ไหนๆ ก็ไหนๆ กันแล้ว เกี่ยวกับเรื่องกาสิโน ที่มาในรูป“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ซึ่งรัฐบาลชุดนี้โดยพรรคเพื่อไทยจะเอาให้ได้ ส่วนจะดีหรือชั่วไม่ต้องแยกแยะกันแล้ว ขอให้ได้มาซึ่ง“เงิน”เท่านั้น ก็เอากันให้สุดลิ่มทิ่มประตูเลย
ทั้งนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรีได้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ โดยมีมติเห็นชอบกับร่าง“พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...”หรือร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคมสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชนและนักวิชาการ ตลอดจนภาคประชาชนองค์กรต่างๆ ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวในวันที่ 28 มีนาคมเพียงหนึ่งวันนั้น “มาดามแพทองโพย”ได้แถลงว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่ ไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาล หรือการท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่
โดยยืนยันว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่เท่ากับกาสิโน เพราะมีกาสิโนอยู่ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 90 เปอร์เซ็นต์นั้น “มาดามแพทองโพย”ชี้แจงว่า “จะเป็นเรื่อง ฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุ 5 หมื่นคน, อินดอร์สเตเดี้ยมขนาดใหญ่, สวนน้ำ, โรงแรม และร้านอาหาร ที่จะสร้างรายได้กว่า 119,000-238,000 ล้านบาท”
พร้อมกันนี้ “มาดามแพทองโพย”ก็ยังเล็งผลเลิศ โดยท่องโพยจากบทที่มีคนเขียนให้ผ่านไอแพดและเป็นบทซ้ำที่เคยพูดมาตลอดว่า จากการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และมีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น เกิดอาชีพใหม่ รวมทั้งจะทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากกาสิโนและธุรกิจอื่นเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ
ที่สำคัญ“มาดามแพทองโพย”พูดย้ำแบบฟังดูดีแต่ย้อนแย้งกับการมีอยู่ของกาสิโน 10เปอร์เซ็นต์ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่าจะมีกฎหมายเพื่อป้องกันการติดการพนันของคนไทย โดยจะกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามว่า ในเมื่อกลัวว่าประชาชนจะติดการพนัน ทำไมยังดันทุรังที่จะให้มีกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ให้ได้ อีกทั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ตามที่อ้างกัน ก็เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วทำไมจะต้องกังวลว่าคนไทยจะติดการพนัน
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น“มาดามแพทองโพย” หรือนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคล ผู้ซึ่งเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ชี้แจง จึงทั้งไม่ใช่ความจริงและไม่พูดความจริง เสมือน“พรางความจริง” เพราะการมีกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น ที่จริงแล้วก็เพื่อต้องการให้“นักพนันไทย”สามารถเข้าไปเล่นพนันได้อย่างเสรีถูกกฎหมาย
เช่นที่“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” กล่าวถึงข้อกำหนดในร่างกฎหมาย ที่วางเงื่อนไขสำหรับคนไทยที่จะเข้าไปเล่นกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งต้องมีเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน ว่า “คนไทยที่มีเงินจำนวนนี้มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นบัญชี แสดงว่าเรากำลังพยายามผลักคนอีกกว่า 60 ล้านคน ให้กลับไปอยู่ในการพนันที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นก็คงต้องไปถกกันในชั้นกรรมาธิการ ส่วนจะมีมติอย่างไรก็ว่ากัน”
อย่างไรก็ดี นอกจากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างกฎหมายพนันออนไลน์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ว่าวันที่ 1 เมษายน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้นัดหารือเรื่องนี้ ในเวลา 14.00 น.ที่บ้านพิษณุโลก
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การนัดหารือระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล กับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ก็ต้องถูกกดดัน เพราะกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพธรรม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และ นางกรรญดา ณ หนองคาย หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้นำมวลชนเดินเท้าจากสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ไปยังหน้าบ้านพิษณุโลก เพื่อคัดค้านการประชุมของบุคคลทั้งสอง
เพราะฉะนั้น อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น ไหนๆ ก็ไหนๆ ก็เอากันให้สุดลิ่มทิ่มประตูไปเลย ซึ่งฟังจากนักการเมืองพรรคเพื่อไทยทั้ง สส.และรัฐมนตรีแล้ว จะมีการดันร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้บรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาฯวันที่ 9 เมษายน ก่อนจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เมษายน เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาแปรญัติในช่วงปิดสมัยประชุม พอเปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งในวันที่ 3 กรกฎาคมอีกสามเดือนข้างหน้าก็จะเดินหน้าต่อ โดยหวังจะลุยวาระ 2 และวาระ 3 ให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว
เรียกว่าเงิน“ตกเขียว”หาคะแนนนิยมจากการแจกเงิน 1 หมื่นบาทตามโครงการ“ดิจิทัล วอลเล็ต”โดยใช้เงินหลวงก็ถลุงไปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องควักเองแม้แต่สตางค์เดียว ส่วนเรื่อง“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”ก็คือผลประโยชน์ทับซ้อน ที่จะหาเงินก้อนมหึมาจากการออกใบอนุญาตเพื่อใช้เป็น“กระสุน”สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า
จากนี้ไปก็เป็นเรื่องของประชาชนคนไทยที่ไม่เอากาสิโนและพนันออนไลน์ ว่าจะ“หยุดกาสิโน-หยุดพนันออนไลน์-ไล่รัฐบาลแพทองโพย” ได้หรือไม่ เพราะเสียงกลองรบของประชาชนที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้ดังขึ้นแล้ว !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี