การที่บ้านหลังหนึ่งเปิดประตูอ้าซ่ารับใครต่อใครก็ไม่รู้ ให้เข้าบ้านได้โดยไม่ต้องดูหัวนอนปลายตีนของคนเข้าบ้าน นับเป็นความสิ้นคิดของเจ้าของบ้านโดยแท้ เพราะมันคือการปล่อยให้คนทั้งดีและเลวเข้าบ้านได้โดยไม่มีการตรวจสอบแต่ประการใด หากได้คนดีเข้าบ้าน ก็นับว่าดีไป แต่หากได้คนเลว ได้โจรเข้าบ้าน ก็นับว่าซวยยิ่งกว่าซวย แล้วมันไม่ได้ซวยเฉพาะเจ้าของบ้านเท่านั้น แต่ยังซวยไปถึงคนอื่น ๆ ที่อยู่ในบ้านหลังนั้นด้วย

ฉันใดก็ฉันนั้น การที่ประเทศไทยเปิดประเทศอ้าซ่า แล้วปล่อยให้คนทั้งดีทั้งเลวเข้าประเทศได้โดยผ่านนโยบาย VISA Free ก็คือความสิ้นคิดชนิดหนึ่งของรัฐบาล ขอย้ำว่าไม่ใช่แค่เพียงรัฐบาลปัจจุบันเท่านั้นที่ปล่อยให้เกิดนโยบาย VISA Free แต่เรื่องนี้มาเกิดมาแล้วตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น จึงจะด่าเพียงรัฐบาลปัจจุบันไม่ได้ เพราะต้องด่าทุกรัฐบาลที่ปล่อยให้มีนโยบาย VISA Free 

อันที่จริง การมี VISA Free ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแสนสาหัส หากประเทศที่ใช้นโยบายดังกล่าวมีกลไกตรวจตราผู้คนที่จะเข้ามาในประเทศอย่างเข้มงวดกวดขันเพียงพอ และมีหน่วยงานที่จะสามารถตรวจตราได้ว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นคนดี หรือเป็นคนเลว เป็นสุภาพชน หรือเป็นอาชญากร แต่คำถามคือประเทศไทยมีกลไกตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าประเทศได้ดีแท้จริงหรือ

ความจริงแล้วประเทศไทยถูกใช้เป็นแหล่งที่ผู้ก่อการร้ายสากลจำนวนไม่น้อย ใช้เป็นที่พักหลบเร้นซ่อนกาย เมื่ออาชญากรข้ามชาติ หรือเหล่าผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในช่วงก่อเหตุร้ายบนโลกใบนี้ เพราะฉะนั้น เราจึงได้ทราบข่าวเป็นระยะ ๆ ว่ามีผู้ก่อการร้ายบางรายเข้ามาหลบซ่อนในไทย แล้วสุดท้ายก็ถูกจับกุมเพราะหน่วยข่าวกรองของนานาชาติ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ติดตามเข้ามาจับกุมตัว หรือไม่ก็ส่งข่าวมายังเจ้าหน้าที่ของฝ่ายไทยให้ติดตามจับกุมผู้ก่อการร้ายเหล่านั้น

และเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้ปรากฏความจริงว่าทางการจึนได้ส่งหลิว จงอี้ เข้ามาปราบปรามกวาดล้างแก๊งคอลล์ เซ็นเตอร์สีเทาสีดำในพื้นที่ของเมียนมา แต่ทว่าหลิว จงอิ้ ได้เข้ามาใช้ดินแดนไทยในการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเรื่องนี้ก็บ่งบอกให้เห็นได้ชัดเจนว่า การที่แก๊งดังกล่าวเข้ามาในไทย แล้วข้ามไปใช้พื้นที่ของเมียนมา และของกัมพูชาก่อเหตุร้ายแรง ก็เพราะส่วนหนึ่งนั้นเหล่าบรรดาแก๊งอาชญากรจีนได้เข้ามาในไทยด้วยนโยบาย VISA Free ไม่ใช่แค่เพียงแก๊งอาชญากรจากจีนเท่านั้นที่เข้ามาก่อเหตุวุ่นวายในไทย แต่ยังมีแก๊งอาชญากรหรือมาเฟียรัสเซียเข้ามาก่อเหตุวุ่นวายในไทยอีกด้วย

ขอย้ำว่าการใช้นโยบาย VISA Free ไม่ใช่เครื่องยืนยันว่าประเทศไทยจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติชนิดนักท่องเที่ยวคุณภาพเพิ่มมากขึ้น เพราะการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวประเทศไหน เขาไม่ได้ดูจาก VISA Free เท่านั้น แต่เขาดูองค์ประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วย เราเห็นได้ชัดเจนแล้วว่า ในอดีตนั้น แม้ไทยไม่ได้ใช้นโยบาย VISA Free กับประเทศยุโรปตะวันตก แต่ก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวคุณภาพดีจากยุโรปตะวันตกเข้ามาเที่ยวไทยเป็นจำนวนมาก 

ครั้นเมื่อนักท่องเที่ยวตะวันตกที่มีคุณภาพดีเดินทางเข้าไทยน้อยลง รัฐบาลก็จึงเกิดอาการหิวเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเสียจนเข้าข่ายตะกละ ก็จึงเปิดนโยบาย VISA Free ให้กับนักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวบางประเทศ เพื่อหวังจะได้เงินจากการท่องเที่ยวชดเชยนักท่องเที่ยวตะวันตกที่หายไป แต่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไหลทะลักเข้าไทยกลับกลายเป็นอาชญากรผสมกับนักท่องเที่ยวตัวจริง แต่ที่น่าปวดใจคือนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยนั้น ก็กลายเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่มีกำลังซื้อในระดับสูง แต่เข้ามาเพื่อสร้างขยะ เข้ามาบริโภคทรัพยากรธรรมชาติของไทย แต่ที่เป็นปัญหาหนักสุด ๆ คือ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วแปลงกายเปลี่ยนโฉมเป็นโจร ซึ่งมีให้เห็นเป็นประจำ 

การเปิดบ้านอ้าซ่าแบบไม่เลือกหัวนอนปลายตีนของคนเข้าบ้าน ก็คือการเปิดบ้านให้โจรเข้าได้โดยง่าย ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากการเปิดประเทศด้วยนโยบาย VISA Free ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลสิ้นคิด ไร้ปัญญาสร้างเงินตรา หารายได้ให้ประเทศ จึงเปิดบ้านรับโจรให้เข้ามาเต็มบ้านเต็มเมือง สร้างปัญหาให้ประเทศไม่รู้จักจบจักสิ้น