วันนี้ 24 มีนาคมเป็นวันแรกของศึกซักฟอก“มาดามแพทองโพย” ซึ่งฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชนจะมีทีเด็ดสมกับราคาคุยหรือไม่ ก็คงจะได้เห็นกัน แต่ที่น่าสนใจนั้น คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะหยิบยกประเด็นไหนขึ้นมาอภิปราย ที่ว่ากันว่าจะสะเทือนไปถึง“ทักษิณ ชินวัตร”
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยล็อคเป้าที่“มาดามแพทองโพย”เพียงคนเดียวของฝ่ายค้านในครั้งนี้ คงไม่ง่ายนักที่ สส.ฝ่ายค้านแต่ละคนที่ลุกขึ้นมาอภิปราย จะอภิปรายกันได้อย่างสะดวกราบรื่น
“องครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับ” 20 คนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็คือองครักษ์พิทักษ์“คุณหนูนายน้อย” ย่อมต้องทำงานกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช เพราะ“มาดามแพทองโพย”คือกล่องดวงใจของ“นายใหญ่”เจ้าของคอก เรียกว่าคงจะถวายหัวปกป้องถึงขนาด“นายข้าใครอย่าแตะ”กันเลยทีเดียว
ปัญหานี้ ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนก็รู้ดี อยู่ที่ว่าจะวางหมากแก้เกมอย่างไร ซึ่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้กล่าวถึง“องครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับ”ของพรรคเพื่อไทยว่า “เขาคงต้องกระวีกระวาดแหละ คุณหนู ลูกนายใหญ่ใช่ไหม พวกเหล่าบรรดาลูกสมุน บรรดาบริวารในกงสีก็ต้องออกมาทำคะแนน ก็เป็นเรื่องธรรมดา มันก็ยิ่งทำให้ด้อยค่าภาวะผู้นำของตัวนายกรัฐมนตรี ก็เหมือนกับลูกคุณหนู ไข่ในหินอะไรอย่างนี้ ต้องมีพี่เลี้ยงคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดอกเช็ดปากตลอดเวลาอะไรอย่างนี้”
ในประเด็นที่เกี่ยวกับ“ดีลแลกประเทศ”ซึ่งพรรคประชาชนได้โหมโรงเรียกน้ำย่อยเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนติดตามศึกซักฟอก“มาดามแพทองโพย” และบุคคลในครอบครัวตระกูลชินวัตรนั้น ถ้าอภิปรายกันเพียงแค่ใช้โวหาร และพูดเรื่องเก่าๆ ที่คนไทยรู้กันดีอยู่แล้ว โดย สส.ของพรรคประชาชนไม่มีข้อมูลเชิงลึกเพื่อจะมัดตัวเอาผิดกับ“มาดามแพทองโดย” ก็ต้องถือว่า“งั้นๆ”ไม่มีอะไรใหม่ที่จะทำให้เกิดผลสะเทือนเลื่อนลั่นได้
เช่นที่พรรคประชาชนเคยโพสต์เมื่อวันที่ 17 มีนาคมสัปดาห์ก่อน ในเฟซบุ๊กของพรรคประชาชน ว่า“เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ เมื่อช้างสารดีลกัน ประชาชนก็แหลกลาญ 18 เดือนภายใต้รัฐบาลที่ดีลกันบนผลประโยชน์ของชนชั้นนำ เหยียบย่ำเสียงของประชาชน คนไทยต้องสูญเสียไปเท่าไหร่ เพื่อให้คนบางคนได้กลับบ้าน ประเทศเสียหายไปแค่ไหน เพื่อให้ แพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี”
ข้อความทั้งหมดนั้น ว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องเก่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล และ“เศรษฐา ทวีสิน”เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงกลางปี 2566 จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็น“แพทองธาร ชินวัตร”ในเดือนสิงหาคม 2567 แต่ปรากฏว่าพรรคประชาชน ไม่เคยหยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาตรวจสอบรัฐบาลแม้แต่น้อย กลับปล่อยให้ผ่านมาถึงทุกวันนี้ นั่นก็เพราะพรรคประชาชน“ค้านไปรอเสียบไป” อันเป็นผลมาจาก“ดีลฮ่องกง” ระหว่าง“ทักษิณ ชินวัตร” กับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”
ประเด็นที่ว่า “เมื่อช้างสารดีลกัน ประชาชนก็แหลกลาญ” ก็เพราะ“ดีลฮ่องกง”ระหว่าง 2 นายทุนเจ้าของพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ที่ได้ตกลงอะไรกันไว้ จึงทำให้พรรคประชาชนตั้งแต่ยังเป็นพรรคก้าวไกลปล่อยปละละเลย ไม่เคยตรวจสอบกรณี“ป่วยทิพย์” บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของ“ทักษิณ ชินวัตร” นับแต่วันแรกที่ทักษิณเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และได้รับการพักโทษกลับไปอยู่บ้าน“จันทร์ส่องหล้า”ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 โดยไม่เคยติดคุกอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว
อีกประเด็นหนึ่งที่พรรคประชาชนโฆษณาเรียกน้ำย่อยว่า “ประเทศเสียหายไปแค่ไหน เพื่อให้ แพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี” ความจริงสิ่งที่พรรคประชาชนควรถามนั้น คือต้องถามตัวเองว่า พรรคประชาชนมัวไปทำอะไรอยู่ จึงปล่อยให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ“มาดามแพทองโพย”ผู้ซึ่ง“ขาดภาวะผู้นำ-ขาดวุฒิภาวะ-ขาดความรู้ความสามารถ”และถูกบิดาชี้นำและชักใยเป็น“นายกฯหุ่นเชิด” ล้างผลาญเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่นำมาแจกในโครงการ“ดิจิทัลวอลเล็ต”อันเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนว่าด้วยการ“ตกเขียว”ของพรรคเพื่อไทย ที่รัฐสูญเงินไปแล้ว 1.8 แสนล้านบาท ทั้งเฟส 1 และเฟส 2
และในเร็วๆ นี้ก็กำลังจะแจกเฟส 3 ให้แก่ประชาชนที่มีช่วงอายุระหว่าง 16-20 ปีอีกคนละ 1 หมื่นบาท จำนวน 2.7 ล้านคน โดยจะใช้เงินประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท
การแจกเงิน 1 หมื่นบาททั้งเฟส 1 และเฟส 2 ไม่เพียงแต่จะไม่เกิด“พายุหมุนทางเศรษฐกิจ”จำนวน 4 ลูกตามที่พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าไว้เท่านั้น เสียงคัดค้านจากพรรคประชาชนเพื่อทำหน้าที่“ตรวจสอบ-ถ่วงดุล”ก็ยัง“เงียบกริ๊บ” จะมีก็เพียงแค่การแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อเท่านั้น ไม่มีผลเกิดขึ้นในทางปฏิบัติที่จะระงับยับยั้งโครงการล้างผลาญงบประมาณแผ่นดินที่ว่านี้ได้
ต้องติดตามดู ว่าจะเป็นไปอย่างที่พรรคประชาชนป่าวประกาศไว้หรือไม่ว่า “ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของพรรคประชาชน เปิดทุกดีลลับ คิดบัญชีทุกความสูญเสีย เปิดทุกแผลที่ถูกหมกเม็ด ของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 24 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป”
บรรทัดนี้ คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า การประท้วงของ 20 องครักษ์พิทักษ์“คุณหนูนายน้อย” คงจะเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับประชาชนคนไทยที่เฝ้าติดตามการถ่ายทอดสดของสภาฯ และก็อย่าไปคาดหวังอะไรให้มากนัก
ควรต้องทำใจร่มๆ หาไม่เช่นนั้น จอไอแพด จอแท็บเล็ต หรือจอทีวีอาจจะได้รับความเสียหายได้ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี