การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามมาตรา 151 ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบรัฐบาลโดยผ่านรัฐสภาโดยพรรคการเมืองฝ่ายค้าน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสามารถกระทำได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยการลงมติต้องเกิดขึ้นหลังวันอภิปรายจบไปแล้วหนึ่งวัน คือไม่สามารถลงมติได้ภายในวันเดียวกับการอภิปรายฯ
แต่สำหรับการอภิปรายฯ ในประเทศไทยนั้น ต้องยอมรับว่าหลายต่อหลายครั้งเป็นการสาดน้ำลายเข้าใส่กันระหว่างผู้ถูกอภิปราย พรรครัฐบาล และบรรดาองครักษ์ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อพิทักษ์ใครบางคนที่ถูกอภิปราย กับผู้อภิปรายฯ และบางครั้งก็ยังมีการสาดน้ำลายกันระหว่างประธานการประชุมอีกด้วย เพราะฉะนั้น การอภิปรายฯ ในสภาของไทยจึงกลายเป็นเวทีละคร ลำตัด งิ้ว หรือการแสดงตลกไร้สาระไปโดยปริยาย โดยเฉพาะในช่วงที่มีการสาดน้ำลายใส่กันอย่างบ้าคลั่ง
ตามปกตินั้น ผลของการอภิปรายฯ มักจะรู้กันตั้งแต่แรกเริ่มแล้วว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเป็นผู้ชนะเมื่อมีการยกมือลงมติ เพราะจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่าฝ่ายค้าน ดังนั้น ในการเมืองไทยจึงไม่ปรากฏว่าเรื่องแพ้ลงมติในสภา แต่อาจจะมีการยุบสภา หรือมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังจากจบการอภิปรายฯ
การอภิปรายฯ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันจันทร์ นับเป็นการอภิปรายฯ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกกับแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยครั้งนี้ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายฯ พุ่งเป้าไปที่แพทองธารเพียงคนเดียว เพราะมองว่าการอภิปรายฯ แพทองธารก็เปรียบเสมือนการจี้และตอกย้ำไปที่แผลเก่าการเมืองของคนในตระกูลชินวัตรได้โดยตรง
มีการเปรียบเทียบความสามารถในการอภิปรายฯ และการชี้แจงคำอภิปรายฯ ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านในหลายแง่มุม และยังดูไปถึงสติปัญญาและข้อมูลในการอภิปรายฯ ของแต่ละฝ่ายด้วย แน่นอนว่าฝ่ายค้านบางคนอภิปรายฯ ได้ดี แม้ข้อมูลจะไม่มีความใหม่สดชนิดที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แต่ก็ต้องชมว่าฝ่ายค้านอภิปรายฯ ได้ดีพอใช้ โดยเฉพาะการเรียงลำดับเหตุการณ์โดยละเอียด เป็นชั้นเป็นตอน ซึ่งช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่น่าจะโปร่งใสขาวสะอาดของแพทองธาร และบุคคลในครอบครัวชินวัตร
แต่ก็ต้องบอกว่าทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยังคงหนีไม่พ้นเรื่องการใช้วาจาเสียดสี ถากถาง เย้ยหยันกันและกันตลอดเวลา ส่วนบรรดา สส. ที่หลายคนวิพากษ์ตรงกันว่าเป็นองครักษ์พิทักษ์แพทองธาร และทักษิณ ชินวัตร ก็ยังคงแสดงความน่าเบื่อด้วยการประท้วงเป็นระยะๆ ด้วยข้ออ้างเดิมๆ คือ ผิดมาตรา 9 หรือไม่ก็ประท้วงประธานการประชุม หรือไม่ก็ประท้วงผู้อภิปรายฯ ซึ่งต้องย้ำว่านี่คือเกมการเมืองแบบตื้นเขินที่ควรจะหมดสิ้นไปได้แล้วในยุคปัจจุบัน
ในการอภิปรายฯ นี้ฝ่ายค้านนำคำศัพท์แสลงบ้าๆ บอๆ ไร้ประโยชน์เข้าไปใช้เป็นระยะๆ ส่วนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ตอบโต้การอภิปรายฯ ก็แสดงอาการและคำพูดประหลาดๆ ไม่สมกับฐานะออกมาเป็นระยะๆ
เมื่อไรหนอการอภิปรายฯ ในสภาของไทยจะเน้นสาระมากกว่าสีสัน เน้นข้อเท็จจริงใหม่ๆ สดๆ มากกว่าการพูดเรื่องเก่าๆ ซ้ำซาก แต่ก็เข้าใจได้ว่าการอภิปรายฯ นั้นจำเป็นต้องใช้เรื่องเก่าเป็นบางประเด็น โดยเฉพาะเรื่องเก่าที่สร้างความเสียหายอย่างมหันต์ให้ประเทศชาติประชาชน เรื่องเก่าที่ฝ่ายรัฐบาลได้พยายามปกปิดหมกเม็ด หรือเรื่องเก่าที่ยังส่งผลกระทบให้สังคมเสียหายร้ายแรง
การอภิปรายฯ ต้องจบลงอย่างแน่นอน ส่วนฝ่ายรัฐบาลก็ต้องยกมือสนับสนุนแพทองธาร และอาจจะมี สส. ฝ่ายค้านบางคนที่ถูกครหาว่าได้รับอามิสสินจ้างเพื่อให้ยกมือสนับสนุนแพทองธาร
หวังว่าการอภิปรายฯ ที่จบลงไปจะทำให้รัฐบาลเร่งปรับเปลี่ยนแก้ไขหรือเลิกพฤติกรรมที่ฝ่ายค้านตอกย้ำว่าเลวร้าย แล้วก็หวังว่าฝ่ายรัฐบาลจะลดความเห็นแก่พวกพ้องในซีกของตนลงบ้าง แล้วพิจารณาว่าสิ่งใดที่ฝ่ายค้านพูดถูกต้อง แล้วฝ่ายรัฐบาลเองก็ต้องช่วยกดดันให้รัฐมนตรีให้ความสำคัญกับสิ่งถูกต้องมากกว่าเดิม ส่วนฝ่ายค้านก็ต้องติดตามกวดจับพฤติกรรมเลวร้ายของรัฐบาลต่อไป แล้วก็หวังว่าประชาชนจะได้ใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากการอภิปรายฯ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกตั้ง สส. ครั้งหน้า เพื่อบ้านเมืองของเราจะได้ปราศจากนักการเมืองสามานย์ ดีแต่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ด้วยกลอุบายชั่วช้าเลวทราม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี