ไม่ว่าสหรัฐฯ ในยุคนี้จะดีเลว หรือชั่วช้าอย่างไรก็ตาม แต่ไทยก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาสหรัฐฯ ต่อไป เพราะตลาดสหรัฐฯ เป็นแหล่งสำคัญของสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าจำพวกที่ไม่ทันสมัย ไม่ไฮเทค ไม่ก้าวล้ำนำหน้ากว่าใครๆ เพราะฉะนั้น รัฐบาลไทยจึงไม่กล้ากำแหงกับรัฐบาลสหรัฐฯจึงต้องยอมให้สหรัฐฯ บีบกดเรื่อยมา
ถามว่าทำไมรัฐบาลไทยไม่มีปัญญาเจรจาต่อรองเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งรัฐไทยกับผู้นำสหรัฐฯ เรื่องนี้ตอบได้ชัดๆ ว่าเพราะศักยภาพการเจรจาต่อรองของรัฐบาลไทยด้อยกว่าสหรัฐฯหลายขุม ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ จำเป็นต้องพึ่งพาไทยในหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่สหรัฐฯ ต้องการมีอิทธิพลเหนือดินแดนต่างๆ ในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเรื่องที่สหรัฐฯ ต้องการมีผลประโยชน์แห่งรัฐเหนือประเทศต่างๆ ในอาเซียน (ยกเว้นสิงคโปร์ที่ไม่ยอมให้สหรัฐฯ กดขี่ข่มเหงได้มากนัก)
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับด้วยว่าตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าไทย และคนอเมริกันมีกำลังซื้อที่นับว่าค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ของไทย และที่สำคัญคือ สินค้าไทยหลายชนิดเป็นที่นิยมชมชอบของคนอเมริกัน
หากพูดโดยสรุปคือ ร้อยละประมาณ 20 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศที่ไทยมีกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก คือ มูลค่าการค้าขายระหว่างไทยกับสหรัฐฯ นั่นหมายถึง 1 ใน 5 ของรายได้จากการค้าขายกับต่างประเทศอยู่ที่ตลาดสหรัฐฯ
กระทรวงพาณิชย์ไทยระบุว่ามูลค่าการค้าขายของไทยกับสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่า 45,625 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยคืออุปกรณ์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เครื่องโทรสาร และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาง รวมถึงอัญมณี
ในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ ทุกกรณี นั่นหมายความว่าไทยก็อยู่ในกลุ่มที่เป็นเป้าหมายของสหรัฐฯ ด้วย เพราะไทยได้เปรียบดุลการค้าต่อสหรัฐฯ มาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว แม้ขณะนี้สหรัฐฯ ยังไม่เล่นงานขั้นหนักหน่วงด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าไทย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐฯ จะปล่อยไทยไว้ต่อไป
ในขณะเดียวกันผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมของไทยต่างก็ถามอยู่ตลอดเวลาว่ารัฐบาลไทยได้ไปเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกให้กับสินค้าไทยอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่เห็นทุกวันนี้ก็ได้ยินแค่คำคุยเขื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิชัย นริพทะพันธ์ุ ว่า ไทยโชคดีที่เป็นที่รักของสหรัฐฯ จีน ตะวันออกกลาง อินเดีย และรัสเซีย น่าประหลาดใจที่รัฐมนตรีพาณิชย์ของไทยมองว่าไทยเป็นที่รักของนานาชาติ แต่ก็ต้องถามกลับไปว่า แน่ใจหรือว่านานาชาติที่อ้างถึงนั้นรักไทยจริงๆ ถามต่อไปว่าอินเดียรักไทยจริงหรือ หากรักไทยแล้วทำไมขายข้าวแข่งกับไทย หรือจีนรักไทยจริงหรือ หากจริง ทำไมจีนจึงส่งสินค้าเข้ามาถล่มตลาดไทย
เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่รัฐมนตรีพาณิชย์ของไทย และรัฐบาลไทยไม่เคยบอกว่ามีมาตรการป้องกันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทยอย่างไรเพื่อให้รอดพ้นจากการบดขยี้โดยประเทศสหรัฐฯ ทุกวันนี้เรายังไม่เห็นว่ารัฐบาลประกาศให้ชัดว่ามีแผนหรือมาตรการใดที่จะช่วยให้สินค้าไทยไม่ถูกสหรัฐฯ บดขยี้ด้วยมาตรการกีดกักทางการค้า หรือรัฐบาลไทยยังคงคิดด้วยความเพ้อฝันว่าสหรัฐฯไม่กล้าบดขยี้สินค้าไทย แต่รัฐบาลไทยต้องไม่ลืมว่าผู้ผลิตไทยจำนวนไม่น้อยต่างล้มตายไปหมดสิ้นแล้ว เพราะถูกสินค้าจีนเข้ามาบดขยี้จนสินค้าไทย และผู้ผลิตไทยไปไม่ไหวแล้ว หากรัฐบาลไทยยังหลงละเมอเช่นนี้ ขอได้จงตื่นขึ้นมารับความจริงที่โหดร้ายได้แล้ว อย่าละเมอเพ้อพกอีกต่อไปเลย เพราะประเทศชาติจะพบกับความวิบัตในเร็วๆ นี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี