จู่ๆ ก็เกิด “คำใหม่” ขึ้นในพื้นที่ข่าว นั่นคือคำว่า “นายกฯ Gen.Y”
โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี หลายเรื่อง เช่น เรื่องการเตรียมตัวตอบคำถามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่นายกฯระบุว่าจะมีองครักษ์ ได้มอบหมายใครเป็นหัวหน้าเรื่องนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกคนให้ข้อมูลมาพอสมควรแล้ว ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะตนไม่เคยโดนอภิปรายมาก่อน โดยเราจะชี้แจง
ข้อเท็จจริงและเน้นข้อกฎหมาย
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะใช้วัดเคพีไอรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงด้วยหรือไม่ ว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่หรอก ครั้งนี้อภิปรายนายกฯคนเดียว แต่จะต้องรอดูช่วงที่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งหมดทุกกระทรวงพร้อมชี้แจง คิดว่าเคพีไอเห็นกันตั้งแต่ตอนทำงานแล้ว ว่าแต่ละกระทรวงมีนโยบายอย่างไร
ส่วนนายกฯ เตรียมข้อมูลอะไรเป็นพิเศษในการชี้แจงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า บอกไม่ได้ตอนนี้ แต่มีข้อมูล ข้อเท็จจริง และตัวเลขที่จับต้องได้
เมื่อถามว่าจะใช้เวทีนี้ในการชี้แจงอย่างไร เนื่องจากผลโพลล์ที่ออกมาระบุว่ายังไม่พอใจการทำงานของนายกฯ และยังไม่เชื่อมั่นภาวะผู้นำ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องที่ฝ่ายค้านตั้งหัวข้อถึงภาวะผู้นำ ก็ต้องชี้แจง โดยภาวะผู้นำต้องให้ประชาชนตัดสิน เราไม่ไปอยากชี้นิ้ว เพราะเราเป็นผู้นำในแบบของเราและการที่จะว่าใคร เราก็ต้องเป็นผู้นำให้ได้ก่อน แล้วค่อยพูดถึงคนอื่น ส่วนตนทำเต็มที่ เตรียมข้อมูลที่จริงไปเล่าให้ประชาชนฟัง จะถูกต้องมากกว่า ส่วนผลโพลล์ไม่ว่าสำนักไหนรับฟังทั้งหมด เพราะถือเป็นการเก็บความเห็นของประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาแล้ว และต้องพร้อมรับฟังและปรับตัว และทุกกระทรวงควรนำความเห็นของประชาชนไปปรับปรุงเพิ่มเติม
เมื่อถามย้ำว่า จะใช้วิกฤตการอภิปรายนี้ เป็นโอกาสในการชี้แจงกับประชาชนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “เป็นเวทีที่ดีที่จะให้ประชาชนเข้าใจ ข้อมูลที่แท้จริงและเข้าใจดิฉันที่เป็นนายกฯ GEN Y อยากให้ทุกคนเข้าใจ เพราะบางทีอาจยังไม่เคยมีนายกฯ GEN Y จะได้เข้าใจซึ่งกันและกัน”
เพียงเท่านี้ ผู้คนบนแผ่นดินไทยต่างพากันขมวดคิ้ว และอุทานว่า “อิหยังวะ”
เธอจะเจเนอเรชั่นไหนก็ตาม ความเป็นนายกฯ เขาวัดกันที่ สมอง-มีไหม ใช้ไหม, ตัวจริงหรือหุ่นเชิด ประสิทธิภาพที่เกิดหรือแค่ประชาสัมพันธ์ พูดคุยโต้ตอบได้เอง หรือเป็นแค่อีงั่ง หลานอีโง่ ลูกไอ้ขี้โกง น้องไอ้ขี้ยา สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็น “เคพีไอ” วัดประสิทธิภาพความเป็นนายกฯ
เอ้า! เราลองมาพยายามเข้าใจนายกฯ Gen Y” กันดูสักหน่อยก็ได้
1. “Gen Y” หรือ “Millennials” คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างช่วงปี ค.ศ.1981-1996 ซึ่งเติบโตมากับเทคโนโลยีอินเตอร์เนต และโลกาภิวัตน์มีความคิดเปิดกว้าง ชอบความมีประสิทธิภาพสูงสุด ฉับไว ไม่รีรอ เป็นนักค้นคว้าวิจัย ดังนั้น ใครก็ตาม ที่สะเออะประกาศตัวเป็น “นายกฯ Gen Y” ขั้นตอนควรตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูตัวเองสักหน่อยก่อนว่า มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ หรือไม่
เข้าใจเทคโนโลยีและโลกยุคดิจิทัลเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศ
ให้ความสำคัญกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างจริงจัง และฟังคนรุ่นก่อน
เป็นตัวอย่างของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกระชับ ชัดเจน และตรงไปตรงมา
ปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทันทุกสถานการณ์
มีความคิดเชิงนวัตกรรม ไม่ติดยึดระบบล้าหลังผู้นำ เช่น ระบบคุณหนูเดินนำ บ่าวไพร่เดินตามยามคุณหนูโง่งม บ่าวไพร่ต้องคอยกระซิบบอกบท แก้หน้า แก้สถานการณ์กันไปอย่างน่าสมเพช
(1) นายกฯ ฉลาดฉลาด กับ โง่
ดูได้จาก การให้ข้อมูล-การสื่อสาร เป็นผู้นำจริงๆ หรือเพียงแค่พูดตามบทที่ลิ่วล้อเขียนให้ในไอแพด, บริหารปัญหาของรัฐเป็นหรือไม่ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสังคม, ตอบคำถามประชาชนได้ตรงจุดหรือแค่พูดลอยๆ ไม่อาจจับต้องได้
(2) นายกฯเก่ง หรือไม่เก่ง
ดูได้จาก มีผลงานที่ชัดเจนหรือไม่ ไม่ใช่แค่แต่งตัวโบ๊ะบ๊ะ ออกงานไปวันๆ, สามารถบังคับใช้กฎหมายและแนวทางปฏิบัติที่เป็นธรรมได้ไหม, บริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเพียงแค่ใช้เงินเก่ง ถ้าผลงานของเธอเป็นเพียงโครงการฉาบฉวย-ประชาสัมพันธ์ และใช้เงินจำนวนมาก = ไม่เก่ง!
(3) มีวิสัยทัศน์ มีธรรมาภิบาล
มองปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทะลุปรุโปร่ง มีหนทางแก้จากต้นทางจนถึงระยะยาว หรือแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ, การใช้งบประมาณแผ่นดินโปร่งใสหรือไม่, ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีหรือไม่
ถ้าทั้งหมดเป็นเพียงการ “ขายฝัน” ไม่มีแผนปฏิบัติ ไม่มีความต่อเนื่อง ตรวจสอบไม่ได้ = ไม่มีทั้ง
วิสัยทัศน์และธรรมาภิบาล!
(4) เป็นผู้นำ ทำงานเป็น
บริหารทีมงานได้ดีหรือไม่ หรือมีแต่ข่าวขัดแข้งขัดขา แล้วต้องคอยเคลียร์ใจ คนภายในด้วยกันเอง, สามารถตัดสินใจเองได้ หรือเพียงแค่รอให้คนอื่นสั่ง, จัดการปัญหาเร่งด่วนได้อย่างเร่งด่วน ทันท่วงทีหรือไม่ ถ้าเสียเวลากับการประกาศนโยบาย แล้วต้องคอยหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ตีความและย้อนกลับมาเปลี่ยนวิธีการดำเนินการบ่อยๆ = การทำงานไม่เป็น!
(5) ตัวจริง vs หุ่นเชิด
กล้าตัดสินใจเรื่องสำคัญหรือปล่อยให้“คนเบื้องหลัง” คุมเกมแทน, สามารถต่อรองกับอำนาจเก่า-กลุ่มทุน-และพรรคร่วมรัฐบาลได้ด้วยตัวเองไหม, ควบคุมสถานการณ์ได้ โดยไม่ห่วง
ผลประโยชน์ หากยังต้องรอ “พ่อ” อนุมัติ พ่อคิด พ่อประกาศ พ่อเสือกทุกเรื่อง = หุ่นเชิดแน่นอน!
5. ตัวชี้วัดความสำเร็จของนายกฯ จะ Gen ไหนก็ช่างเถอะ
1) เศรษฐกิจเติบโตและกระจายรายได้อย่างยุติธรรม : GDP โครงสร้างองค์กร ค่าครองชีพ ที่ปราศจากความเหลื่อมล้ำ รวยกระจุก จนกระจาย ฉิบหายในหมู่คนต่างพวก พวกที่ไม่สยบยอม
2) ดัชนีความสุขของประชาชน (Happiness Index) : ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ครบถ้วนทั้งด้านเศรษฐกิจสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม
3) ดัชนีการคดโกง (Corruption Perception Index) : อันดับคอร์รัปชั่นลดลง มีธรรมาภิบาลที่ดี
4) นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม : นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ มิใช่ใช้อย่างฉ้อฉล เป็นผู้นำในการเริ่มต้นเศรษฐกิจดิจิทัลที่สุจริต โปร่งใส ไม่ใช่ทำไปโกงไป
สรุป : ถ้าแค่การแต่งตัวยังต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ทุกวัน การพูดยังต้องอ่านจากไอแพด กับมีขี้ข้ากระซิบอยู่ริมหู ความเชื่อมั่นยังต้องให้พ่อที่เป็นคนโกง รับสารภาพผิดแล้ว ติดคุกหรือยัง
ก็ยังไม่แน่ใจ ออกมาเป็นผู้นำ สร้างความน่าเชื่อถืออยู่ไปสภาเพื่อตอบกระทู้ “ชงหวาน” ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และสมัครพรรคพวกปรบมือให้แต่กระทู้อื่นไม่ตอบ
จะเป็น “นายก Gen ไหน” ก็ไร้ค่า
Y เดียวที่เห็นจากยุคของ “นายกฯหญิงคนนี้คือ วุ่นวายกับวอดวาย!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี