เห็นฝ่ายประชาธิปไตยหลายคนแห่กันไปปลอบใจ สว.พันธุ์ใหม่ และพรรคประชาชนหน้าสภา แล้วปากล้วยเกลื่อนถนน เป็นการแสดงพลังของซ้ายดื่มไวน์ ซ้ายกิน Cheesecakeที่ปากล้วยแสดงความไม่พอใจ เมื่อพรรคการเมืองแนวร่วมพวกเขาไม่สามารถผลักดันญัตติฉีกรัฐธรรมนูญปี 2560 ผ่านสภาได้
การแสดงพลัง ทำได้แค่ปากล้วยเกลื่อนถนน บ่งชี้ถึงการอ่อนล้าถึงขั้นล่มสลาย ของฝ่ายที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ซึ่งนิยามง่ายๆ ได้ว่า เป็นซ้ายดื่มไวน์ และซ้ายกินชีสเค้กที่เรียก ซ้ายเมาไวน์ ซ้ายชีสเค้ก เพราะนักการเมือง และนักกิจกรรมทางการเมืองเหล่านี้ มีอุดมการณ์แรงกล้า หรือ ไม่เป็นไปตามดีกรีของไวน์ ชีสเค้ก และดอลลาร์ที่หลั่งไหลมาจากมหาอำนาจตะวันตก
ยุคไหนไวน์หลากหลาย ชีสเค้กมากมาย และดอลลาร์ไหลมาเทมา ฝ่ายประชาธิปไตย หรือ ซ้ายดื่มไวน์ ซ้ายกินชีสเค้ก ก็มีพลังสร้างความวุ่นวายในประเทศเป้าหมาย รวมทั้งประเทศไทยได้รุนแรงชนิดที่เรียกว่า ไม่เคยมียุคไหน กล้าบ้าบิ่นคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ได้เท่าซ้ายดื่มไวน์ และซ้ายชีสเค้ก
ปี 2563 เป็นปีที่ซ้ายไวน์ซ้ายชีสเค้ก อาละวาดเต็มที่หลังจากเพนกวิน กินชีสเค้ก ในสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เพนกวิน หรือนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ในนาม ธรรมศาสตร์ไม่ทน เคลื่อนไหวรุนแรงด้วยพลังชีสเค้ก พลังไวน์ และพลังดอลลาร์ ที่เริ่มจาก เพนกวิน ทนายอานนท์ รุ้ง-ปนัสยา และ ไอลอว์ พวกเขาจุดพลุประเด็นปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยหลักการ 10 ข้อ และได้รับการสนับสนุนจากพรรคอนาคตใหม่ ที่มีนโยบายแซะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันเหมือนกัน
ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขัน จากนักวิชาการ และคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ซ้ายดื่มไวน์ ซ้ายกินชีสเค้กด้วยกัน เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย โดยมีจุดมุ่งหมายทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้บานปลายกลายเป็นกลุ่มทะลุแก๊ส ทะลุวัง ทะลุฟ้า และทะลุอะไรต่อมิอะไร ที่พรรคการเมืองรุ่นใหม่กับฝรั่งหัวแดงหัวดำ ให้การหนุนหลัง ที่ดูเหมือนไม่สามารถหยุดยั้งได้
แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่สังคมไทยคงทนไม่ได้กดดันให้รัฐบาล และผู้บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับซ้ายดื่มไวน์ ซ้ายชีสเค้ก รวมทั้งพรรคการเมือง และคนรุ่นใหม่ ความร้อนแรงของคนรุ่นใหม่ก็ค่อยๆ เบาบางลงไป เมื่อหลายคนถูกดำเนินคดี และหลายคนหนีไปต่างประเทศ
สำหรับแกนนำคนรุ่นใหม่ซ้ายชีสเค้ก อย่าง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากอเมริกันโดยการพาหนีศาลตัดสินจำคุกไปอุ้มชูในอเมริกา โดยให้ทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำ การที่อเมริกันเลือกอุปถัมภ์ค้ำชูเฉพาะแกนนำคนสำคัญ ทำให้ขบวนซ้ายดื่มไวน์ ซ้ายกินชีสเค้ก ที่เคยสร้างความวุ่นวายในประเทศไทยได้สำเหนียกว่า เมื่อเกิดปัญหาทางกฎหมายไม่มีใครช่วยได้อีกต่อไป ความเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ค่อยๆ ซาลงไป
ส่วนพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ที่รับงานมาจากวอชิงตัน ก็เริ่มสำเหนียกเช่นกันว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป ความนิยมคนรุ่นใหม่ลดน้อยถอยลง ประกอบกับการเมืองในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเปลี่ยนไป ที่ฝ่ายซ้ายไวน์ ซ้ายฝ่ายชีสเค้กเริ่มโรยรา นักการเมืองฝ่ายขวากำลังมาแรง โดยเฉพาะอย่างในอเมริกาเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมายิ่งใหญ่คับทำเนียบขาวสมัยที่สอง
ปธน.ทรัมป์ ไม่บ้าประชาธิปไตย ไม่ใส่ใจสิทธิมนุษยชน เขาลงนามผู้บริหารตัดเงินช่วยต่างประเทศเกือบทั้งหมดที่พบว่านำเงินไปใช้อย่างไร้สาระในข้ออ้างเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย และบังเอิญการลงนามห้าม องค์กรพัฒนาประชาธิปไตยแห่งชาติหรือ NationalEndowment For Democracy=NED จ่ายเงินสนับสนุนให้นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในทันที
ไอลอว์ พรรคเมืองบางพรรค และ ซ้ายไวน์ ซ้ายชีสเค้ก ตลอดถึงสื่อบางสำนัก นักวิชาการผู้มุ่งมั่นล้มเจ้าเอ็นจีโอ และนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ล้วนแต่ได้รับเงินสนับสนุนจาก NED จึงไม่แปลกใจที่การเคลื่อนไหวสนับสนุนให้ฉีกรัฐธรรมนูญ ปี’60 จึงทำได้แค่เอากล้วยมาทิ้งเรี่ยราดหน้าสภาในเชิงสัญลักษณ์
ในขณะที่ไอลอว์ พรรคส้ม และสว.พันธุ์ใหม่ แสดงพลังทิ้งกล้วยเรี่ยราดหน้าสภา เมื่อวันที่ 13 มกราคม ตามเวลาในประเทศไทย ในวันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนาม คำสั่งฝ่ายบริหารให้ระงับการให้เงินทุนแก่มูลนิธิ National Endowment Democracy หรือ NED ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯเพื่อเข้าแทรกแซงกิจการภายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก พร้อมกับฉายวีดีโอการประท้วงครั้งใหญ่ในยูเครนเมื่อปี 2014 ที่รับเงิน NED ซึ่งเป็นเหตุของความหายนะยูเครนจนวันนี้
ในความเป็นจริงพรรคประชาชน ที่อวตารจากพรรคก้าวไกลและไอลอว์ ตระหนักดีว่าความนิยมในพรรคส้มตกต่ำลงไปจนไม่สามารถเรียกคืนศรัทธาจากฝ่ายซ้ายชีสเค้กกลับมาได้ แต่พวกเขายังหวังลมๆ แล้งๆว่า การเดินหน้าฉีกรัฐธรรมนูญ 60 เป็นหมากตัวสุดท้าย ที่อาจเรียกความนิยมจากติ่งส้มกลับมาได้
ด้วยความไม่เดียงสาทางการเมืองพรรคส้มจึงผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 เข้าสภาหวังเปิดทางตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ใช้แทนรัฐธรรมนูญ 60 ให้ได้ โดยเลี่ยงบาลีว่าแก้บางมาตรา การไร้เดียงสาทางการเมืองจึงไม่สามารถผ่านด่านหินของนักการเมืองเก๋าเกมไปได้
พรรคภูมิใจไทย ที่อาจารย์ใหญ่นอกสภารู้ว่า พรรคส้มไม่เดียงสาและพรรคแดงก็ล้าสมัยจึงเดินเกมการเมืองเงียบ แต่กวาดเรียบตั้งแต่ครั้งเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ต่อเนื่องมาถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเมื่อรู้ว่าแดงล้าสมัยส้มไม่เดียงสา พรรคภูมิใจไทยจึงปล่อยให้แดงกับส้มสุมหัวกันเสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 265 เข้าสภา
เมื่อถึงเวลาน้ำเงินจึงกินทั้งแดง และส้มไปพร้อมกัน จะเห็นได้ว่าในวันที่ส้มเริ่มอภิปรายญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 พรรคภูมิใจไทยลุกขึ้นอภิปรายไม่ร่วมสังฆกรรมโดยกล่าวว่า รัฐสภากำลังอภิปรายในสิ่งที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาเป็นบรรทัดฐานไว้เมื่อในปี 2564 อภิปรายเสร็จ สส.พรรคภูมิใจไทย 70 คน เดินออกจากห้องประชุม และตามมาด้วย สว.และสส.พรรคอื่นๆ ทำให้มีสมาชิกรัฐสภาแสดงตนเพียง 204 คน ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม ต้องหยุดอภิปราย แล้วประชุมใหม่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ซ้ำร้ายไปกว่าวันวานเพราะสมาชิกรัฐสภาแสดงตนเพียง 170 คน จาก สส. สว. รวมกัน 700 คน
พรรคส้ม กับ สว.พันธุ์ใหม่ซึ่งไม่เดียงสาพากันโวยวายว่า หากภูมิใจไทยไม่ต้องการให้มีการอภิปรายแก้ไข มาตรา 265 ทำไมจึงไม่ยกมือสนับสนุนญัตติ สว. เปรมศักด์ิเพียยุระ ที่เสนอให้ศาลรัฐธรรมพิจารณาก่อนว่า แก้มาตรา 256 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
การออกมาโวยวายไม่รู้ว่า พรรคส้มและสว.พันธุ์ใหม่ โง่จริง หรือ แกล้งโง่ ที่ไม่เข้าใจว่าที่พรรคภูมิใจไทยให้อภิปรายญัตติแก้ไขรธน. ก่อนเพราะประสงค์ให้ญัตติแก้ รธน.ตกไปในวาระประชุม และอาจมีผลทางกฎหมายตามมาต่อผู้เสนอญัตติ แต่โชคดีของพรรคส้ม ที่พรรคแดง รู้ทัน เดินออกจากห้องประชุม ตามสีน้ำเงินไปทำให้มีสมาชิกรัฐสภาแสดงตนเพียง 170 คน ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม
ถึงตอนนี้จึงพูดว่า ความไม่เดียงสาพรรคส้ม และความล้าสมัยตกยุคของผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย เรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เลิกพูดกันได้ในวาระสมาชิกสภาชุดนี้
ถึงเวลาที่ติ่งแดง ติ่งส้ม ควรพิจารณาว่าเลือกตั้งสมัยหน้าจะได้ สส.เข้าสภากี่คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคส้มที่ความนิยมตกต่ำอย่างน่าใจหาย และในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ การสนับสนุนจากอเมริกาน่าจะเป็นศูนย์ ประกอบกับขบวนการคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นเนื้อเดียวกับพรรคส้มกำลังล่มสลาย ผู้สนับสนุนแข็งขันในเป้าหมายต่อต้านสถาบันก็อ่อนล้าลงไป ประกอบกับข้อครหามีมากมายจึงเป็นไปได้สูงว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคส้มได้ สส.เข้าสภาไม่น่าจะเกินหลักสิบ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี