ความจริงปรากฏแล้วว่าเศรษฐกิจไทยยุคนี้ เลวร้ายมาก ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ดูจาก GDP บ่งบอกชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยเลวร้าย การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดูได้จาก GDP เหลือเพียง 2.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรีเคยคุยโวไว้ว่าประชาชนไทยจะมีกิน มีใช้ มีศักดิ์ศรี และ GDP จะโต 5 เปอร์เซ็นต์ แต่คำคุยโวกับความจริงไม่ได้ไปด้วยกัน แต่ถึงกระนั้นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็ยังกล้าบอกว่า ขอให้คนไทยอดทน ก็จึงมีคำถามว่าอดทนอะไร หากต้องอดทน ต้องทนอีกนานแค่ไหน
เราทุกคนรู้ดีว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี การค้าการขายฝืดเคือง การผลิตสินค้าของไทยไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้ เพราะสินค้าไทยไม่ทันสมัย แต่ก็ยังพอจะหายใจหายคอได้บ้างตรงที่การส่งออกของไทยยังค่อนข้างดีอยู่บ้าง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มรถยนต์สันดาปภายใน แล้วก็ยังคงมีความหวังที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงหลั่งไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจำนวนหัวของนักท่องเที่ยวมาก แต่ก็น่าสังเกตตรงที่การใช้จ่ายโดยรวมของท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น เราจึงเห็นหน้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ตามสถานที่ต่างๆ
ไม่ว่าจะแหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า และยังคงอาจจะดีใจอยู่บ้างที่ได้เห็นตัวเลขจาก BOI (Board of Investment) ระบุว่ามีผู้ขอรับการลงทุนในประเทศไทยอยู่ในระดับที่มากพอสมควร
ทีนี้ลองหันไปดูตัวเลขดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ของไทยร่วงหล่นดิ่งนรก ลดลงต่ำกว่า 1,200 จุดไปแล้ว แล้วก็มีแนวโน้มว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะลดลงไปมากกว่านี้อีก นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเทขายหุ้นกันโครมๆ หุ้นไทยหลายตัวดิ่งนรกไม่หยุดไม่หย่อน แมลงเม่าติดดอยแล้วตายคาดอยเป็นจำนวนมาก ส่วนคนที่มีสตางค์ก็ไม่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ขนเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ แล้วปล่อยให้ตลาดหุ้นไทยแห้งเหี่ยวเหงาหงอย
ส่วน SME ของไทยจำนวนไม่น้อยก็ต้องยุติกิจการ เพราะไม่มีสายป่าน ไม่มีเงินลงทุน แถมยังไม่มีตลาดรองรับ เพราะผลิตของแล้วขายไม่ได้ เนื่องจากถูกสินค้าจากจีนเข้ามาทุ่มตลาดอย่างหนัก
เกษตรกรไทยกำลังเผชิญปัญหาหนัก ชาวนาบอกว่าขายข้าวได้ราคาต่ำกว่าเงินที่ลงทุน เพราะขายข้าวได้เกวียนละ 5-6 พันบาทเท่านั้น ในขณะที่ลงทุนไปมากกว่าเงินที่ขายข้าวได้ ดังนั้น จึงทำให้เกษตรกรไทย โดยเฉพาะชาวนามีหนี้สินรุงรังท่วมหัวท่วมหู แล้วความจริงที่ปรากฏคือข้าวไทยขายไม่ออก ไม่มีใครอยากซื้อ เพราะข้าวไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่ง ในขณะที่ข้าวเวียดนาม ข้าวอินเดียมีราคาถูกกว่าไทย ส่วนผลผลิตข้าวไทยเมื่อเทียบต่อไร่ก็พบว่าผลผลิตของข้าวไทยต่ำกว่าของเวียดนาม ในขณะที่คุณภาพข้าวไทยก็ไม่เป็นที่ดึงดูดผู้ซื้อข้าวได้อีกต่อไป
ส่วนอัตราการบริโภคภายในประเทศก็ลดลงทั้งๆ ที่รัฐบาลพยายามหว่านเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดลมหมุนอย่างรุนแรงในระบบเศรษฐกิจไทย อย่าลืมว่ารัฐบาลหว่านเงินให้คนไทย (เฉพาะกลุ่มที่ได้รับเงิน) คนละ 1 หมื่นบาท โดยหว่านเงินไปแล้วสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น นี่คือสิ่งบ่งบอกว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่มีทางเติบโตได้เป็นอันขาด
ดูๆ แล้วเศรษฐกิจไทยไม่น่าจะฟื้นตัวได้ เพราะผู้กำหนดนโยบายสาธารณะของประเทศไม่มีความสามารถ หรือพูดให้ตรงประเด็นคือ เพราะนายกรัฐมนตรีไทยไร้คุณภาพ ไร้ฝีมือ ไร้ความสามารถ เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่กลับคุยโวโม้ไปเรื่อยว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ก็ทำให้เศรษฐกิจไทยดิ่งเหว และดิ่งนรกไปเรื่อยๆ แล้วคนไทยทั้งประเทศก็จะตกนรกไปพร้อมๆ กัน นี่คือผลลัพธ์ที่แสนสาหัสของการมีนายกรัฐมนตรีไร้คุณภาพ ไร้ความสามารถ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี