินนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนหน้าเดิม ที่วนเวียนกันอยู่อย่างนั้นนานหลายสิบปีแล้ว
ผู้อ่านอาจมีคำถามว่า แล้วสื่อตะวันตกเสนอข่าวอย่างนั้นทำไม?
ต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายว่าหน่วยบรรเทาหรือเอ็นจีโอฝรั่ง ที่ทำมาหากินกับผู้ลี้ภัย ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างองค์กรใดองค์กรหนึ่งของยูเอ็น ฝรั่งพวกนี้สามารถผ่านเข้าออกศูนย์พักพิงชั่วคราวได้ และในศูนย์พักพิงส่วนใหญ่มีนักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ปะปนอยู่กับผู้ลี้ภัยพลเรือน นักรบพวกนี้แหละที่พาฝรั่งลูกจ้างหน่วยบรรเทาภัยต่างๆ เข้าไปในหมู่บ้านกลุ่มชาติพันธุ์
เมื่อเอ็นจีโอฝรั่ง เข้าไปถึงพื้นที่เปราะบางในข้ออ้างเป็นลูกจ้างยูเอ็น ลูกจ้างยูเอ็นเหล่านี้จึงพยายามชักจูงให้มีผู้ลี้ภัย หรือผู้พลัดถิ่นมาอยู่ในศูนย์พักพิงพวกเขามากเท่าไหร่ ปัจจัยก็ไหลเข้ากระเป๋าลูกจ้างหน่วยบรรเทามากเท่านั้น
ในเมื่อลูกจ้างหน่วยบรรเทาเข้าถึงศูนย์พักพิงชั่วคราว เข้าถึงเขตจรยุทธ์กลุ่มชาติพันธุ์ พวกเขาก็นำข่าวจริง (ส่วนน้อย) ข่าวปั่นกระแสส่วนใหญ่ออกมาให้สื่อตะวันตก ซึ่งมีธงล่วงหน้าว่า เสนอแต่ข่าวในแง่ลบรัฐบาลทหารพม่า ที่ยึดอำนาจจาก ออง ซาน ซู จี ซึ่งเป็นวีรสตรีประชาธิปไตยของพวกเขา
เรื่อง เอ็นจีโอฝรั่ง ขายข่าวให้สื่อตะวันตก ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงทั้งในพม่า และระหว่างสงครามกลางเมืองกัมพูชาย้อนกลับไปสงครามกลางเมืองกัมพูชาเมื่อกว่า 40 ปีก่อน มีฝรั่งลูกจ้างองค์การกาชาดสากล ที่สามารถเข้าถึงฐานที่มั่นในป่าของเขมรสามฝ่ายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้
ในฐานะเข้าไปช่วยเหลือของหน่วยงานบรรเทาเขาจึงเข้า-ออกชายแดนได้สะดวก เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาหารายได้พิเศษโดยการทำข่าวให้ทีวีอังกฤษช่องหนึ่ง
ด้วยความที่คนไทยมีนิสัยเกรงใจฝรั่ง เมื่อเห็นว่า เขาเป็นลูกจ้างหน่วยงานยูเอ็นก็เปิดทางสะดวกให้ในการทำข่าว มีอยู่วันหนึ่งผู้เขียนมีนัดกับแหล่งข่าว ที่จะนำไปพบนายพอล พตผู้เขียนกับช่างภาพ ไปพักในโรงแรมจังหวัดสุรินทร์ รอคนมารับตอนเช้าแต่เมื่อไปถึงด่านชายแดนทหารไม่ให้เราผ่านโดยกล่าวว่า มีสื่อชุดหนึ่งเข้าไปแล้วก่อนหน้าโดยมีทหารไทยนำไป
อดีตลูกจ้างกาชาดสากล ได้สัมภาษณ์ พอล พต เป็นคนสุดท้ายก่อน พอล พต ตายในเวลาต่อมา เขาขายข่าวสัมภาษณ์ พอล พต ได้เงินมากพอร่วมทุนกับเพื่อนช่างภาพทีวีสถานีหนึ่งของอังกฤษ เปิดสำนักข่าวเป็นของตัวเอง ก่อนหายตัวไปจากประเทศไทย
ยกเรื่องนี้มาเล่า เพราะได้ข่าวว่าทุกวันนี้มีลูกจ้างหน่วยบรรเทาต่างๆ ที่เป็นฝรั่ง ทำหน้าที่ปั่นข่าวสร้างความสับสนในประเทศพม่าเหมือนกับอดีตลูกจ้างกาชาดสากลทำในกัมพูชาสมัยสงครามเขมรสามฝ่าย ข่าว 90%ที่ออกมาจากพม่าทั้งจากชายแดน และข่าวจากในประเทศพม่าเชื่อว่ามาจากลูกจ้างหน่วยบรรเทาต่างๆ จึงไม่ประหลาดใจ ที่นักเคลื่อนไหวในประเทศไทยต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า เนื่องจากว่าพม่าวุ่นวายมากเท่าไหร่ เอ็นจีโอก็มีรายได้เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
ข่าวปั่นกระแสรัฐบาลทหารพม่าทารุณโหดร้ายกับพลเรือนพม่าฉันใด ข่าวปั่นกระแสรัฐบาลจีนทารุณโหดร้ายกับอุยกูร์ก็เป็นฉันนั้น เพราะมันเป็นข่าวปั่นกระแสโดยสื่อตะวันตกที่ใช้นักเคลื่อนไหวในประเทศไทยเป็นเครื่องมือขยายผลได้ง่าย คอลัมน์ทวนกระแสข่าว เสนอบทความวิกฤตการเมืองพม่าเป็นระยะ แต่ไม่เคยนำข่าวปั่นกระแสฝ่ายต่อต้านยึดเมืองโน้นนี้นั้น หรือข่าวเครื่องบินรบกองทัพอากาศพม่าทิ้งระเบิดใส่พลเรือนตายเป็นสิบเป็นร้อยคนมาขยายความ
นี่คือความแตกต่างระหว่างคนอ่านข่าวจากสำนักข่าวตะวันตก กับคนเคยทำข่าว กับสำนักข่าวตะวันตก ที่ตำราบอกว่า อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ตรวจสอบด้วยตัวเอง ถึงต้นตอของข่าวว่า มีความเป็นมาอย่างไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี