“พรรคส้ม” งอกรากขึ้นมาจาก “พรรคอนาคตใหม่” แล้วกลายเป็น “พรรคก้าวไกล” จนมาจบที่ “พรรคประชาชน” ในปัจจุบัน
“พรรคส้ม” นำเสนอตนเองเป็น “พรรคของคนรุ่นใหม่” เป็น “พรรคสมัยใหม่” เคยมีแคมเปญ “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” มาแล้ว
เพียงแต่ไม่ได้บอกว่า ไม่เหมือนเดิมในทางดีหรือในทางเสื่อม
ล่าสุด มีกรณี สส.พรรคส้ม 3 คน ถูกเพจ“วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร” เปิดเผยพฤติกรรม“สูบบุหรี่ไฟฟ้า” ในอาคารรัฐสภา อาคารที่เป็นศูนย์กลางอำนาจของการเสนอกฎหมาย แก้ไขกฎหมายและยกเลิกกฎหมาย โดยที่เขาเหล่านี้ ทำหน้าที่ “นิติบัญญัติ”
วรท ศิริรักษ์ สส.ระยอง, ธิษะณา ชุณหะวัณ สส. กรุงเทพฯ และจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กรุงเทพฯล้วนมีภาพ “สูบบุหรี่ไฟฟ้า” ในอาคารรัฐสภา ทั้งสามคน
1) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการปรากฏภาพ นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม. (ยานนาวา-บางคอแหลม) พรรคประชาชนสูบบุหรี่ไฟฟ้าภายในอาคารรัฐสภาว่า
กระบวนการในพรรคเราดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ปรากฏในหน้าข่าว เรามีคณะกรรมการภายในพรรคพิจารณาดำเนินการตรวจสอบ เรื่องนี้ไม่ต้องมีข้อกังวลอะไร พร้อมย้ำว่า เราดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
ส่วนจะมีการกำชับ สส.ภายในพรรค เรื่องของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่าที่ผ่านมามีการกำชับเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ และตลอดเวลาอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการเห็น คือ ผู้แทนที่ครองตนอย่างเหมาะสม
เมื่อถามว่า จะเป็นการนำเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นการล่าแม่มดหรือไม่ เพราะว่าเป็น สส.คนที่สองแล้วที่ถูกนำภาพมาเผยแพร่ นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำว่า สำหรับภาพที่ปรากฏ ตนไม่อยากไปประเมินว่า จะมีการตั้งใจโจมตีทางการเมืองหรือไม่ เพราะสุดท้ายอยู่ที่การครองตน และการกระทำของพวกเรา ส่วนภาพที่ปรากฏจะมีการดำเนินการภายในพรรคอย่างแน่นอน
2) กี่โมง? คือสำนวนสมัยใหม่ที่นิยมใช้กันในการสอบถามว่า “จะทำเมื่อไหร่”
ถามนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อีกครั้งว่าจะทำเรื่องนี้เมื่อไหร่
เพจ “วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร” เผยภาพ สส.วรท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในจุดห้ามสูบของอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ผ่านมา 1 ปี แล้ว “พรรคส้ม” เคยดำเนินการอย่างไรครับ
เพจ “วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร” เผยภาพ สส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สูบบุหรี่ของอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ผ่านมาแล้ว
1 ไตรมาส “พรรคส้ม” เคยดำเนินการอย่างไรครับ
นี่คือ มาตรฐานของพรรคส้มใช่ไหมครับ เก่งแต่ชี้นิ้วจับผิดคนอื่น พอเป็นพวกเดียวกันทำ ก็จะวางเฉย แล้วปล่อยให้ลืมๆ กันไป ไม่มีการเอาผิดหรือลงโทษกันอย่างจริงๆ จังๆ
3) นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ว่า จากกระแสข่าวที่มีการเผยแพร่ออกมา ผมทราบดีว่าทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความกังวลและมีข้อสงสัย ผมจึงอยากขอโทษจากใจจริงที่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สบายใจ ผมเข้าใจถึงความคาดหวังที่พี่น้องประชาชนมีต่อตัวผมในฐานะผู้แทนและผมเองก็ซาบซึ้งกับทุกความคิดเห็นที่ส่งมา
ผมให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกัน ผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากทางรัฐสภา เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของการเป็นผู้แทนราษฎร
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่า ผมยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
4) “จรยุทธ” ครับ มันไม่ใช่เรื่องประชาชนกังวลใจ สงสัย หรือไม่สบายใจ มันเป็นเรื่องของการ “ทำผิดกฎหมาย” ครับ
ในเพจของพรรคก้าวไกล จรยุทธ ใส่ประวัติของตัวเองเอาไว้ว่า...
2557 - ปัจจุบัน ทนายความอิสระ 2561 - ปัจจุบัน ที่ปรึกษากฎหมายประจำศาลเยาวชนและครอบครัว
เช่นนี้แล้ว พูดมันออกมาสิครับว่า “ผมทำผิดกฎหมาย” ยอมรับ สำนึกผิด และขอโทษ ไม่ใช่มาแบบงงๆ เบลอๆ ว่า รู้ว่าพี่น้องประชาชนกังวล สงสัย ไม่สบายใจ ขอโทษด้วยครับ ผมจะมุ่งมั่นทำงานต่อไปอ้าวเฮ้ย!! เริ่มจาก “ทำตามกฎหมาย” ก่อน ไม่ได้เหรอครับ?
5) กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ “บุหรี่ไฟฟ้า” ในปัจจุบัน มีดังนี้ครับ คุณจรยุทธ ทนายความอิสระ และปรึกษากฎหมายประจำศาลเยาวชนและครอบครัว
1. กรณีผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า - ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
2. กรณีผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า - โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วยนอกจากนั้นยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรพ.ศ. 2560 มาตรา 244 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ผู้ครอบครองหรือรับฝากไว้ - โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560
คุณจรยุทธครับ คุณมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองใช่ไหมครับ และจุดที่คุณสูบ (ตามภาพที่ปรากฏ) นั้นเป็นที่ที่อนุญาตให้สูบบุหรี่ด้วยไหมครับ เรามาตั้งหลักกันที่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกันก่อน เพื่อดู “ความกล้าหาญ” และ “ความตรงไปตรงมา” ของคุณกันก่อน
6) ก่อนหน้านี้ ก็ปรากฏข่าวว่า นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.พรรคก้าวไกล ร่วมพูดคุยในหัวข้อ “นโยบายของรัฐกับการแก้ไขปัญหาความอันตรายจากการสูบบุหรี่” ให้ความเห็นว่า “ในปัจจุบันตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาล อาจจะมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี มีผู้ใช้จำนวนมากแม้แต่ในรัฐสภาเอง
เงินภาษีจำนวนมากจากการซื้อขายดังกล่าวที่ควรจะถูกจัดเก็บเป็นรายได้เข้าประเทศ แต่รัฐบาลกลับเสียโอกาสในการเก็บภาษีส่วนนั้น เพราะมาตรการแบนที่มองจากมุมไหนก็มีแต่ผลเสีย ทั้งเป็นการกีดกันเสรีภาพของผู้บริโภค และเปิดช่องการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐที่จับกุมรีดไถผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยผู้ที่ได้ประโยชน์กลับมีเพียงกลุ่มผู้ค้าของเถื่อนที่นำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมายมาขายให้กับผู้บริโภคทั้งผู้ใหญ่และเยาวชน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทางแก้ที่สำคัญ คือ ควรจะนำบุหรี่ไฟฟ้ากลับเข้ามาควบคุมให้อยู่ในระบบอย่างถูกต้องจะดีกว่า”
สส.วรภพ แนะว่า การควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายจะเป็นแรงขับเคลื่อนในการปรับตัวของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค “นวัตกรรมหรืออินโนเวชั่นที่เข้ามาทำให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น หาก ยสท. ไม่ปรับตัวให้ทัน เราก็เสียโอกาสเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการผู้บริโภค รวมถึง ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวไร่ยาสูบที่ขาดรายได้เพราะไม่สามารถขายผลผลิตให้กับเอกชนและต่างชาติ ในช่วงที่ยสท. ไม่สามารถแข่งขันได้ ถ้ารัฐบาลสามารถปลดล็อกเรื่องนี้ได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทยสามารถประกอบธุรกิจเพื่อแข่งขันกับต่างชาติ เศรษฐกิจไทยคงจะได้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมบุหรี่และยาสูบมากขึ้นอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้จากงานวิจัยทั่วโลกข้อดีที่ชัดเจนที่สุดของบุหรี่ไฟฟ้าก็คือ อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนทั่วไปถึง 95% หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษได้ไปรีวิวงานศึกษาต่างๆ เกี่ยวกับโทษของบุหรี่มวนเปรียบเทียบกับบุหรี่ไฟฟ้า และได้ข้อสรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนถึง 95% ทั้งนี้ สาเหตุหลักๆ ก็เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีกระบวนการเผาไหม้สันดาป จึงไม่ทำให้เกิดสารทาร์ (Tar) ซึ่งเป็นน้ำมันที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ยาสูบและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เป็นมะเร็งปอด นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์แบบบุหรี่มวนด้วย จึงปลอดภัยกว่ามาก
7) เว็บไซต์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้ข้อมูลไว้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ เรื่อง “บุหรี่ไฟฟ้า อันตราย..แม้ไร้ควัน” ว่า เพราะมีสารเคมีอื่นอีกหลายชนิดที่อันตรายต่อสุขภาพ
น้ำยาในบุหรี่ไฟฟ้า ประกอบด้วย นิโคติน ทำให้เสพติดการสูบ, โพรพิลีนไกลคอล ระคายเคืองตา ทางเดินหายใจ ทำให้ไอ ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน, กลีเซอรีน เมื่อผสมกับโพรพิลีนไกลคอล ยิ่งทำให้ไอ หลอดลมตีบ หอบเหนื่อย, สารประกอบอันตราย เช่น สารหนู โลหะหนัก ฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซิน ซึ่งอาจก่อมะเร็ง, สารปรุงแต่งกลิ่น รส และอื่นๆ บางตัวอาจทำให้ปอดอักเสบรุนแรง อาทิ วิตามินอี อะซีเตท
- ไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้ามีขนาดเล็กกว่าบุหรี่ธรรมดา จึงถูกสูดเข้าไปในปอดได้ลึกกว่า จับเนื้อเยื่อปอด และดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็ว ยากที่ร่างกายจะขับออกมาได้หมด
- การสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง และส่งผลต่อพัฒนาการของสมองทั้งต่อทารกในครรภ์ เด็ก และวัยรุ่น
- หลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงหลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และทำให้เสียชีวิตได้
ดังนั้นจึงควรรู้เท่าทัน ไม่เสพบุหรี่ทุกประเภท เพื่อตัวคุณเอง และคนที่คุณรัก
สรุป : คำถามสุดท้าย “พรรคส้ม” จะจัดการตัวเองอย่างไร ในเวลาที่ “บุหรี่ไฟฟ้า” เป็นสิ่งผิดกฎหมาย พรรคส้มจะจัดการกับทัศนคติของตัวเองกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร และที่สำคัญ พรรคส้มจะปกป้องสังคมอย่างไรจาก “บุหรี่ไฟฟ้า”ตอบมา!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี