“มาดามแพทองโพย”นายกรัฐมนตรี “Gen Y” ที่อาจจะทำให้บ้านเมืองวิกฤต ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม จากเรื่องบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์ ณ เวลานี้กำลังเฉิดฉายอยู่ใน แบบสบายใจหายห่วง เพราะที่เมืองไทยมี“อาอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย”ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทน และมีนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตัวจริงผู้เป็นบิดาคอยกำกับดูแลอยู่หลังฉาก
เดินทางไปเยอรมนีเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ใช้บริการของสายการบิน Swiss Air ตรงไปยังกรุงเบอร์ลิน โดยไม่ได้เช่าเหมาลำเครื่องบินเหมือนทริปก่อนหน้านั้น คงกลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพราะภารกิจที่เธอไป ไม่จำเป็นต้องระดับนายกรัฐมนตรีเดินทางไปก็ได้ ซึ่งตามจริงให้รัฐมนตรีว่าการกระทวงการท่องเที่ยวฯ หรือให้ผู้ว่าการการท่องเที่ยวฯ ไป ยังจะเหมาะสมและสมเหตุสมผลกว่า
เนื่องจากงาน “ITB Berlin 2025”ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-8 มีนาคม 2568 ถึงแม้จะฟังดูอลังการงานสร้าง ว่าเป็นงานมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็เป็นเหมือนงานประจำปีหรืองามวัดที่เคยจัดมาแล้วกว่า 50 ปี เรียกว่าจัดมาตั้งแต่“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”ยังไม่เป็นวุ้น และนับตั้งแต่ที่มีการจัดงานนี้กันมา ก็ยังไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนของไทยเดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรม
อย่างว่า ไม่มีเหตุผลอื่นใด ก็เป็นไปตามที่พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเขียนเปิดประเด็นซักฟอกไว้ว่า “มาดามแพทองโพย” ไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง ทั้งขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่จะแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน รวมทั้งยังส่งผลให้ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติอีกด้วย
ดังนั้น จะอยู่หรือไปก็ไม่มีความสำคัญอะไร เพราะ“มาดามแพทองโพย”เป็นเพียงแค่ร่างทรงของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาเท่านั้น ไปเยอรมนีคราวนี้ก็เหมือนนายกรัฐมนตรีตัวจริงปล่อยให้ลูกสาวไปเที่ยวเล่น ได้แต่งเนื้อแต่งตัวสวมเสื้อผ้าแบรนด์หรูของต่างประเทศ และใช้เครื่องประดับกายราคาแพง เป็นการโชว์ความรวยด้วยเงิน“โกงพ่อมึงสิ”ตามคำแดกดันของทักษิณ หรือ“พ่อมึงโกงสิ”ตามเสียงที่ชาวบ้านร้านถิ่นเขารู้สึกกังขากัน
แต่ถึงจะอะไรก็ตาม การเดินทางของ“มาดามแพทองโพย”และคณะที่เป็นทีมไทยแลนด์จากประเทศไทยในครั้งนี้นั้น ไม่ได้ใช้เงิน“พ่อมึงโกงสิ” หรือเงินกงสีของ“ตระกูลชินวัตร” แต่ใช้เงินของแผ่นดิน เรียกว่าล้างผลาญเงินจากภาษีอากรของประชาชนอย่างน่าเสียดาย และไม่น่าให้อภัยเลยแม้แต่น้อย
นอกจากนั้น ตามภาพข่าวที่ปรากฏในวันแรกก่อนขึ้นเครื่องบินไปเยอรมนี ก็ปรากฏว่า “มาดามแพทองโพย”ซึ่งเป็น“ซอฟต์พาวเวอร์ตัวแม่ของไทย” แทนที่จะสวมเสื้อผ้าและของประดับที่เป็นแบรนด์เนมของไทยไปอวดสายตาชาวต่างชาติ เธอก็กลับ“อวดรวย”ใช้แบรนด์หรูราคาแพงของต่างประเทศตาม“นิสัยถาวร”ของเธอ ดังที่เธอเคยกล่าวไว้ “เพราะนี่เป็นฉัน, ฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้แหละ”
แบรนด์หรูราคาแพงของต่างประเทศ ที่“มาดามแพทองโพย” โชว์รวยแบบลูกคุณหนูถูกพ่อแม่สปอยล์มาตั้งแต่เด็ก อันเป็นต้นเหตุของการ“ไม่รู้จักกาลเทศะ” และย้อนแย้งกับ“Gen Y”ที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถปรับตัวเข้ากับภาวะรอบตัวได้ ซึ่งในวันแรกที่ออกเดินทางไปเยอรมนีนั้น จากการส่องของรายการ“แนวหน้าข่าวเที่ยง”ที่พูดถึง“แฟชั่นนายกฯวันนี้” พบว่า กระเป๋าที่เธอถือนั้น ยี่ห้อ“Hermès”ของฝรั่งเศส ราคา 1.2 ล้านบาท ตัวเลขกลมๆ ก็ 1,194,636 บาท ส่วนอีกใบหนึ่งที่“คณาพจน์ โจมฤทธิ์” เลขาฯส่วนตัวและเป็นเพื่อนสนิทของเธอถือเดินตามหลังให้ คือ ยี่ห้อ“Goyard”เป็นแบรนด์ดังของฝรั่งเศสเช่นกัน ราคา 5,844 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยประมาณ 2 แสนบาท
อย่างไรก็ดี เพราะเรามีผู้นำแบบนี้ และเป็นเพียงแค่“หุ่นเชิด” จึงคิดไม่ได้ว่าเรื่องที่เป็นปัญหาและเป็นเรื่องใหญ่หลวง เกี่ยวกับ“บ่อนกาสิโน”ที่อำพรางมาในรูป“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” หรือ“ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” รวมทั้งการพนันออนไลน์ใต้ดินที่จะนำขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมายนั้น กำลังจะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนในชาติได้ เพราะเสียงที่ไม่เห็นด้วยและคัดค้านนั้น เป็นเสียงของคนไทยส่วนใหญ่
โดยเฉพาะเรื่อง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”ที่กระทรวงการคลัง โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า ได้หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาในส่วนของเงื่อนไขเดิม ที่กำหนดให้คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโนได้ต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาทนั้น ได้มีการยกเลิกเงื่อนไขนี้ และเปลี่ยนเป็นกำหนดว่าคนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโนได้ ต้องมีการยื่นแบบชำระภาษีย้อนหลัง 3 ปี ส่วนเรื่องของการเก็บค่าเข้าเล่นในกาสิโน ยังคงเก็บ 5 พันบาทตามเงื่อนไขเดิม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ชี้แจงเหตุผลว่า “กระทรวงการคลังไปดูข้อมูลแล้ว พบว่าบัญชีที่มีเงินเกิน 50 ล้านบาทในไทยมีเพียงแค่ 1 หมื่นบัญชี ถ้าเราไปกำหนดแบบนั้นก็เท่ากับว่า ผลักให้คนที่ต้องการเล่นกาสิโนไปเล่นในที่อื่น เช่นประเทศเพื่อนบ้าน หรือยังเล่นพนันผิดกฎหมาย จึงมีการแก้ไขในเรื่องนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังและกฤษฎีกาเห็นร่วมกัน” พร้อมทั้งยังกล่าวด้วยว่า จะพยายามนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันการประชุมสภาฯสมัยนี้
ถ้าฟังจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ก็คือ ต้องทำให้เสร็จทันก่อนวันที่ 12 เมษายน 2568 เพราะสภาฯจะปิดสมัยสามัญประจำปีครั้งที่สองในวันที่ 12 เมษายนเดือนหน้า
สรุปก็คือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่อ้างว่าเป็นการประกอบธุรกิจครบวงจร โดยมีกาสิโนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ ที่แท้แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป้าหมายของ“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”ก็เพื่อต้องการให้มี“บ่อนกาสิโน”บนแผ่นดินไทย สำหรับรองรับคนไทยที่ต้องการเล่นพนันให้สามารถเข้าไปเล่นในบ่อนได้อย่างเสรีถูกกฎหมาย มิหนำซ้ำ“มาดามแพทองโพย”ยังมีหน้าไปบอก“ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง”แห่งจีน ที่ถามเรื่อง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”ด้วยความห่วงใยว่า กาสิโนมีแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งจะมีกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม มันก็คือมีบ่อนกาสิโนที่แม้แต่จีนเองก็ไม่เอาโดยเด็ดขาดนั่นเอง
ระวังเถอะ ! การปักหลักชุมนุมค้างคืนไม่มีกำหนดของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกลุ่มเครือข่ายกองทัพธรรม นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.ที่ละแวกทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหยุด“บ่อนกาสิโน”และ“การพนันออนไลน์”..จะเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่สามารถทำลายล้างรัฐบาลได้
“มาดามแพทองโพย”นายกรัฐมนตรี“Gen y”และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี“ทักษิณ ชินวัตร”นายกรัฐมนตรีตัวจริง“Gen B”เป็นผู้บงการ จะทำให้ชาติบ้านเมืองฉิบหายวายวอดได้ ก็เพราะ“บ่อนกาสิโน”และ“การพนันออนไลน์”นี่แหละ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี