จาก “กาสิโนอีแอบ” ล่าสุด เปิดเผยเจตนาตัวตนแท้จริงออกมาแล้วว่า ต้องการให้คนไทยนี่เองเข้าไปเล่นกาสิโน
1. ก่อนหน้านี้ รัฐบาลพยายามจะหลบๆ เลี่ยงๆ อ้างว่าไม่ได้เจตนาจะเปิดบ่อนกาสิโน โดยซุกไว้ในสถานบันเทิงที่มีกิจกรรมหลายๆ อย่าง
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า “...เรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทยและเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุน เพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการ คือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า...”
คนเป็นขุนคลัง ต้องพูดจาเชื่อถือได้ มิใช่หรือ?
2. ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวหลังหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
โดยมีการยกเลิกเงื่อนไขให้คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโนต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท
เปลี่ยนเป็นกำหนดว่าคนไทยที่จะเข้าเล่นในกาสิโนได้ต้องมีการยื่นแบบชำระภาษีย้อนหลัง 3 ปี
แต่ยังคงเงื่อนไขการเก็บค่าธรรมเนียมค่าเข้าเล่นในกาสิโนครั้งละ 5,000 บาท เหมือนเงื่อนไขเดิม
“...คลังไปดูข้อมูลแล้วพบว่า มีคนฝากเงินเกิน 50 ล้านบาท มีแค่ 10,000 บัญชี ซึ่งเป็นคนจำนวนน้อย ทำให้เงื่อนไขนี้จะผลักดันคนส่วนใหญ่ที่ต้องการเล่นกาสิโนไปเล่นในที่อื่น หรือยังเล่นพนันผิดกฎหมาย จึงมีการแก้ไขในเรื่องนี้ ซึ่งคลังและกฤษฎีกาเห็นร่วมกัน และจะนำเข้าให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเร็วที่สุด” - นายจุลพันธ์ กล่าว
เท่ากับว่า ขัดแย้งกับแนวทางหลักการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี เคยแจ้งกับประชาชนคนไทยเอาไว้โดยสิ้นเชิง
3. หากรัฐบาลเดินหน้าทำตามที่ รมช.คลัง นายจุลพันธุ์เปิดเผยจริง ก็เท่ากับว่า รัฐบาล กระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ล้มละลายความน่าเชื่อถือ
หมดสิ้น
โกหกประชาชน หน้ามืดเต็มที่ กลัดมันเต็มกลืน
ถึงขั้นจะเปิดกาสิโน เพื่อให้คนไทยเข้าไปเล่นกันแล้ว
ไม่สนใจข้ออ้างว่าจะให้ต่างชาติมาเล่น หรือจะสร้าง Man -made destination
ฯลฯ
ความจริง คือ ต้องการจะเปิดกาสิโน เปิดบ่อนถูกกฎหมายมาตั้งแต่ต้น
เพียงแต่ขี้ขลาด กลัวถูกต่อต้าน เลยทำเป็นกาสิโนอีแอบ เข้าไปอยู่ในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
เพราะกาสิโนมันทำไม่ได้ เพราะขัดพ.ร.บ.
และกาสิโนในเมืองไทยก็เคยมีบทเรียนในอดีต จน ร.5 ทรงให้ยกเลิกบ่อนกาสิโนมาแล้ว
รัฐบาลทักษิณคิด อุ๊งอิ๊งค์ทำ จึงทำเป็นว่า มีกิจการประเภทต่างๆ รายรอบ ได้แก่ 1.ห้างสรรพสินค้า 2.โรงแรม 3. ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์ 4.สนามกีฬา 5.ยอชต์และครูซซิ่งคลับ 6. สถานที่เล่นเกม 7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ 8.สวนสนุก 9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP และ 10.กิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
ใบอนุญาต ครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท
รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท
สุดท้าย แก้ผ้าตัวเองล่อนจ้อน หงี่เต็มที จะเอาลูกค้าคนไทยชัดเจน !
4. ปัญหาจะตามมาสารพัด
เหมือนที่ประธานาธิบสี จิ้นผิง เคยถามด้วยความห่วงใย เพราะจีนเจอบทเรียนมาแล้ว
เมื่อคนไทย คือ กลุ่มลูกค้าสำคัญ แค่แสดงการเสียภาษี ไม่กำหนดรายได้ขั้นต่ำด้วย ปัญหาการฟอกเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกง ค้ายาเสพติด และสารพัดเงินผิดกฎหมาย ทำได้ง่ายๆ ผ่านกาสิโนและบริษัททัวร์พนัน
การฟอกเงินแบบดั้งเดิม - บริษัททัวร์พนันจะขนเงินสดเข้าไปในบ่อนเพื่อเปลี่ยนเป็นชิป นำชิปไปเล่นพนันจำนวนหนึ่งแล้วแลกชิปที่เหลือทั้งหมดเป็นเงินสด เพียงเท่านี้เงินผิดกฎหมายก็จะกลายเป็นเงินสะอาด
การฟอกเงินยุคดิจิทัล - เงินฉ้อโกงที่โอนผ่านบัญชีต่างๆ จะไปจบที่บริษัททัวร์พนัน แลกเป็นชิปให้นักพนันวีไอพีใช้เล่นพนันในกาสิโน ทำซ้ำหลายรอบ ใช้เวลาหลายสัปดาห์ แล้วค่อยแลกชิปเป็นเงินซึ่งจะกลายเป็นเงินสะอาด
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยให้ข้อมูลชัดเจนว่า ฟิลิปปินส์มีบทเรียน กาสิโนเป็นช่องทางให้เกิดการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ จนทำให้คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (FATF) ได้ขึ้นบัญชีประเทศฟิลิปปินส์ว่า
อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นแหล่งฟอกเงินหรือ บัญชีสีเทา (Grey List) ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา
5. การแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย ถ้าจะแก้จริงๆ ก็คนละเรื่องกับการเปิดบ่อนถูกกฎหมาย
การแก้ปัญหาพนัน กับการทำพนันให้ถูกกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
ย้ำว่า การทำพนันให้ถูกกฎหมาย คือการอนุญาตให้คนเล่นการพนันได้ ไม่ถูกจับโดยมีเงื่อนไขรายละเอียดบางอย่าง คนเล่นการพนันจะเพิ่มขึ้น ผลกระทบก็ตามมา แลกกับรายได้เข้ารัฐ หรือผลประโยชน์อื่น ฯลฯ
การแก้ปัญหาพนัน สามารถทำได้ โดยผลักดันมาตรการและกลไกในการควบคุมปัญหาการพนัน ควบคู่ไปกับการปราบปรามอย่างเด็ดขาด
ในประเทศไทย ยังไม่มีกลไกในการลดผลกระทบจากพนันเลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่า หากมีการเปิดให้มีบ่อนการพนันถูกกฎหมายแบบนี้ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิต ปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว ชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน และอาจส่งผลทำให้เกิดนักพนันหน้าใหม่มากขึ้น อีกทั้ง นักพนันที่เป็นปัญหา (Problem Gambling) หรือนักพนันที่เป็นโรคติดพนัน (Pathological Gambling) ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม
มีงานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่า การพนันส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและการพัฒนาการของเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะด้านสมอง องค์การอนามัยโลกกำหนดให้พฤติกรรมติดการพนันเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง เรียกว่า โรคติดพนัน (Pathological Gambling) ผู้เล่นจะมีความทุกข์จากการเล่นการพนัน ซึ่งหยุดเล่นไม่ได้และต้องเล่นต่อไป
มีผลกระทบด้านร่างกายหรือสมอง – การเล่นพนันจนติดมีผลทำให้สมองเปลี่ยนแปลงไป ความสามารถในการตัดสินใจลดลง มีการใช้เงินเปลือง ใช้เงินแบบไม่ยั้งคิด มีโอกาสเป็นโรคทางจิตเวช และโรคติดสารเสพติดเพิ่มขึ้น
ยิ่งกับวัยรุ่น การพนันไม่ใช่เกมสนุก แต่เป็นเกมส์ที่สามารถทำลายสมองของเด็ก เพราะถ้าเด็กหรือวัยรุ่นหมกมุ่นหรือติดการพนันส่งผลทำให้สมองส่วนหน้าจะไม่พัฒนาอย่างถาวร ส่งผลต่อระบบคิดและพฤติกรรมที่ติดต่อไปตลอดชีวิต เด็กและเยาวชนจึงเป็นช่วงวัยที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะติดพนันได้ง่ายและถอนตัวได้ยาก
งานวิจัยชี้ว่า การพนันส่งผลกระทบในทางจิตใจของผู้เล่นพนัน โดยผู้เล่นจะแสดงอารมณ์หงุดหงิด หรือก้าวร้าว ไม่สบายใจต่อคนใกล้ชิด มีความรู้สึกไม่มีคุณค่าในตนเอง เพราะพฤติกรรมของตนที่น่ารังเกียจ และเป็นที่เดือดร้อนจนไม่มีใครต้องการ และคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา ผลกระทบต่อจิตใจที่มักพบในผู้เล่นพนัน
หากผู้ติดพนันเสพยาเสพติดร่วมด้วย จะเกิดอาการหงุดหงิดง่าย ก้าวร้าว หรือทำทารุณกรรมกับสมาชิกในครอบครัว เช่น ตบ ตี เพื่อนำเงินหรือทรัพย์สินภายในบ้านไปใช้เล่นพนัน
ผู้ติดพนันจะไม่มีแรงจูงใจในการดำเนินกิจกรรมอื่นๆ นอกจากการเล่นการพนัน ความรู้สึกรักในตัวเองเริ่มลดลง และอาจจะเป็นที่ไม่น่าไว้วางใจจากคนรอบข้าง อาจถูกต่อว่า ตำหนิ และการไม่ได้รับกำลังที่จะพัฒนาตนเอง การกระทำของผู้เล่นพนันทำให้คนรอบข้างเดือดร้อน โดยเฉพาะคนใกล้ชิด ทำให้มีความขัดแย้ง ทารุณกรรม การแยกทาง
หย่าร้าง ทำให้ผู้ใกล้ชิดหรือบุคคลในครอบครัวเกิดความทุกข์และนำมาเป็นสาเหตุของปัญหาในเรื่องต่างๆ ตามมา
ประการสำคัญ ผลกระทบทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ผู้วิจัยระบุว่า คนติดพนันมักประสบปัญหาการเงิน ล้มละลาย เกิดความเสียหายในด้านหน้าที่การงานหรือการเรียน อาจกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทำร้ายผู้อื่น การลักขโมย จี้ ปล้น เพื่อให้ได้เงินมาใช้เล่นพนัน อันเป็นปัญหาที่ส่งผลให้เกิดผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดปัญหาด้านหน้าที่การงาน การเรียน หรืออาชีพ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดการไล่ออกจากงาน และว่างงานบ่อยขึ้น จนต้องไปกระทำความผิดในทางกฎหมายและเป็นปัญหาหนี้สิน ในภาพรวมของประเทศ หากพลเมืองไม่มีคุณภาพ อ่อนแอเรื่องสุขภาพ หรือขาดความสามารถในการทำงาน หรือมีคนว่างงานมากขึ้น ย่อมส่งผลให้รายได้มวลรวมของประเทศน้อยลง
ปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดโดยเฉพาะในการลดผลกระทบจากปัญหาการพนัน
ถ้ารัฐบาลต้องการ “แก้ปัญหาการพนัน” นี่ต่างหาก คือ สิ่งที่ควรทำเร่งด่วนที่สุด
ไม่ใช่มาเปิดบ่อนถูกกฎหมาย เพื่อให้คนไทยเข้าไปเล่น อ้างว่าเป็นสถานบันเทิงครบวงจร
แก้ปัญหาพนัน ไม่ใช่ด้วยการเปิดบ่อนให้เล่นโดยถูกกฎหมาย แต่ต้องเริ่มจากการสร้างกลไกลดผลกระทบจากการพนันที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพเสียก่อน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี