การแจกเงินแบบสะเปะสะปะไร้ทิศผิดทางโดยรัฐบาลผสมที่นำโดย พรรคเพื่อไทย ยังคงดำเนินหว่านแจกเงินต่อไปแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ถึงแม้ว่า รัฐบาลจำเป็นจะต้องรู้ซึ้งว่านโยบายประหลาดนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อการกระตุ้นให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังคงจะดันทุรังทำต่อไป ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า การตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ เป็นสิ่งที่รัฐบาลที่มีสติปัญญาสมควรกระทำเช่นนั้นหรือ หรือรัฐบาลจะยังคงอ้างว่าการหว่านแจกเงินไปแล้วสองครั้งที่ผ่านมาช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
รัฐบาลที่คิดแต่เรื่องเฉพาะหน้า แถมยังเป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่ไม่ได้ให้ผลดีใดๆ อย่างยั่งยืน แต่กลับไม่คำนึงถึงผลกระทบและผลเสียที่จะเกิดขึ้นอย่างหนักในระยะยาว คือรัฐบาลที่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลล้างผลาญทำลายประเทศชาติ การที่รัฐบาลดำเนินนโยบายผิดพลาดแล้วเร่งแก้ไขสิ่งที่ทำผิดลงไป ก็ยังนับได้ว่าเป็นรัฐบาลที่ยังหลงเหลือความรับผิดชอบต่อประเทศชาติอยู่บ้างแต่สำหรับรัฐบาลที่ทำผิดซ้ำซากจำเจ ผิดเหมือนเดิม ผิดซ้ำเดิมตลอดเวลา คือรัฐบาลล้างผลาญชาติ ซึ่งสมควรจะต้องถูกกำจัดให้พ้นจากการมีอำนาจการเมือง
น่าสงสัยว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่สำเหนียกว่าการแจกเงินไปแล้วสองรอบ ซึ่งใช้เงินไปมากถึง 1.8 แสนล้านบาท โดยไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นแม้แต่น้อย แต่เหตุใดรัฐบาลจึงจะยังดันทุรังแจกเงินให้กับคนอายุ 16-20 ปี โดยใช้วงเงินครั้งนี้อีก 1.5 แสนล้านบาท เมื่อฟังดูเหตุผลที่รัฐบาลอ้างก็คือ เพราะคนรุ่นนี้มีความคล่องแคล่วชำนิชำนาญกับการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์จึงสามารถใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลได้เป็นอย่างดีแต่ต้องบอกว่าการแจกเงินให้คนกลุ่มนี้คือการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำโดยแท้ เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้นำเงินไปลงทุนแต่อย่างใด เงินที่แจกไปก็จะถูกนำไปใช้เพื่อการกินการอยู่เท่านั้น แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้อาจนำเงินไปจ่ายค่าการศึกษาแทนที่พ่อแม่ต้องจ่าย แต่มันก็คือการจ่ายเงินเพื่อการครองชีพเท่านั้น ไม่ใช่เงินลงทุน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
อันที่จริง รัฐบาลน่าจะมีสติปัญญามากกว่านี้และควรจะต้องรับรู้ให้ชัดว่าปัจจุบันอัตราการบริโภคภายในประเทศไม่ดีเอามากๆ เศรษฐกิจอยู่ในขั้นที่อาจเรียกได้ว่าชะลอตัว ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้ตรงประเด็น ไม่ใช่หว่านแจกเงินไปเรื่อยเปื่อย แบบไร้ทิศทาง ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ก็ต้องย้ำเหมือนเดิมว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีปัญญามากกว่านี้ แล้วจำเป็นต้องรู้ด้วยว่า หากคิดจะแจกเงินแล้ว การแจกเงินไปแต่ละครั้งก็ต้องช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่รู้ว่าแจกไปแล้วไม่เกิดผล แต่ก็ยังคงฝืนแจกไปเรื่อยๆ
มีการตั้งคำถามว่า การจงใจแจกเงินให้คนอายุ16-20 ปี มีนัยการเมืองหรือมีเป้าประสงค์การเมืองแอบแฝงหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าในปี 2570 อาจจะมีการเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศในกรณีที่รัฐบาลอยู่จนครบอายุการทำงานดังนั้น จึงมีผู้มองว่าการจงใจแจกเงินคนกลุ่มนี้คือการซื้อเสียงล่วงหน้า หรือการตกเขียวคนที่จะมีสิทธิเลือกตั้ง สส. ครั้งแรกของชีวิตในอีกสองปีข้างหน้าหรือเปล่า อย่าลืมว่าเด็กอายุ 16 ปี ในวันนี้ เมื่อถึงปี 2570 เขาก็จะมีอายุครบ 18 ปี ซึ่งสามารถมีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี