เดินออกไปหน้าเวที พนมมือไหว้พระ และเคารพต่อภาพของในหลวง ที่นำมาตั้งไว้เด่นเป็นสง่า ในห้องประชุม หยิบไมโครโฟน แล้วเริ่มปราศรัย : -

ท่านผู้มีเกียรติที่ตั้งใจเอาใจมาร่วมงานสำคัญของประชาชน ที่เคารพรักทุกท่านครับที่มาร่วมประกอบและเสริมให้งานวันนี้ มีคุณค่า ความหมายต่อ ประชาชนและบ้านเมือง

ขอกล่าวถึง สตรี : เธอ คือ “สตรีไทย” ที่แบกฟ้าเมืองไทยไว้ครึ่งหนึ่ง

ที่มาของวันสตรีสากล ๘ มีนาคม

มิได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่เกิดขึ้นจาก “จิตใจกล้าหาญเสียสละของเหล่าสตรีทั่วโลก” ที่ได้ลุกขึ้นมายืนหยัดเรียกร้องต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของสตรีและประชาชนทั่วโลกจากจุดเล็กๆ ที่คนทั่วไป ไม่ได้เห็นความสำคัญ และไม่มีความเชื่อมั่นในพลังของประชาชนลุกขึ้นสู้ ล้มลุกคลุกคลาน ลุกขึ้นใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่าจึงมีสตรีและบุรุษ ได้เข้าร่วม มากขึ้น มากขึ้น จนสามารถก้าวฝ่าฟัน มาบรรลุความสำเร็จในขึ้นต้น มาขั้นหนึ่งเป็นที่ยอมรับของ บุรุษ และชาวโลก

แล้วสามารถก้าวเติบโตมาระดับหนึ่ง โลกจึงได้ตระหนักและจารึก “วีรกรรมของสตร” ออกมา ในนามของ “วันสตรีสากล” 8 มีนาคม วันสตรีสากล สตรีเสมอภาคสร้างสรรค์

สตรีไทย ได้เริ่มต้นลุกขึ้น และเดินทางไกล มาเช่นเดียวกันเดินทางมาอย่างยาวนาน เริ่มจาก ผู้นำสตรีในเชิงปัจเจก และต่อมา ถึงมวลชน ที่มีมากขึ้น

ในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖

ประชาชนไทยและชาวโลก ได้เห็น “ภาพของการเดินขบวนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติไทย” ผู้ร่วมนำขบวน ที่ถือ “ธงชาติ และภาพในหลวง” เต็มยาวเหยียดในถนนราชดำเนิน มีนิสิตนักศึกษาสตรี เดินคู่ กับ บุรุษ มีผู้นำสตรีหลายคน ที่ออกมาปราศรัยนำ เช่น คุณเสาวนีย์ ลิมมานนท์ คุณจีรนันท์ พิตรปรีชา ฯลฯ ผู้ที่ร่วมประชุม และทำงานหนักอยู่เบื้องหลัง กมีน้องๆ นิสิตนักศึกษา และนักเรียนจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆ แล้วความสำเร็จ การบรรลุชัยชนะ ได้เกิดขึ้น บนแผ่นดินไทย

และเป็นแบบอย่าง ที่นักศึกษาประชาชนทั่วโลกนำไปกล่าวถึงในประเทศของตน “THAILAND THAILAND THAILAND”.............

หลังจากเหตุการณ์ ปรากฏการณ์ประชาธิปไตยเริ่มเติบโต แผ่ขยายไปทั่วประเทศ ทั้งใน กรรมกรหญิงเช่น กรรมกรฮาร่า HARA ฯลฯ ผู้นำ ชาวนาไทยนักเรียนนิสิต นักศึกษาไทย หญิงไทย ที่ก้าวขึ้นมานำหน้าสังคมร่วมกับชายฯ

และในการชุมนุมใหญ่ทางประวัติศาสตร์ไทยต่อมา ทั้งเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ การเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน ๒๕๔๐ การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนแห่งประเทศไทย การชุมนุมใหญ่ขององค์กรพิทักษ์สยาม การชุมนุมของ กปปส. ฯลฯ รวมทั้งการชุมนุมของประชาชน ในปัจจุบัน ซึ่งล้วนมีสตรี เข้ามานำ มาร่วมฯ ขับเคลื่อน

บทบาทของสตรี ในการเคลื่อนไหว แสดงให้ประชาชนได้เห็นพลังของประชาชนไทยในระดับหนึ่ง

๑.พลังและบทบาท ของสตรีไทย

๒.พลังและบทบาทของบุรุษไทย ที่เข้าร่วมทั้งการสนับสนุนร่วมมือกับสตรีไทย และการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมือง

และต้องเข้าใจร่วมกันให้แจ่มชัด ด้วยสติปัญญา ความจริง ว่า :-

วันสตรีสากล มิใช่ เป็นการแสดงออก เฉพาะบทบาทของสตรีไทย ที่คิดและทำในนามของสตรีมิใช่ หญิงเก่งกว่าดีกว่า ชาย (ที่มีการนำเสนอจากฝ่ายชายบางคน) แต่ ตามความหมาย ตามคำขวัญ ที่บอกชัดเจนสตรีเสมอภาค และสร้างสรรค์ (ร่วมและเท่าเทียมกัน กับบุรุษ และเพศที่สาม) มีแต่ ความรัก ความมีน้ำใจ ความเคารพต่อกัน และความสามัคคีร่วมกัน จึงจักนำไปสู่ความสำเร็จ

ผมโชคดีที่ได้นำตัวนำใจ เข้าร่วมการต่อสู้ของประชาชนไทย มาอย่างยาวนานและต่อเนื่องจึงได้เห็นได้เข้าใจ ได้เรียนรู้ ได้พัฒนาความคิดจิตใจ ถึง “บทบาทสตรีไทย” โดยเฉพาะ

๑.สตรี ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ของคนเดือนตุลา

๒.สตรีรุ่นเก่าแก่ ที่สืบทอด “ความเป็นหญิงแกร่ง สตรีเหล็ก” เป็นแบบย่าง เป็นตำนาน เช่น ป้าอ่อนนางแตงอ่อน จันดาวงศ์ สหายไหม (ภรรยาคุณเปลื้อง วรรณศรี) ป้าน้ำ ป้าลม ป้าไมตรี ป้าอ่อนศรี........

(ภรรยาของผู้นำของพรรคการเมืองอุดมคติ)

หมอไพร (ภรรยาสหายเพชร )........

๓.สตรีที่เป็นผู้นำสังคมในระดับต่างๆ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ หมอเพียร เวชบุล อาจารย์จินตนา ยศสุนทรฯ........

๔.สหายหญิง (ชาย) มวลชนพื้นฐานแห่งการปฏิวัติในฐานะพี่เลี้ยงที่ดูแล มิตรสหาย ในช่วงเข้าร่วมการต่อสู้ฯและที่ขอเน้น ที่เป็นประสบการณ์ของตนเอง ประจักษ์พยาน คือ รอยเข็มนับไม่ถ้วนที่แขนข้างซ้าย จาก “พยาบาลแดง” = หญิงสาวชาวบ้านที่ตื่นตัว เข้าร่วมและได้ร่วมศึกษา และรับการฝึกในการรักษาพยาบาลขั้นต้นจากพรรคฯ

นักศึกษาและชาวบ้าน ที่เข้าป่าฯ ส่วนใหญ่จะเจ็บ ป่วยไข้ โดยเฉพาะ “ไข้ป่า” มาลาเรีย ต้องได้รับการฉีดวัคซีน

ผมหนีไม่พ้น ก็เป็นกับเขาด้วย และในการฉีดวัคซีนเข้าเส้น ส่วนไม่น้อย จะมีการฉีดผิดฉีดถูก จึงมีหลายรู รูจริง รูแทงผิด ฯลฯ

แต่ต้องขอบคุณ “พยาบาลแดง” มาก ถ้าไม่มีเธอไม่รู้ ตอนนี้ ผมจะอยู่ไหนแล้ว

มิตรสหายหลายคนคงจำ “คำทักทายจากพวกเธอ”ที่ว่า

“วันนี้สหายสบายดี บ่”

๕.เพื่อนมิตร รุ่นพี่รุ่นน้อง “สตรี” มากมาย ที่ผ่านการเรียนการทำกิจกรรม ร่วมกันมาในสมัยเรียนที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมทั้งเพื่อนร่วมงานต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตรวมถึงเพื่อนไลน์ เฟซบุ๊ก ผู้ร่วมชุมนุม ฟังการปราศรัย และร่วมงานตามอุดมคติเพื่อบ้านเมือง ที่ให้ความรัก ความเชื่อถือ และให้กำลังใจ มาตลอด

ขอขอบคุณ และขอบอกความในใจว่า “เป็นหยดน้ำใจเล็กๆ ที่มีคุณค่าต่อจิตใจชราชน ๗๖ คนนี้มาก” และขอตอบเป็นคำพูด ที่ผมเคยให้กับ “คุณแม่” ว่า

“จิ๊บ จะไม่ทำให้ป๋าแม่ ผิดหวัง”

และขอสรุปลงในท้ายนี้ เป็นบทเรียนและบทสรุปที่ได้ผ่านประสบการณ์ของตนมายาวนานพวกเรา หญิงชาย ที่มาร่วมงานกันในวันนี้คงมีความรักและความปรารถนาร่วมกันว่า : เราต้องการเดินทางร่วมกันไปบรรลุความสำเร็จให้จงได้เพื่อความรัก ความสุข และผลประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมืองร่วมกัน

โดยเราต้องยึดมั่นในหลักการที่ถูกต้อง คือ

๑.ต้องมีความคิดที่ถูกต้อง

๒.ลงมือปฏิบัติ

๓.สรุปบทเรียน

๔.นำมาพัฒนาตนเอง

๕.ดูผลงาน แล้วกลับไปเริ่มต้นที่ข้อ ๑ ไล่ลงมาใหม่

@ สุดท้าย ขอขอบคุณ “คณะผู้จัดงานในวันสำคัญของประชาชน” ผลงานความสำเร็จของงานอยู่ที่ “ทุกคน ที่มาร่วมงานในวันนี้

1.ท่านได้รับความรู้ความคิดอะไรติดตัวกลับไปบ้าง

2.เมื่อกลับไปแล้ว ได้ลงมือคิดและปฏิบัติอะไรไปบ้าง

3.ผลที่ได้รับเป็นอย่างไร

4.และเมื่อปีหน้า เรามาเจอกันอีก

“ผลงานที่พวกเราได้ลงมือทำไป” คือ คำตอบ

นั้นคือ “ผลสำเร็จ อยู่ที่ตัวเราทุกคน” ได้ทำให้อะไร? อย่างไร? แค่ไหน?

ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งหนึ่ง ที่สุดขอให้ท่านช่วยแสดงความมั่นใจให้ทุกคน และผู้จัดงานวันนี้มีความสุขทุกท่านจะร่วมมือกันทำงานสำคัญเพื่อประชาชนให้เกิดผลสำเร็จไหมครับ

ทำไหมครับ? ทำไหมครับ? ทำไหมครับ?

ทำ ทำ ทำ ทำ ทำ ทำ