แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
■■ หลักของคุณธรรมคือการคิดด้วยจิตใจที่เป็นกลาง ก่อนที่บัณฑิตจะพูดจะทำสิ่งไร จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อน เพื่อรวบรวมสติให้ตั้งมั่นไม่โอนเอนและให้จิตสว่างแจ่มใส ซึ่งแรกๆ หัด อาจต้องใช้เวลาบ้าง และอาจรู้สึกว่าทำได้ยาก แต่เมื่อปฏิบัติฝึกฝนจนคุ้นเคยชำนาญแล้วก็จะตั้งสติคิดอ่านได้คล่องแคล่วรวดเร็วขึ้น จะแสดงความรู้ความคิดเรื่องใด แก่ใคร ผู้ฟังก็เข้าใจได้ง่าย ได้ชัด ไม่ผิดหลักวิชา ซึ่งเท่ากับได้ปฏิบัติถูกต้องตรงตามคุณธรรมของนักวิชาการอย่างครบถ้วน... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 9 กรกฎาคม 2535)...
■■ และแล้วรัฐบาลก็ดันร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ...... หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ.กาสิโน ที่ถูกเสนอเป็นเรื่องลับมาก ก็ได้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในช่วงสายของวันที่ 27 มีนาคม แล้วจะเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปในวาระรับหลักการ แล้วตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณา และแปรญัตติภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่รัฐบาลก็ยังคงอ้างว่า การพิจารณา พ.ร.บ.นี้ไม่ได้เน้นหนักเรื่องกาสิโน แต่เน้นเรื่องการสร้างรายได้ให้ประเทศเป็นสำคัญ...
■■ เมื่อ พ.ร.บ.กาสิโนเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ก็ทำให้กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกลุ่มกองทัพธรรม รวมตัวที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.กาสิโนต่อนายกรัฐมนตรี แต่สิ่งสำคัญที่ต้องรอดูคือร่าง พ.ร.บ.นี้จะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนฯหรือไม่ หากผ่านก็หมายความว่ามีการทำข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ระหว่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย...
■■ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจบไปแล้ว ด้วยคะแนน 319 ต่อ 162 แต่มีคำถามตามมาว่างูเห่า 7 เสียงที่ยกมือสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคือใครบ้าง แล้วได้อะไรตอบแทนจากการแหกมติของพรรคฝ่ายค้าน...
■■ รายชื่อ สส.ฝ่ายค้านที่โหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคือ กาญจนา จังหวะ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดชัยภูมิ ไชยามพวานมั่นเพียรจิตต์ พรรคไทยก้าวหน้า ส่วนอีก 5 คนมาจากพรรคไทยสร้างไทย คือฐากูร ตัณฑสิทธิ์ สุภาพร สลับศรี รำพูล ตันติวาณิชชานนท์ หรั่ง ธุระพล และอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ ส่วนพรรคเสรีรวมไทยที่มี สส. เพียงคนเดียวก็โหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรี เมื่อเห็นการโหวตของเสรีรวมไทยแล้ว หลายคนงงกับพฤติกรรมการเมืองของเสรีพิศุทธ์ เตมียเวช...
■■ ฉากการเมืองต่อไปคือการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องปรับแน่นอน แม้ แพทองธารจะอ้างว่าไม่ปรับ ครม. แต่คอการเมืองยืนยันว่าต้องปรับ ครม. แน่นอน ส่วนเมื่อปรับแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจะแตกคอกันหรือไม่ ก็ต้องรอดูว่าการเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลลงตัวหรือไม่ หากลงตัวก็ร่วมมือกันต่อไป แต่หากไม่ลงตัวก็จะเกิดอาการกระทบกระทั่งและขัดแข้งขัดขากันเองไปเรื่อยๆ...
■■ รอดูกันว่า 2 เมษายนนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากร (tariff) ในอัตราเท่าไร 15 หรือ 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสินค้าไทยที่ส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐฯ แต่ที่แน่ๆ คือทรัมป์ประกาศแล้วว่ารถยนต์นำเข้าสหรัฐฯ ทุกคันจะต้องเสียภาษีศุลกากรในอัตรา 25 เปอร์เซ็นต์ แต่จนถึงบัดนี้แล้ว ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลไทยประกาศให้ชัดว่าจะหาทางบรรเทาปัญหาภาษีศุลกากรแบบโหดๆ จากสหรัฐฯ ที่จะเรียกเก็บ
จากสินค้าไทยอย่างไร...
■■ ยังคงมีภาพพระเกี้ยวสองแบบสองชนิดในงานเดียวกันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอยู่เช่นเดิม ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก แล้วถ้าหากผู้บริหารจุฬาฯ และคณะจัดงานของจุฬาฯ จะมีความละเอียดรอบคอบและพิถีพิถันในรายละเอียดแล้ว จะไม่มีทางบังเกิดเรื่องพระเกี้ยวสองแบบในงานเดียวกัน เพราะมันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าผู้บริหารจุฬาฯเลินเล่อ จนอาจกล่าวได้ว่าสะเพร่า เพราะตราประจำมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นตราพระสัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังถูกมองข้ามและละเลยจากผู้บริหารจุฬาฯ...
■■ มีเสียงบอกเล่าร่ำลือโจษขานกันหนาหูมากในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในยุคนี้ คำบอกเล่านั้นคือ ผู้บริหารจุฬาฯ ใช้เงินหนักมือมาก ผู้บริหารบางรายสั่งการให้เปลี่ยนชุดรับแขก และโต๊ะทำงาน โดยเน้นว่าต้องหรูหราหมาเห่าจนเกินงาม อันที่จริงก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย หากผู้บริหารจุฬาฯ ต้องการความหรูหราในห้องทำงาน และห้องรับรองรับแขกแบบหรูสุดๆ แล้วควักเงินตัวเองซื้อวัสดุครุภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ แต่นี่ดันใช้เงินของมหาวิทยาลัยราวกับว่ามหาวิทยาลัยพิมพ์เงินได้เอง แล้วหว่านเงินไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อการสร้างเสริมสติปัญญาและความสามารถของนิสิต แล้วพอถึงวันก็ออกมาร้องเรียกให้ชาวประชาช่วยบริจาคทุนการศึกษาให้นิสิตที่ยากจนขัดสน ก็ถ้าหากผู้บริหารจุฬาฯ จะมีความคิดที่ดีกว่านี้ ก็น่าจะประหยัดเงินแล้วนำเงินที่เหลือไปใช้เป็นทุนการศึกษาให้นิสิต หรือไม่ก็นำเงินไปสร้างห้องสมุด ห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการต่างๆ เพื่อพัฒนาให้มหาวิทยาลัยก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1-2 ของเอเชีย แต่นี่เปล่าเลย กลับพบว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยเน้นความหรูหราส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงเรื่องการเพิ่มพูนคุณภาพการศึกษาของนิสิต...
■■ สู้อุตส่าห์ติดตามอาการของคนป่วยโรคเอ็นเปื่อยยุ่ยมานาน หลังจากมีข่าวทักษิณ ชินวัตร ป่วยโรคเอ็นเปื่อยยุ่ย ในที่สุดผาณิต พูนศิริวงศ์ แห่งหนังสือพิมพ์แนวหน้า ก็เข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการเอ็นไหล่ขวาอักเสบจนฉีกขาด ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเพื่อนๆ ชาววัฒนาฯ และเพื่อนชาวธรรมศาสตร์ทราบข่าว ก็ตั้งใจจะไปเยี่ยมคนป่วย แต่ผลปรากฏว่าคนป่วยรายนี้กลับบ้านได้ทันทีหลังจากผ่าตัดได้เพียงหนึ่งวัน ทำให้เพื่อนๆ ผิดหวังมาก เพราะคิดว่าผาณิต ซึ่งอายุอานามใกล้เคียงกับทักษิณจะต้องพักรักษาตัวนาน 180 วัน เหมือนที่ทักษิณอ้าง งานนี้ผาณิตบอกว่าก็ฉันผ่าตัดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ไม่ได้ผ่าตัดที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วก็ไม่ได้พักชั้น 14 แต่พักชั้นสูงกว่านั้น แล้วหมอก็คงเห็นว่าหลังผ่าตัดได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ผาณิตก็แต่งตัวสวยได้แบบฉับพลัน หมอก็เลยบอกว่ากลับบ้านได้แล้วครับ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือผาณิตบอกว่างานนี้สามารถไปเป็นพยานบนศาล เรื่องการผ่าตัดรักษาโรคเอ็นเปื่อยยุ่ยจนเอ็นขาดได้อย่างดี เพราะผ่านสถานการณ์จริงมาด้วยตนเอง เพราะฉะนั้น ก็ขอฝากไว้ตรงนี้ว่า หากศาลจะเชิญผาณิตไปเป็นพยานคดีทักษิณ ณ ชั้น 14 ก็ขอให้บอกมาเจ้าตัวแสนจะยินดีไปให้ปากคำในฐานะผู้ผ่านการผ่าตัดรักษาเอ็นเปื่อยยุ่ยจนขาดผึง...■■
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี