การมีรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ เปรียบไปแล้วก็ไม่ต่างจากการมีของที่ไร้ประโยชน์วางไว้ในบ้าน เพราะมีไปก็ไร้ค่า เปล่าประโยชน์ แถมยังรกบ้านอีกด้วย
ถามว่ารัฐบาลไทยชุดปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการทำหน้าที่บริหารประเทศหรือไม่ ตอบว่าไม่น่าจะมี เพราะหากรัฐบาลมีประสิทธิภาพจริง ก็ต้องไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือทางการเมืองของประเทศตกต่ำย่ำแย่ดังที่กำลังเป็นอยู่
มีใครจะโต้แย้งหรือไม่ว่าเศรษฐกิจไทยยุคนี้ตกต่ำมาก จนเรียกได้ว่าอยู่ในขั้นเลวร้าย ถามว่าเลวร้ายอย่างไร ตอบว่าเลวร้ายชนิดที่ว่าพ่อค้านักธุรกิจจำนวนมากบ่นตรงกันว่าทำมาค้าขายไม่ดี ส่วนประชาชนคนทั่วไปก็บ่นตรงกันว่าไม่มีเงินในกระเป๋า ทำมาหากินฝืดเคือง แต่มีหนี้สินท่วมหัวท่วมหู คนค้าคนขายที่ผลิตสินค้าเองในบ้านเมืองของเราบ่นตรงกันว่าถูกสินค้าจีนท่วมทะลักเข้ามาตีตลาดไทย จนสินค้าที่ไทยผลิตเองไม่สามารถขายได้ เพราะมีราคาแพงกว่าสินค้าจากจีน
ถามว่ารัฐบาลไทยมีมาตรการอะไรเพื่อแก้ปัญหาสินค้าจีนล้นตลาดไทย ตอบว่าไม่มี ย้ำว่าไม่มี เพราะทุกวันนี้สินค้าจีนก็ยังไหลทะลักเข้ามาท่วมตลาดไทย นอกจากสินค้าจีนท่วมตลาดไทยแล้วยังมีข่าวว่าทุนจากจีนไหลท่วมเข้ามาบนแผ่นดินไทยอีก ล่าสุดมีข่าวว่าทุนจีนแปลงกายเป็นทุนสิงคโปร์แล้วเอาเงินทุนนั้นเข้ามาลงทุนในไทย โดยทุนจีนจดทะเบียนในสิงคโปร์แล้วเข้ามาลงทุนในไทย เหตุที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพื่อเลี่ยงการเจอกำแพงภาษีศุลกากรที่ตั้งโดยสหรัฐฯ ในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0
ซึ่งต่อจากนี้ไป นักวิเคราะห์สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศมองเห็นตรงกันว่า การค้าโลกสุ่มเสี่ยงมากที่จะเกิดปัญหาสงครามการค้าอย่างรุนแรง เมื่อทิศทางของปัญหาดูว่าจะหนักและ
เข้มข้นมากขึ้น ก็ทำให้มีคำถามว่า รัฐบาลไทยรับมือกับปัญหานี้อย่างไร ซึ่งก็ต้องตอบว่า ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลไทยจะหาหนทางแก้ปัญหาหรือรับมือกับปัญหานี้อย่างไร
ตามปกติแล้ว เมื่อนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ก็มักจะไปติดต่อกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษในการลงทุน แต่เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ BOI ต้องรู้เท่าทันกลเกมของนักลงทุนจีนให้ได้ และที่สำคัญคือต้องไม่ทำให้บริษัทของคนไทยเสียเปรียบบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย เพราะหากไม่ปกป้องไม่รักษาบริษัทของคนไทยแล้วก็หมายความว่าในที่สุดบริษัทของคนไทยจะไปไม่รอด อยู่ไม่ได้ แล้วต้องล่มสลายไปในที่สุด
มีคำถามว่าทำไมทางการไทยที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโดยนักลงทุนต่างประเทศ จึงไม่ดึงนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทยโดยตรง ทำไมต้องให้เกิดการลงทุนผ่านสิงคโปร์ อย่าลืมว่าหากไทยสามารถดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยได้โดยตรง จะทำให้เกิดการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตสินค้าต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหมายถึงการเพิ่มทักษะการทำงานและการผลิตสินค้าให้กับแรงงานไทยโดยตรง
อีกประเด็นหนึ่งที่ทางการไทยต้องเร่งทำให้บังเกิดผลเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นคือ ต้องลดการคอร์ร้ปชั่นในการอนุมัติการเข้ามาลงทุนโดยต่างชาติให้ได้ ต้องลดขั้นตอน ลดกระบวนการที่ซับซ้อนล่าช้า ลดความยุ่งยาก ลดอุปสรรคการเข้ามาลงทุนในบ้านเรา ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่านักลงทุนต่างชาติยังมองหน่วยงานรัฐบาลไทยว่ายังเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่น กินสินบนกันอย่างอุตลุด กว่าจะอนุมัติแต่ละขั้นตอนก็แสนซับซ้อนยุ่งยากวุ่นวาย หากยังคงปล่อยปัญหานี้ไว้ ก็หมายถึงนักลงทุนต่างชาติจะไม่เข้ามาลงทุนในไทยในอนาคต แต่ที่เข้ามาก็จะเป็นพวกทุนสีดำ สีเทา ซึ่งเป็นภัยอันตรายต่อประเทศชาติและประชาชนไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี