แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...
■■ โครงการฟาดเงินแจกเงิน 1 หมื่นของรัฐบาล หรือ “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท” นั้น ที่ผ่านมาแจกมาแล้ว 2 เฟสส่วนเฟส 3 ซึ่งตอนแรกประชาชนทั้งประเทศเข้าใจว่า จะเป็นการแจกเงินให้กลุ่มที่มีอายุ 16-59 ปี ที่ไม่ติดเงื่อนไขการครอบครองทรัพย์สิน และมีรายได้ตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 15 ล้านคนคาดว่าจะใช้เม็ดเงินราว 1.5 แสนล้านบาท...
■■ รัฐบาลทำท่าว่าจะเคาะหลายครั้งแต่ก็เงื้อง่ามาตลอด แต่ไปๆ มาๆ แทนที่จะได้กันทั้งหมด กลายเป็นว่า กลุ่มที่อายุ 16-20 ปี จะได้รับแจกเงินก่อน เรียกว่า กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ถ้าเป็นรถก็มาแรงแซงโค้งตกถนนไปเลย...
■■ รัฐบาลแถลงว่า กลุ่มอายุ 16-20 ปีที่มีการลงทะเบียนกับภาครัฐไว้จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาทโดยคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนเงินให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการในระยะที่ 3 หรือเป็นโครงการดิจิทัล วอลเล็ตจริงๆ ส่วนกลุ่มที่เหลือจะมีการจ่ายเงินในโครงการในระยะต่อไปตามความเหมาะสม...
■■ รัฐบาล ให้เหตุผลว่า โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการใหม่ที่จะต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม. ซึ่งมีการปรับเงื่อนไขในโครงการบางส่วน เช่น ให้ร้านค้าเบิกเงินสดได้ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมได้ซึ่งในกลุ่มนี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยเรียนเงินจำนวนนี้สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้บางส่วน โดยกลุ่มนี้ถือว่ามีการใช้เทคโนโลยีสูง มีความตื่นตัวและยอมรับในการใช้เทคโนโลยีและระบบใหม่ๆ รวมทั้งเป็นกลุ่มที่จะมีการใช้จ่ายสูงรัฐบาลจึงอนุมัติให้กับกลุ่มนี้ก่อน ซึ่งไม่เกี่ยวกับกลุ่มนี้ใช้งบประมาณน้อยแต่อย่างไร ส่วนกลุ่มที่เหลือรัฐบาลจะมีการอนุมัติให้ตามช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไปซึ่งต้องตรงกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้นๆ...
■■ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทั้งที่จังหวัดนราธิวาสและปัตตานี โดยมีการวางระเบิดและลอบยิงหลายจุด ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชน เสียชีวิตไป 5 ศพ และบาดเจ็บอีก 13 คน...
■■ สถานการณ์ป่วนใต้ยังลุกลามต่อเนื่อง วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม มีการลอบยิงอาสาสมัคร อ.กรงปินัง ยะลา จนเสียชีวิต และยังพบวัตถุระเบิดผูกเอาไว้ที่เสาไฟฟ้า ในเขตอ.เมือง ยะลาอีก 3 จุด...
■■มีหลายหลากความเห็นที่มีต่อเหตุป่วนใต้ในครั้งนี้ ที่น่าสนใจคือ “พล.ต.วินธัยสุวารี” โฆษกกองทัพบก ยืนยัน กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังเหตุป่วนใต้ในครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็น...
■■ “เทศกาลรอมฎอนปีนี้ รัฐบาลมุ่งสร้างบรรยากาศรอมฎอนที่สันติสุขเพื่อให้พี่น้องมุสลิมใน 3 จชต. สามารถปฏิบัติตามวิถีแห่งศาสนาได้อย่างสงบสุขโดยสมบูรณ์และปลอดภัย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงได้พยายามประสานขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการพยายามสื่อสารกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในทุกช่องทางแต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบีอาร์เอ็นยังไม่มีท่าทีที่จะให้ความร่วมมือในการยุติเหตุรุนแรงในห้วงเดือนรอมฎอน และได้ก่อเหตุรุนแรงในการลอบยิง ลอบวางระเบิดในหลายพื้นที่มาตามลำดับ รวมถึงการโจมตีที่ทำการอำเภอสุไหงโก-ลก ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บเสียชีวิต”...
■■ ขณะที่ “ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล” สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่า สาเหตุของความสูญเสียครั้งนี้ มาจากความล้มเหลวของเจ้าหน้าที่รัฐ 1.ความล้มเหลวในงานด้านการข่าว 2.การรักษาความปลอดภัยในเมืองเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ล้มเหลว3.กองกำลังพิเศษจากส่วนกลาง ที่ลงมาทำงานไล่ล่าเหตุยิงครู ตชด. ที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ผ่านมาแล้ว 2 เดือนยังไล่ล่าไม่พบ แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวด้านยุทธวิธีในการรบแบบสงครามกองโจร 4.ก่อนที่จะถึงเดือนรอมฎอน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก หัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพคนใหม่ ได้ลงพื้นที่พบกับแกนนำของขบวนการบีอาร์เอ็น รวมทั้งเดินทางไปยังรัฐกลันตัน เพื่อขอให้30 วันของเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งสันติ ซึ่งก็ล้มเหลว...
■■ ที่สำคัญ “สว.ไชยยงค์” มองว่า กลุ่ม “บีอาร์เอ็น”ตอบโต้การเข้ามาของ “ทักษิณ” ซึ่งหากยังจำกันได้ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา “สทร.ทักษิณ” ได้เดินทางลงไปที่ภาคใต้ ทั้งที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส...ที่จังหวัดนราธิวาส “สทร.ทักษิณ” ใช้คำพูด “ขออภัย” จากกรณีตากใบ...
■■ “เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาดที่ไม่เป็นที่พอใจก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมากถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย”...
■■ ส่วนที่จังหวัดปัตตานี “สทร.ทักษิณ” ประกาศ อย่างมั่นอกมั่นใจว่า ปีหน้าภาคใต้จะกลับมามีสันติสุข “ตอนนี้เหตุการณ์สถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว เราคุยกันรู้เรื่องมากขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทรัพยากรและมีศักยภาพพัฒนาไปข้างหน้าให้ดีกว่านี้ การพูดคุยสันติสุข สมัยนายกฯ ปู นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ผมมีโอกาสได้ช่วยเหลือและริเริ่ม ลงเข้าไปช่วยอยู่บ้าง ซึ่งได้คุยกับคนที่อยู่ต่างประเทศ ว่าทุกคนอยากกลับบ้านของตนเอง ตอนนี้ผมกลับบ้านได้แล้ว แต่อีกหลายคนยังไม่ได้กลับ ต้องถึงเวลาที่ผมมาช่วยให้ทุกคนได้กลับบ้านด้วยเช่นกัน ปีหน้าอย่างช้าผมเชื่อว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะกลับไปสู่สันติสุขได้เหมือนเดิมจะมีความมั่งคั่งยิ่งกว่าเดิม”...
■■ ย้อนกลับไปที่มุมมองว่า “สว.ไชยยงค์” ซึ่งมองว่า เหตุป่วนใต้ครั้งล่าสุดนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเข้ามาของ “ทักษิณ” โดยมองว่า “สุดท้ายการก่อเหตุของบีอาร์เอ็นอย่างถี่ยิบ มาจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปขอร้องขอความร่วมมือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้ช่วยยุติความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการบีบบังคับให้แกนนำบีอาร์เอ็นยุติการก่อเหตุและให้เข้าสู่การเจรจาสันติภาพ แต่บีอาร์เอ็น ฝ่ายทหารไม่เห็นด้วย และมีการประกาศว่าถ้ารัฐบาลกลางของมาเลเซียบีบบังคับ บีอาร์เอ็นที่มีฐานที่มั่นในรัฐกลันตันก็จะก่อเหตุในสามจังหวัดให้รุนแรงยิ่งขึ้น เป็นการตอบโต้การเข้ามาของนายทักษิณ”...■■
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี